หลังจากที่ปราณปรภพอันน่าสะพรึงกลัวสายหนึ่งก่อตัวขึ้นเป็นเสาปราณปะทุจากใต้พื้น พริบตานั้นมันก็ได้กลืนกินหลงซีศิลาเข้าไป
ปราณปรภพอันลี้ลับและมืดมนกัดกร่อนภายในตัวของหลงซีศิลาในพริบตา ทำให้มันแผดเสียงคำรามเกรี้ยวกราดออกมาอย่างเจ็บปวด ราวกับว่าคำรามให้ท้องฟ้าถล่มลงมาก็ไม่ปาน!
ป่าหินด้านหลังของหลงอวี้ได้ถูกเสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดนั่นทำเอาสั่นสะเทือนขึ้นมา หินยักษ์เกิดรอยร้าวก่อนจะร่วงลงบนพื้นทีละชิ้น
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเจ้าหลงซีศิลาตนนี้ได้ถูกหมัดมังกรปรภพของหลงอวี้เข้าไปหนึ่งชุดเต็มจนบาดเจ็บสาหัส แทบจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตแล้ว
ร่างกายที่มีขนาดสูงใหญ่กว่าคนทั่วไปสองเท่าล้มลงพื้น ภายใต้ผิวหนังอันแสนแข็งและทนทานของหลงซีศิลาตนนี้มีลายเส้นสีดำกำลังไหลเวียนปรากฏให้เห็นรางๆ มันคือร่องรอยของการกัดกร่อนของปราณปรภพ
หลงอวี้ใช้เวลาเพียงพริบตาเดียวเท่านั้นก็สามารถสังหารหลงซีศิลาตนนี้ได้
แต่ถึงแม้หลงซีศิลาจะล้มลงไปแล้ว หลงอวี้ก็ยังไม่ได้คลายความระวังตัว เขากลับยิ่งระแวดระวังมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเขารู้ว่ามีโอกาสสูงที่นาคาทมิฬที่ไล่ตามสามคนที่เหลือนั่นจะย้อนกลับมา
ในตอนที่หลงอวี้กำลังคิดเช่นนั้นอยู่นั่นเอง อยู่ๆ ก็มีเงาของงูสีดำตัวหนึ่งปรากฏที่ด้านหลัง
ความเร็วในการลอบโจมตีนั่นแม้แต่หลงอวี้ก็ยังเทียบไม่ได้!
เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากแผ่นหลัง ราวกับว่าถูกงูดำตัวนั้นกัดเข้าไปเต็มปาก!
“แก่นอัสนีซ่อน ระเบิด!”
หลงอวี้เตรียมตัวไว้นานแล้ว กฎเกณฑ์อัสนีซ่อนระดับแก่นที่เขาบรรลุพลันปะทุออกมาจากภายในร่างกาย ทำให้ทั่วทั้งร่างกายของเขาถูกปกคลุมไว้ด้วยอัสนีซ่อนฟ้า!
