มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 1 ตอนที่ 13 เดินเพ่นพ่านในตำหนักอ๋องกลางดึก

        ท่านอ๋องถลึงตาใส่จ้าวซีเหอหนึ่งที ก่อนจะหันไปมองมองหนิงมู่ฉือที่อยู่ในชุดบุรุษชั่วครู่ เมื่อเดินเข้าไปใกล้จ้าวซีเหอพลันได้กลิ่นแป้งของสตรีฉุนกึก ท่านอ๋องชูมือแล้วฟาดลงไปทันที “เจ้าลูกไม่รักดี! ไปหอจุ้ยหงมาอีกแล้วหรือ!”

        จ้าวซีเหอไม่ทันตั้งตัวจึงหลบไม่ทัน พอตั้งตัวได้ก็รีบวิ่งหนียกใหญ่ พลางกล่าวแก้ตัวไปด้วย “ท่านพ่อ มีหนิงมู่ฉืออยู่ด้วย ลูกจะไปสถานที่แบบนั้นได้อย่างไร เป็นกลิ่นแป้งจากตัวนางต่างหากที่ฉุน!”

        ท่านอ๋องได้ฟังก็รู้ทันทีว่าบุตรชายกำลังโกหก ยิ่งโทโสมากขึ้นไปอีก กล่าวโต้กลับด้วยน้ำเสียงมีน้ำโห “เจ้าลูกไม่รักดี เจ้าคิดว่าพ่อโง่หรือ ที่ตัวนางหนูหนิงไม่มีกลิ่นแป้งสักหน่อย!”

        จ้าวซีเหอจ้องไปที่หนิงมู่ฉือเขม็ง “หนิงมู่ฉือ เจ้ามานี่ บอกกับท่านพ่อข้าไปสิว่า ข้าไปที่หอจุ้ยหงมาหรือเปล่า”

        หนิงมู่ฉือมองจ้าวซีเหอและท่านอ๋องอย่างตระหนก เมื่อเห็นทั้งสองมองมาที่นางอย่างรอคอย และเมื่อเห็นแววตาของจ้าวซีเหอราวกับจะกินนาง นางก้มหน้านิ่ง กัดฟัน เม้มริมฝีปากแน่น ท่าทางแลดูน่าสงสารเหลือคณา จากนั้นส่ายหน้าพลางกล่าวอ้ำอึ้งว่า “บ่าว…บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะ!”

        ครั้นท่านอ๋องเห็นท่าทางของหนิงมู่ฉือ ในใจก็เดาได้ทันที หยิบท่อนไม้จากบนพื้นขึ้นมา ทำท่าจะฟาดไปที่จ้าวซีเหอ

        จ้าวซีเหอเห็นบิดาของตัวเองโมโหจนถึงขั้นจะลงไม้ลงมือ เขารีบตรงไปยืนต่อหน้าบิดาแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย “ท่านพ่อ ลูกยังไม่ได้เล่าให้ท่านฟังเลยว่าฝ่าบาทตรัสอันใดบ้าง!”

        ท่านอ๋องหยุดมือที่ชูขึ้น แค่นเสียงฮึขึ้นจมูก โยนไม้ทิ้งแล้วเอามือไพล่ไว้ด้านหลัง “เจ้าลูกไม่รักดี ไว้หลังจากนี้พ่อค่อยคิดบัญชีกับเจ้าใหม่ ไหนว่ามาซิว่าฝ่าบาทตรัสว่าอันใดบ้าง”

        จ้าวซีเหอรีบวิ่งไปที่พ่อบ้าน เขาแย่งกาน้ำชามาแล้วรินน้ำชาใส่แก้ว นำมาวางตรงหน้าบิดา ก่อนจะเดินอ้อมไปด้านหลัง ทั้งนวดไหล่ทั้งทุบแขนให้ “ฝ่าบาทตรัสว่า พระองค์ไม่มีวาสนาได้ชิมอาหารฝีมือหนิงมู่ฉือ ลูกยังบอกกับฝ่าบาทอีกว่า นางคือสาวใช้ข้างห้องของลูก”

