ตอนนี้ราชสีห์หิรัณย์เสียใจที่ตัวเองอธิบายชัดเจนเกินไป เพราะอะไรต้องบอกเรื่องนี้กับเขากัน แทบไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย หลังจากที่ฟังแล้วเขากลับอยากให้ตนเป็นหนูทดลองหรือ
“ไม่ เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้ แม้ก่อนหน้านี้ข้าจะอยากกินเจ้าแต่เจ้ากลับช่วยข้า ทั้งข้ายังอธิบายให้เจ้าฟังมากมาย หากเจ้าดูดโลหิตจากข้า ข้ารับรองเลยว่าจะไม่บอกอะไรเจ้าอีก อีกหน่อยต่อให้เจ้าจะตีข้าจนตาย ข้าจะไม่ยอมปริปากเล่าอะไรให้เจ้าฟังอีก”
นึกไม่ถึงว่าสัตว์เทพตัวนี้จะกลัวตนมากเช่นนี้ มันแทบร้องไห้ออกมาเสียด้วยซ้ำ
“อ้อ อย่างนั้นหรือ เจ้าขู่ข้าไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด เพราะข้าเป็นคนที่ใจใหญ่ ไม่กลัวอะไรง่ายๆ อยู่แล้ว”
“เสี่ยวเหยียน ไม่สิ พี่เหยียน ขอร้องเจ้า ปล่อยข้าไปเถอะ ข้ารับรองว่าหลังจากนี้ข้าจะหาปีศาจอสูรที่ดุร้ายยิ่งกว่าเอามาให้เจ้าฝึก”
หลงเหยียนเก็บพลังกลับมา มองมันด้วยรอยยิ้มแล้วใช้มือลูบขนสีทองที่แข็งกระด้างบนตัวมัน
“อืม เช่นนี้ค่อยน่าฟังหน่อย เห็นแก่ที่เจ้าซื่อตรง ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่เจ้าจำคำของตนไว้ให้ดีเล่า อีกอย่างเมื่อครู่เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ พี่เหยียน… ข้าชอบมาก ข้าตัดสินใจแล้ว อีกหน่อยเจ้าเรียกข้าว่าพี่เหยียนแล้วกัน”
ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น ท้องฟ้าก็มีเสียงร้องที่แหลมเล็กดังขึ้น หลงเหยียนเงยหน้ามอง นกขนาดใหญ่กระพือปีกบินอยู่ด้านบน อีกทั้งยังส่งเสียงร้องคล้ายกำลังตื่นเต้นไม่น้อย
หลงเหยียนขมวดคิ้วมุ่น เงยหน้ามองท้องฟ้า นกตัวนี้ใหญ่โตยิ่งนัก เกรงว่ามีขนาดใหญ่กว่าราชสีห์หิรัณย์สามเท่า
ถึงกระนั้น หลงเหยียนสัมผัสได้ว่านกอินทรีตัวนี้ไม่ได้มีพละกำลังมากนัก เป็นเพียงอสูรขั้นที่หนึ่งเท่านั้น
หลงเหยียนรู้จักนกชนิดนี้ดี ตำราในตระกูลหลงมีบันทึกถึงมัน เล่ากันว่ามันเป็นนกสายฟ้าที่เร็วปานสายฟ้า ความเร็วในการบินสูงกว่าอินทรีเสียอีก ถึงแม้เป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในระดับแรกแต่กลับเร็วจนน่าประหลาด ทั้งยังยากในการฝึก สามารถบอกได้ว่าเมื่ออยู่กลางอากาศมันไร้เทียมทาน
นึกไม่ถึงว่าเขาจะพบนกสายฟ้าที่นี่ ดูเหมือนมันกำลังตื่นเต้นมาก กรงเล็บใหญ่ๆ ที่แหลมคมของมันสามารถแทงทะลุหัวคนได้ มองไปแล้วน่าเกรงขามไม่น้อย
“เจ้าสารเลวนั่นอยากกินพวกเราหรือ?”