ตอนนี้ร่างกายของเขาได้ถูกปกคลุมไว้ด้วยประกายสายฟ้าสีม่วงอันสว่างเรืองรอง พลังทำลายล้างของแก่นอัสนีซ่อนนี้ก็ได้สะท้อนกลับไปยังเงางูสีดำที่กัดอยู่ที่ด้านหลังของเขาทันที
เงางูสีดำนั่นได้ปล่อยพิษเข้าไปในตัวของหลงอวี้ แต่ก็ถูกสายฟ้าอันทรงพลังช็อตจนตัวไหม้เกรียม มันจึงเผลอคลายปาก จากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยทันที
เขารู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อส่วนที่ใกล้กับหัวใจที่แผ่นหลังของเขาชิ้นนั้นถูกนาคาทมิฬกัดเข้าไป ทั้งยังถูกปล่อยพิษที่ร้ายแรงถึงชีวิตใส่ด้วย
แต่ยังดีที่ร่างกายของเขาถูกหล่อหลอมด้วยสายฟ้าจนกลายเป็นกายาอัสนีซ่อนแล้ว ตอนนี้เขาจึงมีพลังป้องกันสูงกว่าเมื่อก่อนไม่น้อย
พิษที่ร้ายแรงถึงชีวิตค่อยๆ ไหลเวียนอยู่ภายในเส้นเลือดของเขา พลังของกฎเกณฑ์อัสนีซ่อนที่หลอมรวมเข้ากับกายเนื้อของเขาแล้วคอยสะกดการแพร่กระจายของพิษร้ายเหล่านี้ไว้ตลอดเวลา
แม้เขาจะไม่สามารถสะกดพิษร้ายไว้ได้อย่างสมบูรณ์เพราะความห่างชั้นของระดับพลังก็ตาม แต่เวลาเท่านี้ก็มากพอที่เขาจะจัดการปัญหานี้ได้แล้ว
เขารีบนำมีดสั้นที่ได้มาจากชิวเจิ้นก่อนหน้านี้ออกมาทันที ก่อนจะถ่ายเทลมปราณเข้าไปเพื่อเพิ่มความแหลมคม จากนั้นก็ตวัดลงไปที่แผ่นหลังของตัวเองตรงจุดที่ติดพิษนั่นเพื่อเฉือนเนื้อส่วนนั้นออก!
ชิ้นเนื้อที่ถูกเฉือนนั้นได้กลายเป็นสีดำทะมึนนานแล้ว ตอนที่มันตกลงบนพื้นก็ได้ถูกพิษร้ายกัดกร่อนจนเละไปหมดแล้ว
‘ถ้าไม่ใช่เพราะมีกายาอัสนีซ่อนอยู่ เมื่อครู่นี้ข้าคงตายไปแล้ว’
แม้ในใจของหลงอวี้จะไร้ซึ่งความหวาดกลัว แต่ตัวเขาในตอนนี้ก็มีความรู้สึกตกใจอยู่บ้างเหมือนกัน การลอบโจมตีของนาคาทมิฬมันยากที่จะต้านรับได้จริงๆ!
ยังดีที่หลังจากอีกฝ่ายเปิดฉากลอบโจมตี หลงอวี้ในตอนนี้ก็ได้เตรียมการป้องกันไว้แล้ว
เขาสัมผัสได้ว่ามีจิตสังหารบางๆ สายหนึ่งกำลังพุ่งเป้ามาที่เขาจากทางพุ่มหญ้ารอบตัว หากอีกฝ่ายเปิดฉากโจมตีอีกรอบ หลงอวี้จะสามารถตอบโต้ได้อย่างทันท่วงทีแน่นอน
แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นสีหน้าของเขาก็ย่ำแย่ทันที
‘มีนาคาทมิฬอยู่สองตัวหรือเนี่ย?’
มีเงาของงูสีดำสองตัวเปิดฉากโจมตีใส่หลงอวี้กะทันหันจากทางซ้ายหนึ่งตัวและทางขวาหนึ่งตัว!
ไม่ใช่นาคาทมิฬสองตัว แต่เป็นนาคาทมิฬหนึ่งตัวกับวิญญาณแท้ที่กลายเป็นรูปธรรมแล้วของมันต่างหาก!
นาคาทมิฬแห่งหุบเขาปีศาจเป็นสัตว์อสูรสุดแกร่งระดับวิญญาณแท้ขั้นที่สี่ แน่นอนว่ามันเองก็ย่อมต้องสร้างวิญญาณแท้ขั้นรูปธรรมขึ้นมาได้ด้วยแล้วเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้เอง หลงอวี้จึงไม่อาจรู้ได้เลยว่าระหว่างเงางูสีดำทั้งสองสายนี้ ตัวไหนกันแน่ที่เป็นตัวจริง ตัวไหนเป็นเพียงวิญญาณแท้!