        ท่านอ๋องได้ยินดังนั้นก็ถลึงตามองบุตรชายอีกครา ก่อนจะหันไปมองหนิงมู่ฉืออย่างเป็นห่วง “นางหนูหนิง เจ้าหลอกลวงเบื้องสูงหรือ”

        หนิงมู่ฉือพยักหน้าพร้อมกับคุกเข่าลง กล่าวตอบท่านอ๋อง “ท่านอ๋อง บ่าวอยากอยู่ที่ตำหนักอ๋องแห่งนี้ต่อเจ้าค่ะ อยู่รับใช้ท่านกับซื่อจื่อ ไม่อยากเข้าวัง”

        ท่านอ๋องพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะถอนหายใจออกมา “ลำบากเจ้าแล้ว คนในวังนิสัยล้ำลึกมิอาจคาดเดาได้ ทั้งยังมีอันตรายรอบด้าน อยู่ที่ตำหนักอ๋องของข้าต่อก็ดี ข้าตามใจเจ้า”

        หนิงมู่ฉือมองท่านอ๋องอย่างซาบซึ้งใจ ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงท้องท่านอ๋องส่งเสียงร้องโครกคราก ท่านอ๋องยกมือลูบด้านหลังศีรษะอย่างเก้อเขิน เอ่ยอย่างเขินอาย “นางหนูหนิง หลังจากเจ้าไป ข้าก็ไม่มีความอยากอาหาร”

        หนิงมู่ฉือลุกขึ้นยืนโค้งตัวให้ท่านอ๋องอย่างนอบน้อม “ทราบแล้วเจ้าค่ะ บ่าวจะไปทำอาหารให้ท่านอ๋อง”

        หนิงมู่ฉือรีบเดินไปยังห้องครัว เพียงไม่นานก็ทำอาหารออกมาได้หลายจาน นางนั่งมองคนรับใช้ยกอาหารนำไปให้ท่านอ๋อง

        นางถอนหายใจเมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย นับตั้งแต่เข้าวังจนถึงไปยังหอจุ้ยหง จิตใจของนางเคร่งเครียดราวกับเชือกที่ถูกขึงจนตึง ในที่สุดนางก็จะได้พักผ่อนสักที

        นางนั่งพิงกำแพง ทว่าสักพักนางเห็นหลินมู่เดินเข้ามาในห้องครัว เขาจ้องมองนางจนนางทำตัวไม่ถูก

        นางกับหลินมู่แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกัน หากแต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับเดินตรงเข้ามาหานางพร้อมแววตายากจะคาดเดา

        คุณหนู วันนี้ท่านเข้าไปในวัง ได้เรื่องอันใดกลับมาหรือไม่ขอรับ”

        นางขมวดคิ้วเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือ อยู่ในตำหนักอ๋องให้แกล้งทำเป็นว่าไม่รู้จักข้า”

        หลินมู่ก้มหน้า ยกมือคารวะขอโทษนาง “คุณหนู ข้าน้อยเพียงอยากรีบทวงคืนความยุติธรรมให้สกุลหนิงโดยไวเท่านั้นขอรับ ในวังมีอันตรายรอบด้าน ขอคุณหนูโปรดระวังตัวด้วย”

        นางพยักหน้า “เรื่องนี้ข้าจะระวังตัว หลังจากนี้พวกเราติดต่อให้น้อยที่สุดเป็นดีที่สุด ผู้อื่นจะได้ไม่สงสัย”

        นอกหน้าต่างมีเสียงคนพูดคุยเจี๊ยวจ้าว ทั้งสองคนแกล้งทำท่าเป็นไม่รู้จักกันทันใด

        แม่บ้านพาร่างอันอวบอ้วนผ่านเข้าประตูมาอย่างยากลำบาก เมื่อเห็นหนิงมู่ฉือพลันแค่นเสียงฮึอย่างเย็นชา “เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่ยอมออกไปช่วยงานข้างนอก คิดจะหลบอยู่ในนี้เพื่ออู้งานหรือ”