แววตาของราชสีห์หิรัณย์แฝงความเร้าใจเช่นกัน มันส่งแรงออกที่เท้าหลัง เตรียมพร้อมรับการต่อสู้แล้ว
“เสี่ยวเหยียน เร็วเข้า รีบใช้ประสานจิตของเจ้าดูดมันลงมา ข้าหิวมากแล้ว วันนี้ข้าต้องได้กินอิ่มสักมื้อ”
ลิ้นที่แลดูหิวกระหายยื่นออกมา น้ำลายไหลออกมาจนท่วม! หลงเหยียนเห็นแล้วสะอิดสะเอียน
หลงเหยียนไม่ได้ขยับ เพียงแค่จ้องราชสีห์หิรัณย์ด้วยสายตาเฉยชา…
“คือ… พี่ พี่เหยียน เมื่อครู่ข้าตื่นเต้นมากไปหน่อยเลยลืมตัว!”
หลงเหยียนไม่สนใจมันอีกแล้วปล่อยรังสีพลังออกไปจากร่างกาย พละกำลังที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เขามีพลังระดับชีพมังกรขั้นที่ห้าสูงสุด พลังก่อตัวอยู่รอบๆ ตัวเขา
นั่นคือพลังที่ถูกปล่อยออกมาจากพลังสายฟ้า
“กรร!” วินาทีต่อมา นกสายฟ้าโค้งตัวพุ่งลงมาทางหลงเหยียนด้วยความเร็วสูง แม้กระทั่งหลงเหยียนยังรู้สึกได้ถึงพลังที่ถูกส่งมาจากห้วงอากาศ
“กายธาตุพลัง!” หลงเหยียนคำราม แสงสีแดงสดถูกปล่อยออกมาจากก้อนหิน ปกคลุมทั่วอากาศ
“กรร!” นกสายฟ้าถูกแสงสีแดงสดปกคลุม หลงเหยียนสัมผัสได้ว่าธาตุพลังที่ร้อนระอุกำลังแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของมันและพลังปราณก็กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว
บนท้องฟ้าที่ห่างออกไปประมาณร้อยเมตร โลหิตที่หนาใหญ่ในนั้นเต็มไปด้วยธาตุพลังสีขาว ภาพตรงหน้าทำให้นกสายฟ้าหยุดชะงัก
วิธีการดูดธาตุพลังของสัตว์เทพโบราณกลับถูกชายหนุ่มผู้นี้ใช้ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังใช้กับตัวของนกสายฟ้า
พลังปราณลดลงอย่างรวดเร็ว นกสายฟ้าตะเกียกตะกายหวังเอาชีวิตรอด คล้ายอยากหลุดจากการควบคุมของหลงเหยียนเช่นนั้น
“กายธาตุพลัง!” หลงเหยียนระเบิดเสียงคำรามอีกครั้ง
พลังมหาศาลรวมกับธาตุพลังจากก้อนหินทำให้โลหิตของนกสายฟ้าถูกดูดในเสี้ยววินาที
ร่างขนาดใหญ่กำลังร่วงลงมากลางอากาศ จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงดังโครม… มันกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง
ทว่ามันยังไม่ตาย หลงเหยียนเห็นสายตาเคียดแค้นของมันก็พอรู้ว่าคงไม่พอใจกับผลลัพธ์
โลหิตปริมาณมหาศาลไหลเข้าสู่หินวิเศษอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถูกหลอมกลายเป็นพลังปราณ
เวลานี้เอง ขณะที่หลงเหยียนกำลังทดลองความแข็งแกร่งของจิตตัวเองนั้น ในที่สุดราชสีห์หิรัณย์ก็ทนไม่ไหว มันกระโจนเข้าไปฉีกกัดเนื้อของนกสายฟ้าอย่างตะกละตะกลาม กลิ่นคาวเลือดฟุ้งไปทั่ว
นี่ก็คือกฎของห่วงโซ่อาหาร คือการดำรงชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย หลงเหยียนหันกลับไปสัมผัสพลังปราณในร่างกาย เริ่มใช้กายสุริยะหลอมพลังปราณพวกนี้ให้บริสุทธิ์กว่าเดิม