ตอนที่อีกฝ่ายปล่อยวิญญาณแท้ออกมาจู่โจมซ้ายขวาพร้อมกัน มันยังมีคลื่นพิษอันชั่วร้ายอำมหิตสายหนึ่งพวยพุ่งตามออกมาด้วย หากเป็นผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปก็คงได้ติดพิษจากคลื่นพิษนี่แล้วตายทันที
หลงอวี้พลันปล่อยวิญญาณแท้ออกมาทันทีอย่างไม่ลังเล ปล่อยเขตแดนสยบฟ้าอันทรงพลังออกมา ต่อต้านกับคลื่นพิษร้ายของอีกฝ่ายไว้ เมื่อรวมกับที่เขามีกายาอัสนีซ่อนด้วยแล้วก็ทำให้ตัวเขารอดจากพิษร้ายไปได้
ต่อจากนั้นหลงอวี้ก็ได้เร่งเร้าปีกจันทราขึ้นมา ปีกสีเทาดำคู่หนึ่งได้กางขึ้นที่หลังของเขา พริบตานั้นตัวเขาก็ได้กลายเป็นประกายแสงสีเทาดำสายหนึ่ง เคลื่อนหลบการกระหนาบโจมตีของอีกฝ่ายในครั้งนี้ไปได้
เมื่อเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว หลงอวี้ก็ไม่มีทางถูกลอบโจมตีได้ง่ายๆ แน่!
“แย่แล้ว!”
แต่หลงอวี้ที่หลบการโจมตีได้นั้นไม่อาจดีใจได้เลยแม้แต่น้อย เพราะเขาพบว่าเงางูสีดำทั้งสองสายนั้น ถึงแม้จะโจมตีไม่โดนเขา แต่มันกลับพุ่งเข้าไปหาวิญญาณแท้สุริยะของเขาแทน!
ในจังหวะนั้นเองก็ได้มีพลังของกฎเกณฑ์พิษร้ายอันน่าสะพรึงกลัวสายหนึ่งกัดกร่อนวิญญาณแท้สุริยะ แม้วิญญาณแท้สุริยะจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิต แต่ตอนนี้มันกลับถูกพลังของพิษร้ายกัดกร่อนจนเริ่มกลายเป็นสีดำแล้ว
“กลับมา!”
หลงอวี้รีบเก็บวิญญาณแท้กลับเข้าไปในตันเถียนทันที
วิญญาณแท้ที่กลายเป็นรูปธรรมแล้วทรงพลังกว่าวิญญาณแท้สุริยะของเขาที่ยังเป็นเงาอยู่มากเกินไป ไม่อาจต่อกรกับอีกฝ่ายได้เลย
หากเขาไม่เก็บวิญญาณแท้กลับเข้ามา เกรงว่าอีกเพียงอึดใจเดียววิญญาณแท้สุริยะของเขาก็คงจะถูกนาคาทมิฬทำลายทิ้งอย่างสมบูรณ์แล้ว หากเป็นเช่นนั้น หลงอวี้ก็ได้แต่ต้องรอไปอีกหลายเดือนเลยกว่ามันจะฟื้นฟูกลับมาได้
ในตอนที่เขาเก็บวิญญาณแท้กลับเข้ามานั้น เขาก็ได้เอาหอกมังกรปรภพออกมาถือไว้ด้วย จากนั้นก็นำไปย้อมกับเลือดจากปากแผลที่ตัวเขาเฉือนเนื้อออกเมื่อครู่นี้จนปลายหอกกลายเป็นสีแดงฉาน
“แตะเกล็ดมังกร จงพิโรธ!”
หลงอวี้พลิกตัวกลับมาเหวี่ยงซัดหอกมังกรปรภพออกไปทันที หอกมังกรปรภพพุ่งออกไปพร้อมกับจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัว ราวกับว่ามันจะฉีกช่องว่างทั้งผืนนี้ให้ขาดวิ่นอย่างสิ้นเชิงก็ไม่ปาน!
