มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่ม 1 ตอนที่ 26 วิธีที่จะหลุดพ้นคำสาป

     “นายรอก่อน ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่”

 

       จ้าวเฉินเห้อมองฉันอย่างดุดัน หลังจากนั้นก็ไม่มีความกล้าอีก ตอนนี้ซูหย่าต้องตายแน่นอน ถึงตอนนี้เขาจะไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว คงจะทำได้แค่ไปดูเธอตายเท่านั้น 

 

       ด้วยเหตุนี้จึงทำได้แค่พูดคำที่โหดร้ายมาประโยคหนึ่ง หลังจากนั้นก็หันหลังกลับมานั่งที่โต๊ะ เวลานี้ฉันได้กลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกมเป่ายิ้งฉุบแห่งความตายนี้ 

 

       ฉันที่กุมชีวิต 6 ชีวิตไว้ ยังสามารถช่วยคนอีกหนึ่งคนจากเกมนี้ได้ และตัวเลือกมีอยู่ 3 คนคือ มี่เสี่ยวหยู่ ซูหย่าและหยางย่าซิน ผู้หญิงสองคนนี้ฉันไม่คิดที่จะช่วยแล้ว

 

       เช่นนั้นที่เหลือก็มีแค่หยางย่าซิน เดิมทีหยางย่าซินได้สิ้นหวังไปแล้ว สีหน้าเขาขาวซีดนั่งอยู่ที่โต๊ะ เม็ดเหงื่อเย็นยะเยือกไหลออกมา และรอการมาของความตาย

 

       ตอนที่รอฉันมาหาเขาอย่างช้าๆ เขาเพิ่งพูดอย่างตะลึงงันว่า “นายจะทำอะไร?”

 

       “ฉันจะมาช่วยนายน่ะ ตอนนี้ฉันมี 6 ชีวิต” ฉันมองหยางย่าซินพลางพูด

 

       “อะไร 6 ชีวิตเหรอ?” หยางย่าซินรีบเปิดโทรศัพท์มือถือ เขาเห็นข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ที่อยู่ในกลุ่มว่าชีวิตฉันมี 6 ชีวิตจริงๆ 

 

       “เยี่ยมไปเลย ช่วยฉันด้วย” หยางย่าซินมองฉันตาปริบๆ ฉันได้ผ่านการถูกหักหลังจากมี่เสี่ยวหยู่มาติดๆ กัน ด้วยเหตุนี้จิตใจของฉันได้เปลี่ยนมาเมินเฉย

 

       ฉันรู้ว่า ถึงจะช่วยคนอื่นแล้ว แต่ก็ไม่สามารถแลกความซาบซึ้งใจได้ ก็เหมือนกับมี่เสี่ยวหยู่ ฉันได้ช่วยเธอ ไม่แน่ว่าในใจเธอคิดว่าฉันเป็นคนโง่

 

       ด้วยเหตุนี้เมื่อกี้ฉันจึงยกเลิกที่จะช่วยมี่เสี่ยวหยู่อย่างเด็ดขาด สำหรับซูหย่ายิ่งเป็นไปไม่ได้ ถึงฉันจะช่วยเธอ เธอก็คงจะต้องฆ่าฉันแน่นอน เพราะว่าฉันรู้ความลับของเธอแล้ว

 

       “เพียงแค่นายช่วยฉัน ชีวิตนี้ของฉันก็เป็นของนาย นายจะให้ฉันไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหนก็ได้” หยางย่าซินคุกเข่าลงต่อหน้าฉันโดยตรง แล้วจับขาฉันไว้แน่น

 

       เพื่อนๆ ที่อยู่โดยรอบก็มองเขา ในสายตาล้วนไม่มีการดูถูกเหยียดหยามแต่อย่างไร ถ้าหากเป็นพวกเขา ก็คงทำเหมือนกันแน่นอน ยังไงทุกคนก็เป็นนักเรียนชั้นม.ปลาย ใครๆ ก็ไม่ปรารถนาที่จะให้ตนต้องตายหรอก

 