        หนิงมู่ฉือรู้ดีว่าแม่บ้านไม่พอใจนางสักเท่าใดนัก ประกอบกับฮ่องเต้มีรับสั่งให้นางไปเข้าเฝ้า แม่บ้านต้องยิ่งรู้สึกว่า ตนไม่อาจรักษาตำแหน่งเอาไว้ได้แล้ว

        หนิงมู่ฉือยุ่งกับงานในห้องครัวแบบหัวไม่วางหางไม่เว้น ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้หยุดพัก นางบิดขี้เกียจแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงในห้อง ก่อนจะหลับไป

        หลังจากจ้าวซีเหอกลับถึงตำหนักอ๋อง ในใจรู้สึกไม่สงบอย่างยิ่ง เขาพาหนิงมู่ฉือไปหอจุ้ยหงก็เพื่อจะยั่วให้นางโกรธ ทว่านางกลับไม่มีปฏิกิริยาเลยแม้แต่น้อย ทำให้เขาร้อนใจมาก

        มองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท เขานอนอย่างไรก็ไม่หลับจึงลุกขึ้นมานั่งอย่างโมโห สวมรองเท้า เดินออกไปด้านนอก ตรงไปยังห้องของหนิงมู่ฉือ

        เขาค่อยๆ เปิดประตูห้องนอนเข้าไป เห็นหนิงมู่ฉือหลับสบายอยู่บนเตียง ใบหน้ายามหลับยกเป็นรอยยิ้มน้อยๆ

        ใบหน้าสะสวยของนางยามแสงจันทร์สาดส่องกระทบยิ่งดูงดงามจับตา ขนตางอนยาวสะท้อนเป็นเงาบนแก้ม จมูกโด่งได้รูป ทำให้คนที่เห็นอดไม่ได้อยากจะเข้าไปบีบเล่น ริมฝีปากบางเป็นกระจับ

        เขาเหม่อมองท่าทางยามหลับของนางเนิ่นนานอยู่เช่นนั้น โดยไม่รู้ตัวก็เผลอเอื้อมมือไปลูบใบหน้านาง การกระทำเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง

        หนิงมู่ฉือรับรู้ได้ว่ามีคนมายืนอยู่ข้างๆ นางลืมตาขึ้นก็พบบุรุษผู้หนึ่งกำลังมองนาง นางชกหมัดออกไปโดยพลัน เสียงร้องโอดโอยของบุรุษผู้หนึ่งดังตามมา

        ได้ยินเสียงผู้ชายร้องอย่างเจ็บปวด นางตาโตมองจ้าวซีเหอที่เอามือกุมใบหน้าด้วยความตกใจ น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความหวาดกลัว “ซื่อจื่อ บ่าวขออภัย บ่าวไม่รู้ว่าคือท่าน ดึกดื่นป่านนี้ท่านเข้ามาในห้องบ่าวเช่นนี้เป็นการไม่เหมาะสมนะเจ้าคะ”

        จ้าวซีเหอโมโหยิ่งนัก หน้าเริ่มแดงเถือก ตะโกนออกมาว่า “ข้าอุตส่าห์ช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้ เจ้าตอบแทนข้าเช่นนี้หรือ!”

        หนิงมู่ฉือเบ้ปาก แกล้งทำเป็นร้อนใจขณะมองจ้าวซีเหอ “ซื่อจื่อ ขอบ่าวดูหน่อยเจ้าค่ะ แผลเป็นอย่างไรบ้าง!”

        จ้าวซีเหอผลักหนิงมู่ฉือออก มือยังคงกุมหน้าพร้อมกับลุกขึ้นยืนตะโกนใส่อย่างไม่พอใจ “ชื่อเสียงอันดีงามของข้าถูกทำลายจนสิ้นด้วยน้ำมือเจ้าหมดแล้ว!”

Author Jinovel