หลงอวี้ถูกนาคาทมิฬทำร้ายจนบาดเจ็บ ทำให้อานุภาพของวิชาแตะเกล็ดมังกรสูงขึ้นกว่าเดิมหนึ่งเท่า ต่อให้เป็นความเร็วระดับของนาคาทมิฬก็ยังไม่สามารถหลบการโจมตีครั้งนี้ได้พ้น
พลันเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นมา หอกมังกรปรภพได้ปะทะเข้ากับเงาของงูสีดำตัวหนึ่ง ทำให้เงาของงูดำตัวนั้นได้ถูกปักลงบนก้อนหินยักษ์ก้อนหนึ่งอย่างแน่นหนา
แต่หลังจากนั้นไม่นาน หลงอวี้ก็พบว่าเงาสายนั้นเป็นแค่วิญญาณแท้ของนาคาทมิฬเท่านั้น
อีกทั้งการโจมตีที่เสริมพลังด้วยวิชาแตะเกล็ดมังกรครั้งนี้ยังไม่อาจทำลายวิญญาณแท้ขั้นรูปธรรมนั่นให้แตกสลายได้ด้วย!
‘หากเป็นเพียงวิญญาณแท้ขั้นเงา มันไม่มีทางถูกท่าแตะเกล็ดมังกรแล้วยังรอดอยู่แน่ เมื่อวิญญาณแท้กลายเป็นรูปธรรมแล้วมันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมสิบเท่าเป็นอย่างน้อยจริงๆ ด้วย…’
หลงอวี้ครุ่นคิดในใจ ตอนนี้หอกมังกรปรภพไม่ได้อยู่ในมือเเล้ว ทำให้เขายิ่งต้องระวังมากขึ้นกว่าเดิม
ทันใดนั้นเอง นาคาทมิฬตัวจริงก็ได้พุ่งเข้าใส่หลงอวี้ตรงๆ จากทางด้านหน้า หลงอวี้เพิ่งจะมองเห็นมันได้ไม่ทันไร อีกฝ่ายก็ได้มาถึงตรงหน้าของเขาแล้ว!
“หมัดมังกรปรภพ!”
หลงอวี้ชกหมัดที่รวบรวมปราณปรภพไว้ออกไป เส้นทางปรภพสายหนึ่งถูกจำลองขึ้นมาแล้วยื่นออกไปในพริบตา!
แต่ในจังหวะที่เส้นทางปรภพกำลังจะครอบนาคาทมิฬไว้แล้วนั่นเอง เงางูสีดำสายนั้นก็ราวกับรู้จักกระบวนท่านี้ของหลงอวี้อยู่แล้วก็ไม่ปาน มันได้ฉีกหลบไปด้านข้างทันทีอย่างรวดเร็ว
ตอนที่หลงอวี้ใช้กระบวนท่านี้สังหารหลงซีศิลาเมื่อครู่นี้ นาคาทมิฬก็กำลังมองดูจากไกลๆ ด้วยเช่นกัน มันย่อมต้องระวังตัวเอาไว้ก่อนอยู่แล้ว!
แต่ความสามารถของหลงอวี้ไม่ได้มีแค่นี้!
“แผ่นสวรรค์จันทรา!”
หลงอวี้ได้ควักเอาแผ่นสวรรค์จันทราที่ย่อส่วนจนกลายเป็นแผ่นหยกชิ้นหนึ่งออกมาจากในอกเสื้อ ต่อจากนั้นก็ได้ลมปราณกระตุ้นขึ้นมา ซึ่งแผ่นหยกก็ได้คืนสภาพกลับมาเป็นแผ่นสวรรค์จันทราที่มีขนาดครึ่งตัวคนแผ่นหนึ่ง
เมื่อแผ่นสวรรค์จันทราปรากฏ พริบตานั้นก็ได้มีปราณจันทราอันรุนแรงเข้มข้นแผ่กระจายออกมาปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ ยิ่งรวมกับจินตภาพจันทราที่หลงอวี้บรรลุได้ก่อนหน้านี้แล้ว มันก็ยิ่งสามารถแสดงพลังออกมาได้รุนแรงมากกว่าเดิม!