       “ดีมาก หวังว่านายจะทำได้อย่างที่พูด มิฉะนั้นฉันจะไม่ปล่อยนายไว้แน่” ฉันมอง หยางย่าซินอย่างเยือกเย็นพลางพูด ฉันรู้ว่าคำสัญญาสำหรับบางคนแล้วมีค่าพอที่จะจารึกไว้ตลอดทั้งชีวิต และสำหรับบางคนแล้ว เทียบไม่ได้แม้แต่สตางค์แดงเดียว

 

       “นายวางใจเถอะ เพียงแค่นายช่วยฉัน นายก็คือลูกพี่ใหญ่ของฉัน ให้ฉันทำอะไร ฉันก็จะทำ” หยางย่าซินคุกเข่าลงกับพื้น  สีหน้าขาวซีดและพูดกับฉันอย่างไม่หยุด

 

       ตอนนี้เวลาสิ้นสุดของเกมยิ่งใกล้เข้ามาทุกที จิตใจของหยางย่าซินก็เกือบจะพังลงแล้ว ไม่ว่าเป็นใคร หากรู้ว่าอีกสองสามนาทีนี้ตนเองจะถูกฆ่าตัดตอน ก็ต้องตกใจจนจะขาดใจตายกันทั้งนั้น

 

       “พอเถอะ ฉันจะเชื่อนายสักครั้ง” ฉันพูดอย่างลังเล ยังไง 3 ชีวิตนี้ก็ไม่มีความหมาย ก็ถือว่าให้ประโยชน์แก่หยางย่าซินเลยแล้วกัน

 

       ต่อมาฉันเริ่มยื่นค้อนออกไปตรงๆ ให้หยางย่าซินแข่งเป่ายิ้งฉุบกับฉัน แข่งติดกัน 3 รอบ ฉันออกค้อนทุกรอบ ด้วยนี้การแข่งก็ได้เสร็จสิ้นลงในเวลาแค่สั้นๆ 

 

       หยางย่าซินมองโทรศัพท์มือถือด้วยอาการสันเทา ในโทรศัพท์มือถือปรากฏขึ้นว่าเขามี 3 ชีวิตแล้ว ซึ่งทำให้เขาดีอกดีใจเป็นอย่างยิ่ง เขายังคงคุกเขาอยู่กับพื้น แล้วจับขาฉันไว้พลางพูดว่า “ลูกพี่ หลังจากนี้ชีวิตนี้ของฉันก็เป็นของนายแล้ว ฉันพูดจริงทำจริง”

 

       ฉันพยักหน้าอย่างเมินเฉย หลังจากนั้นก็กลับไปที่โต๊ะ ตอนนี้ก็ 7.54 น.แล้ว เวลาสิ้นสุดของเกมยังเหลืออีก 6 นาที เวลา 6 นาทีถึงจะเป็นฉันก็ไม่สามารถพลิกเกมได้แล้ว ดูแล้วทุกอย่างน่าจะสิ้นสุดลงแล้ว

 

       เวลาผ่านไปทุกวินาทีและทุกนาที ในที่สุดก็ถึงเวลา 8 โมงตรงพอดี หลังจากนั้นโทรศัพท์มือถือของพวกเราก็ดังพร้อมกัน แบบสอบถามใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว ในขณะเดียวกันก็ยืนยันได้ว่าเกมก่อนหน้านี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว

 

       แอคเค้าท์ของเฉินเฟิงเข้าใช้งานอีกครั้ง ในกลุ่มได้เริ่มแบบสอบถามรอบใหม่อย่างต่อเนื่อง

 

       แบบสอบถามครั้งนี้ก็ง่ายพอๆ กัน แต่กลับโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก ซึ่งก็ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปมาก เพราะว่าแบบสอบถามครั้งนี้ ไม่ได้ใช้ให้ใครไปทำอะไร แต่ใช้ให้ไปตายโดยตรง

 

       จะต้องเลือกข้อใดข้อหนึ่งจากตัวเลือก 2 ข้อนี้ สามารถสละสิทธิ์ได้ หากผลโหวตเสมอกันจักต้องดำเนินการพร้อมกัน

 

       ข้อ1 ฉวี๋รั่วปิงจักต้องฆ่าตัวตาย

       ข้อ2 เซี่ยงเหวินเฉิงจักต้องฆ่าตัวตาย

 