นกสายฟ้าที่มีขนาดใหญ่กว่าราชสีห์หิรัณย์สามเท่ากลับแห้งเหี่ยวภายในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วที่เหลือก็ถูกราชสีห์หิรัณย์กินจนเหลือแต่กระดูก
ดูเหมือนราชสีห์หิรัณย์จะพอใจเป็นอย่างมาก มันกำลังจะหันกลับมาขอบคุณหลงเหยียนสำหรับอาหารในมื้อนี้
เพิ่งหันกลับมา การเปลี่ยนแปลงของหลงเหยียนกลับทำให้มันต้องตกใจจนเหงื่อท่วมตัว
ร่างกายหลงเหยียนเกิดการเติบโตอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาไม่กี่วินาทีร่างกายกลับใหญ่กว่าเดิมสี่ถึงห้าเท่า อีกทั้งยังเหมือนกำลังขยายไม่หยุด ดูเหมือนหลงเหยียนกำลังเจ็บปวดมากเช่นกัน
แขนของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ขนนกสีทองเริ่มยาวอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ปกคลุมเต็มตัวหลงเหยียนแล้ว
ส่วนมือและเท้าของเขาก็เปลี่ยนไป มันขยายใหญ่กว่าเดิม เมื่อหลงเหยียนสังเกตเห็น เขาก็ตกใจกับการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน
ร่างกายเขาเปลี่ยนกลายเป็นผิวหนังของนกทอง แต่เมื่อลองสัมผัสก็พบว่ามันแข็งแรงมาก คาดว่าหลังจากร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ชั้นป้องกันของเขาต้องสูงขึ้นมาก
สิ่งเดียวที่ยังไม่เปลี่ยนก็คือช่วงศีรษะ ถึงแม้จะขยายใหญ่ขึ้นมากก็มิอาจปิดกั้นความหล่อเหลาของใบหน้านั้นอยู่ดี
“โฮก!” เสียงคำรามของมังกร
หลงเหยียนมองการเปลี่ยนแปลงของร่างกายทั้งหมดนี้เกิดจากพลังจากหินวิเศษทั้งนั้น แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ก็น่ากลัวเกินไปหน่อยมิใช่หรือ ร่างกายเต็มไปด้วยพลังปราณ จากนั้นก็เติมเต็มทั่วร่างกายเขา
เวลาถัดมา พลังปราณทำลายขนนกที่ปกคลุมทั่วตัว เขาในร่างเดิมยืนอยู่กับที่ เกราะเกล็ดสีทองเหล่านั้นทำให้หลงเหยียนแลดูสง่ามาก
เกล็ดนกสีทองคมดั่งใบมีดที่แหลมคม หลงเหยียนชกออกไปหลายหมัด กลางอากาศเกิดพลังที่ทะลุทะลวง เมื่อเหวี่ยงออกไปหนึ่งหมัด เกรงว่ามันเทียบเท่ากับพลังของเซียวปิงมั่วระดับชีพมังกรขั้นที่เจ็ดแล้ว สามารถชกเขากระเด็นออกไปในหมัดเดียว
มองลงไปด้านล่าง ร่างกายของเขาขยายใหญ่จนเกือบถึงสิบเมตร ส่วนราชสีห์หิรัณย์ที่อยู่ข้างๆ นั้นตกใจมากจนอ้าปากค้าง ตอนนี้มันเป็นเหมือนจุดสีดำในตาหลงเหยียน
ขอแค่หลงเหยียนส่งแรงถีบแรงๆ ก็ทำให้ราชสีห์หิรัณย์ลอยออกไปได้แล้ว…
ราชสีห์หิรัณย์มองสภาพของหลงเหยียนในตอนนี้ หลงเหยียนโค้งตัวลงมาลูบหัวของมันที่กำลังอึ้งอยู่หลายครั้ง
“สิงโตน้อย เจ้าว่าข้าออกไปเจอคนแบบนี้คงไม่เหมาะใช่ไหม แบบนั้นคนอื่นก็เห็นว่าข้าเป็นปีศาจอสูร คงฆ่าข้ากันพอดี”
ราชสีห์หิรัณย์มองหลงเหยียนอย่างระมัดระวัง กลัวพูดอะไรไปจะทำให้เขาโมโห
“พี่… พี่เหยียน ท่านในตอนนี้ดูสง่าเหลือเกิน ร่างธาตุพลังแข็งแกร่งมากจริงๆ”
หลงเหยียนโมโหเล็กน้อย “นี่ข้ากำลังถามเจ้าอยู่นะ!”
——————–