พลังของกฎเกณฑ์จันทราอันน่าสะพรึงกลัวได้เปลี่ยนให้พื้นที่บริเวณรอบๆ กลายเป็นดินแดนน้ำแข็งไปในพริบตา แม้แต่การเคลื่อนไหวของนาคาทมิฬเองก็ยังเชื่องช้าลงไปด้วยอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง!
ในขณะเดียวกัน หลงอวี้ที่สร้างสายสัมพันธ์ระดับผสานใจขึ้นกับปีกจันทราแล้ว เมื่ออยู่ภายใต้อาณาเขตของพลังที่แผ่นสวรรค์จันทราปล่อยออกมาแล้วก็สามารถระเบิดความเร็วได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม!
เป็นเพราะรอบๆ ตัวเขาไม่มีผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นๆ อยู่เลยด้วย หลงอวี้ถึงได้กล้านำเอาแผ่นสวรรค์จันทราออกมาใช้ และนี่ก็เป็นสุดยอดไพ่ตายที่ทำให้เขามั่นใจว่าจะรอดชีวิตได้อย่างแน่นอนแม้จะเข้ามาหุบเขาปีศาจวิญญาณสวรรค์เพียงคนเดียว
เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพียงปล่อยแผ่นสวรรค์จันทราออก สรรพสิ่งล้วนกลายเป็นน้ำแข็งในพริบตา!
นาคาทมิฬยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร บนตัวของมันก็ได้ถูกน้ำแข็งเกาะกุมขึ้นมาหนึ่งชั้น อีกทั้งยังความเร็วยังลดลงด้วย ในที่สุดมันก็ได้เผยรูปร่างที่แท้จริงของมันตรงหน้าของหลงอวี้
นาคาทมิฬนั้นแม้จะมีรูปลักษณ์เหมือนกับงูสีดำตัวหนึ่ง แต่กระนั้นบนหัวมันกลับมีใบหน้าของมนุษย์อยู่ด้วย ราวกับว่าเป็นงูผีที่มาจากนรกก็ไม่ปาน
เมื่อนาคาทมิฬมันรู้สึกไม่ปลอดภัยและเริ่มโจมตีหลงอวี้อีกครั้ง หลงอวี้ก็ได้ทุบแผ่นสวรรค์จันทราในมือใส่มันทันที
ในฐานะที่มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่เกิดขึ้นจากการอัดแน่นของพลังกฎเกณฑ์ในฟ้าดิน หากตัวมันเองไม่ต้องการ บนโลกนี้ก็แทบจะไม่มีอะไรที่สามารถทำลายมันได้เลย
แผ่นสวรรค์จันทราได้ฟาดเข้าใส่นาคาทมิฬที่เคลื่อนที่ช้าลงจนปลิวกระเด็นออกไปในพริบตา
ต่อจากนั้นหลงอวี้ก็ได้ใช้วิชาหมัดมังกรปรภพต่อทันที
“ตื่นรู้สู่สังสารวัฏ!”
ปราณปรภพได้ถูกรวบรวมขึ้นที่หมัดของหลงอวี้ กลิ่นอายของวัฏสงสารสายหนึ่งได้แผ่ออกมา
ในจังหวะนั้นเอง อยู่ๆ หลงอวี้ก็เข้าใจในกระบวนท่านี้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เมื่อได้เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ในที่สุดหลงอวี้ก็บรรลุวิชานี้ถึงขั้นกลางได้แล้ว!
ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น แม้หมัดมังกรปรภพจะมีอานุภาพน่าสะพรึงกลัว แต่มันกลับยังมีจุดอ่อนที่ไม่นับว่าเป็นจุดอ่อนอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ ความเร็วในการออกหมัด การจำลองเส้นทางปรภพ การจำลองเส้นทางสังสารวัฏขึ้นมันค่อนข้างเชื่องช้าไปสักหน่อย
หากใช้กับศัตรูที่อยู่ในระดับเดียวกัน ความเร็วในการออกท่าของหมัดมังกรปรภพก็ไม่ได้ช้าอะไรขนาดนั้น สำหรับพวกศัตรูแล้วถือว่าค่อนข้างจะเร็วเลยด้วยซ้ำ
แต่หากศัตรูมีระดับพลังสูงกว่าตัวเองอย่างเช่นนาคาทมิฬที่มีระดับสูงกว่าถึงสองขั้นล่ะก็ การใช้วิชาหมัดมังกรปรภพให้โดนศัตรูจะกลายเป็นเรื่องที่ยากมาก
แต่ตอนนี้ เมื่อหลงอวี้สามารถบรรลุกระบวนท่าตื่นรู้สู่สังสารวัฏถึงขั้นกลางแล้ว จุดอ่อนข้อนี้ก็ได้ถูกอุดไป
ท่าตื่นรู้สู่สังสารวัฏที่บรรลุถึงขั้นกลางแล้ว ขอเพียงหลงอวี้นึกคิดขึ้นมาก็จะมีดินแดนแห่งสังสารวัฏปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าและทำการครอบคลุมศัตรูไว้ สามารถซัดศัตรูเข้าไปภายในวัฏสงสารได้ทันที!
และตอนนี้ หลงอวี้ที่ชกออกไปหนึ่งหมัดแล้วก็ได้มีพลังแห่งสังสารวัฏผืนหนึ่งปกคลุมนาคาทมิฬเอาไว้ในพริบตา ทำให้พื้นที่รอบๆ ถูกแปรเปลี่ยนไปกลายเป็นดินแดนแห่งสังสารวัฏ ทำให้ระดับพลังของนาคาทมิฬลดลงหนึ่งขั้นในทันที
จากระดับวิญญาณแท้ขั้นที่สี่ลดลงเหลือระดับวิญญาณแท้ขั้นที่สาม!
หากหลงอวี้ต้องการจะเอาชนะศัตรูที่มีระดับเหนือกว่าตนถึงสองขั้น อย่างนั้นเขาก็ได้แต่ต้องพึ่งพาความสามารถของกระบวนท่าตื่นรู้สู่สังสารวัฏเท่านั้น!
วินาทีต่อมาคลื่นระเบิดปรภพสายหนึ่งก็ได้ถูกอัดแน่นขึ้นจากปรภพใต้พื้นก่อนจะพวยพุ่งขึ้นมาในพริบตา มันกลืนนาคาทมิฬเข้าไปภายในทั้งตัวจนส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมาอย่างปวดร้าว
นาคาทมิฬระดับวิญญาณแท้ขั้นที่สี่ ตาย!
หลงอวี้ตอนนี้เหงื่อเปียกชุ่มเต็มหัว ด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้ที่เพิ่งจะระดับวิญญาณแท้ขั้นที่สองนั้น การจะฆ่าสัตว์อสูรระดับวิญญาณแท้ขั้นที่สี่หนึ่งตัวมันยังเป็นเรื่องที่ยากเย็นมากเกินไปจริงๆ
ยังดีที่เขามีแผ่นสวรรค์จันทราครึ่งชิ้นอยู่ ทำให้ความเร็วของนาคาทมิฬลดช้าลงอย่างมหันต์ ไม่อย่างนั้นเขาคงกลายเป็นฝ่ายที่ถูกมันฆ่าตายแทนเป็นแน่
ยังดีที่หลงอวี้สามารถเอาชนะมาได้ในท้ายที่สุด
ต่อจากนี้ไปก็เป็นช่วงเวลาเก็บเกี่ยวรางวัลของผู้ชนะ
หลงอวี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินหน้าออกไป ยกหอกมังกรปรภพขึ้นมาก่อนจะคว้านเอาเน่ยตานในตัวของนาคาทมิฬตนนี้ออกมา