       และการโหวตครั้งใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว ทันใดนั้นด้านล่างตึกก็มีเสียงร้องอย่างน่าอนาถดังขึ้น มีนักเรียนตะโกนว่ามีคนตายอย่างไม่หยุด มีคนตายแล้ว และพวกเราทั้งชั้นเรียนก็รีบลงไป ในโกดังหมายเลข 2 ซูหย่ากับมี่เสี่ยวหยู่ได้ตายแล้ว

 

       พวกเธอทั้งสองไม่ได้ตายเพราะคำสาป แต่ทว่าก่อนที่จะเป็นเช่นนี้ ซูหย่าได้ฆ่ามี่เสี่ยวหยู่ หลังจากนั้นตนเองก็ฆ่าตัวตาย ยังไงแล้วเมื่อเทียบกับการลงโทษที่ต้องถูกฆ่าหั่นศพ วิธีการตายอย่างนี้ก็ถือว่าค่อนข้างไม่เร็วเลย

 

       หัวของซูหย่าห้อยลงอยู่ด้านหนึ่ง ส่วนการตายของมี่เสี่ยวหยู่ยิ่งน่าอนาถ ดูท่าน่าจะถูกซูหย่าตีอย่างดุดัน หลังจากนั้นก็ตาย มองโศกนาฏกรรมที่อยู่เบื้องหน้า ฉันทำใจไม่ได้จึงหันหน้ากลับ

 

       ไม่นาน ตำรวจก็มาถึง และตามมาด้วยนายแพทย์นิติเวชชันสูตรศพ ต่อมาก็มีหลักฐานเผยขึ้นมา ไม่นานการตายของซูหย่ากับมี่เสี่ยวหยู่ก็จะปรากฏความจริงแล้ว

 

       นั่นก็เพราะซูหย่าวางยาฆ่าแม่ของเธอเอง และถูกมี่เสี่ยวหยู่ล่วงรู้ ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจฆ่าปิดปาก ในที่สุดเป็นเพราะว่าไม่สามารถปิดบังได้และกลัวความผิดจึงฆ่าตัวตาย

 

       การตายของทั้งสองคน คาดไม่ถึงว่าจะสรุปคดีด้วยเรื่องเหลวไหลและง่ายดายเช่นนี้ แต่ทว่ามีเพียงแค่พวกเราเท่านั้นที่รู้ โศกนาฏกรรมในห้องเรียนเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น

 

       หลังจากกลับมาที่ห้องเรียน ก็เป็นหลังจาก 45 นาทีไปแล้ว

 

       ทุกคนในห้องเรียนล้วนเงียบกริบ และอยู่ในอาการหวาดกลัว มีเสียงร้องไห้ของนักเรียนหญิงออกมาตลอดเวลา

 

       “ทุกคนเงียบกันก่อน” กวานเหยาเดินขึ้นไปที่แท่นพูด ตอนนี้เธอได้เป็นหัวหน้าชั้นคนใหม่แล้ว

 

       “แบบสอบถามครั้งนี้ ไม่มีทางที่จะเลือกแล้ว ทำได้แค่อิงตามความยินยอมของทุกคนแล้ว” เธอปริปากพูดอย่างเลี่ยงไม่ได้ หากเป็นแบบสอบถามสองสามครั้งก่อนหน้านี้ยังจะสามารถเลือกได้

 

       เช่นนั้นครั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกใครก็ต้องตายทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้เธอจึงพูดได้แค่นี้ ฉวี๋รั่วปิงและเซี่ยงเหวินเฉิง ซึ่งสีหน้าของคู่กรณีทั้งสองคนนี้ได้ขาวซีด โดยเฉพาะใบหน้าที่สวยสดงดงามนั้นของฉวี๋รั่วปิงเต็มไปด้วยอาการซึม และน้ำตาไหลพรั่งพรูอย่างไม่หยุด

 

       เธอพูดพึมพำอย่างไม่หยุด “ฉันต้องตายแล้ว จะมีใครจะช่วยฉันได้?” 

 

       เพื่อนที่อยู่ด้านล่างก็กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ว่า ควรที่จะโหวตให้ใคร ฉวี๋รั่วปิงเป็นคนที่ขาวรวยสวยคนหนึ่ง ในชั้นเรียนเธอเป็นสาวภูเขาน้ำแข็ง และเซี่ยงเหวินเฉิงก็เป็นคนสูงหล่อรวยคนหนึ่ง

 

       ความนิยมของทั้งสองในชั้นเรียนก็สูงพอๆ กัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกนักเรียนลังเลกันอยู่บ้าง

 

       “เดี๋ยวก่อน ฉันมีอะไรจะพูด” ในเวลานี้ เกาหมิงได้ยืนขึ้นจากที่นั่งทันที ทันใดนั้น สายตาของเพื่อนที่อยู่โดยรอบก็มารวมกันอยู่ที่เขา

 

       เกาหมิงคือตัวแทนวิชาคณิตศาสตร์ในชั้นเรียนของพวกเรา ผลการเรียนก็ไม่เลว คำพูดของเกาหมิงทำให้คนที่อยู่โดยรอบตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ทุกคนล้วนเพ่งสายตามาที่เกาหมิง แม้แต่ฉวี๋รั่วปิงก็หยุดร้องไห้เหมือนกัน แล้วเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาเฝ้ารอคอย

 

       “จริงๆ ทุกคนเคยคิดถึงปัญหาปัญหาหนึ่งไหม คำสาปนี้คือให้พวกเราโหวต หลังจากนั้นคนที่ชนะผลโหวตจักต้องปฏิบัติตามรายการนั้น มิฉะนั้นจะได้รับการลงโทษ ลองเปลี่ยนคำพูดดู ทุกคนล้วนเลือกที่จะไม่โหวตก็ได้ ทุกคนล้วนสละสิทธิ์” เกาหมิงพูดขึ้นทันที

 

       คำพูดของเขาล้วนทำให้ทุกคนตกใจกันเป็นเสียงเดียว เพื่อนๆ ก็ค่อยๆ ตื่นตัวขึ้น

 

       “ใช่ เกาหมิงพูดไม่ผิด ทุกคนล้วนไม่โหวตก็ได้ อย่าลืมการโหวตเมื่อก่อนล่ะ ชั้นเรียนของพวกเราทั้งหมด 50 กว่าคนแต่ก็ไม่ได้เข้าร่วมทั้งหมด ก็ไม่เห็นจะเกิดอะไรขึ้นเลยนี่?” งั้นก็คือแค่ไม่ต้องโหวต แล้วแบบสอบถามนั้นก็ไม่มีทางดำเนินต่อไปได้ ผลโหวตของทั้งสองฝ่ายล้วนเป็นศูนย์ เช่นนั้นทุกอย่างก็จะสามารถสิ้นสุดลงได้” หวางอู่พูดด้วยความตื่นเต้น

 

       “เกาหมิงนายฉลาดจริงๆ เช่นนี้พวกเราก็ถือว่าได้รับการช่วยเหลือแล้ว”

 

       คนกลุ่มหนึ่งร้องไชโยแล้วพูด แม้แต่กวานเหยาก็มีสีหน้าที่ดีอกดีใจขึ้นมา “ความคิดนี้ไม่เลว พวกเราลองดูหน่อยก็ดีนะ”

 

       ต่อมาเพื่อนๆ ก็เริ่มลองวิธีนี้กัน เวลาในการโหวตมี 4 ชั่วโมงถึงจะสิ้นสุด ภายใน 4 ชั่วโมงนี้ ไม่ว่าใครก็ตามห้ามโหวต มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นศัตรูกับทั้งชั้นเรียน

 

       “ทุกคนนำโทรศัพท์มือถือมาวางไว้ที่ฉัน ทุกคนช่วยกันดู ภายในตลอดทั้งเช้านี้พยามอย่าออกไปนอกห้อง ถึงจะไปห้องน้ำ ก็จะต้องมีคนไปเป็นเพื่อน” กวานเหยาพูด

 

       ข้อเสนอนี้ได้ผ่านการยินยอมจากทุกคนแล้ว แม้แต่ฉวี๋รั่วปิงและเซี่ยงเหวินเฉิงก็เลือกที่จะยินยอม ยังไงทุกคนก็ต้องการจะหลุดพ้นออกจากคำสาปนี้

 

       โทรศัพท์มือถือทุกเครื่องถูกเก็บไว้บนโต๊ะตัวหนึ่ง โต๊ะตัวนี้อยู่ภายใต้สายตาของทุกคน จะไม่มีใครไปหยิบเด็ดขาด และหากมีคนอื่นๆ ออกไป ก็จะมีคนไปกับพวกเขาด้วย โดยเฉพาะฉวี๋รั่วปิงและเซี่ยงเหวินเฉิงสองคนนี้ยิ่งมีคนไปเป็นเพื่อนด้วยไม่น้อย ก็เพื่อต้องการยับยั้งเมื่อทั้งคู่ทนรับความกดดันไม่ไหวแล้วโหวตให้ตนเอง

 

       “ไอ่น้อง ดูไม่ออกจริงๆ นายนี่ก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย คิดไม่ถึงว่าในช่วงเวลาสำคัญยังเก่งได้ขนาดนี้ อีกทั้งยังคิดวิธีแบบนี้ออก” หวางอู่เดินเข้ามาพูดกับเกาหมิงพลางยิ้ม

 

       คนอื่นๆ ก็ทยอยกันชมเชยเกาหมิง ทำให้ใบหน้าของเกาหมิงมีความภาคภูมิใจเสียเหลือเกิน

 

       ในระหว่างคาบเรียน หยางย่าซินเดินมาที่ตรงหน้าฉัน พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “ลูกพี่ นายว่าวิธีการของเขาจะได้ผลจริงๆ ไหม?” 

 

       ฉันมองหยางย่าซินแวบหนึ่ง ตอนนี้เขาให้ความเคารพต่อฉันมาก ดูแล้วฉันเลือกไม่ผิด

 

       “ความเป็นไปได้ไม่มากนัก”ฉันส่ายหน้าพลางพูด

 

       “เป็นไปไม่ได้สิ ฉันรู้สึกว่าวิธีการนี้ไม่เลวเลย เช่นนี้พวกเราก็สามารถหลุดพ้นจากคำสาปนี้ได้แล้ว พวกเราจะได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเมื่อก่อนแล้ว” หยางย่าซินพูด

 

       ฉันตะลึงงันอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นพยักหน้าเบาๆ แต่กลับไม่พูดอะไร วิธีการของเกาหมิง จริงๆ แล้วก็ไม่เลว แต่ทว่าภายในใจฉัน มักจะรู้สึกว่าวิธีการนี้คล้ายกับว่าประมาทไปหน่อย

 

       ไม่นานก็ผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้ว กวานเหยาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิด 1เครื่อง หลังจากนั้นพูดต่อหน้าทุกคนว่า “ดีมาก ตอนนี้ผลการโหวตในกลุ่มยังคงเป็นศูนย์ เพียงแค่ทนต่อไปอีกหน่อยพวกเราก็จะชนะแล้ว”

 

       “เยี่ยมไปเลย!” ทันใดนั้นก็มีคนร้องไชโยขึ้นมา ฉันก็ปรบมืออย่างตื่นเต้นเหมือนกัน เพียงแค่ความรู้สึกไม่สบายใจที่ยิ่งแรงขึ้นภายในใจฉันกำลังบอกว่า วิธีการนี้ได้ตกหล่นอะไรไปจริงๆ 

 

       ตลอดทั้งช่วงเช้าล้วนไม่ได้ศึกษาบทเรียนกันเลย เพราะมันเกี่ยวกับความเป็นความตาย ดังนั้นคนในชั้นเรียนน้อยมากที่จะออกไป ทุกคนล้วนเงียบกริบกัน และรอคอยการสิ้นในท้ายที่สุด

 

       ชั่วโมงที่ 3 ผลโหวตยังคงเป็นศูนย์ คล้ายกับว่ากำหนดสถานการณ์ได้เรียบร้อยแล้ว เพื่อนๆ ทุกคนรู้สึกสบายใจขึ้น และเริ่มพูดคุยกัน

 

       ชั่วโมงที่ 3 กับอีก 30 นาที ผลโหวตเป็นศูนย์

 

       ชั่วโมงที่ 3 กับอีก 59 นาที เวลาที่จะสิ้นสุดการโหวตเหลืออีก 1 นาที ในกลุ่มยังคงเป็นศูนย์ ครั้งนี้ใบหน้าของทุกคนล้วนเผยสีหน้าที่ดีอกดีใจกัน ดูแล้วทุกอย่างน่าจะสิ้นสุดลงแล้ว

 

 

Author Glory Forever