ซูเจี่ยนอันนานๆ ทีถึงยอมกลับมาที่บ้านหลังนี้ นั่นก็เพราะว่าอย่างน้อยเธอยังสามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของแม่ได้จากห้องที่แม่เธอเคยอยู่ตอนยังมีชีวิต
แต่บรรยากาศนั้นคงหาได้แค่เพียงในห้องนี้เท่านั้น เพราะเมื่อเก้าปีก่อนหลังจากเจี๋ยงเสวี่ยลี่ย้ายเข้ามา เธอได้เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่แม่เธอเคยวางประดับไว้ออกไปทั้งหมด ในตอนนั้นเด็กอายุสิบห้าอย่างเธอทำได้แค่เพียงปกป้องห้องนี้เอาไว้ เธอไม่มีวันยอมให้ใครมาแตะต้องของในห้องนี้เด็ดขาด จึงถูกเจี๋ยงเสวี่ยลี่ตบหน้าเข้า แต่เธอก็กัดแขนของเจี๋ยงเสวี่ยลี่กลับจนช้ำอย่างไม่เกรงใจเช่นกัน จนท้ายที่สุด พ่อเธอจึงยอมย้ายไปอยู่อีกห้องหนึ่งกับเจี๋ยงเสวี่ยลี่แทน ห้องนี้จึงยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ได้
ทุกครั้งที่เธอกลับมาที่ห้องนี้ เธอจะรู้สึกว่าแม่ยังคงอยู่ข้างเธอ ดั่งกับว่าหากเธอยื่นมือออกไป ก็จะถูกมืออันอบอุ่นของแม่กุมเอาไว้อย่างแน่นอน แต่ทว่าฝุ่นที่เกาะอยู่บนเฟอร์นิเจอร์กลับสะท้อนความจริงอันโหดร้ายว่า เธอได้เสียแม่ไปนานมากแล้ว ว่าแล้วเธอจึงม้วนแขนเสื้อขึ้นและเริ่มทำความสะอาดห้องทุกซอกทุกมุม
ใกล้เที่ยงแล้ว เวลาผ่านไปโดยที่เธอไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย ห้องที่เคยถูกฝุ่นเกาะเต็มไปหมดถูกเธอทำความสะอาดเสียจนสะอาดเอี่ยม เธออารมณ์ดีขึ้นมาก จึงเดินออกจากห้องไป และได้เห็นซูหยวนหยวนวิ่งจากหน้าประตูห้องไปหาลู่เป๋าเหยียนที่กำลังขึ้นบันไดมาพอดี
“พี่เขยคะ” ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มอย่างเป็นธรรมชาติ และทรงผมประบ่าม้วนลอนเล็กน้อยทำให้ซูหยวนหยวนดูสวยใสน่าทะนุถนอม
“สร้อยคอที่พี่ให้มา ฉันชอบมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอพูดพลางจับสร้อยคอราคาแพงที่เธอใส่ไว้เรียบร้อย ความดีใจเหมือนจะเอ่อล้นออกมาผ่านรอยยิ้มนั้น
“ไม่เป็นไรครับ” ลู่เป๋าเหยียนตอบ
“พี่ขึ้นมาทำอะไรบนนี้คะ ชั้นสองไม่มีอะไรน่าดูหรอกนะคะ” ซูหยวนหยวนคล้องแขนลู่เป๋าเหยียนอย่างเป็นธรรมชาติ “ลงข้างล่างกันเถอะค่ะ ฉันอยากอวดสร้อยเส้นนี้ให้พ่อกับแม่ดูว่ามันสวยแค่ไหน”
ลู่เป่าเหยียนขมวดคิ้วพลางแกะมือซูหยวนหยวนออกจากแขนของเขา แต่ซูหยวนหยวนกลับร้อง “อุ๊ย” แล้วล้มไปพิงลู่เป๋าเหยียนในทันใด สีหน้าดูเจ็บปวด
“พี่ช่วยพยุงฉันหน่อยได้ไหมคะ เหมือนฉันจะขาพลิกแล้วล่ะค่ะ ไม่รู้เป็นเพราะว่าเมื่อกี้วิ่งเร็วไปหรือเปล่า ตอนนี้เจ็บขามากเลย”
พูดจบเธอก็ก้มตัวลงเพื่อจะดูว่าขาของเธอเป็นอย่างไร แต่ด้วยท่าทางนั้น สายชุดกระโปรงของเธอเลื่อนตกจากไหล่จนเผยให้เห็นเนินอกของเธอ
“เส้นเอ็นหรือกระดูกได้รับบาดเจ็บใช้เวลารักษาร้อยวัน1” ซูเจี่ยนอันเดินเข้ามา เธอช่วยซูหยวนหยวนจับสายชุดกระโปรงกลับขึ้นไปอยู่ที่เดิม ยิ้มแล้วพูดว่า “หยวนหยวน เธอควรพักผ่อนให้มากๆ อย่าวิ่งไปวิ่งมาจะดีกว่า เดี๋ยวฉันเรียกน้าหลิวมาช่วยประคองเธอ”
ระหว่างรอน้าหลิวขึ้นมาข้างบน ซูเจี่ยนอันยิ้มพลางมองลู่เป๋าเหยียน “ที่รัก ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยสิ”
ดวงตาคู่งามของเธอส่องประกายสดใส คำเรียกแสนสนิทสนมที่ออกมาจากริมฝีปากชมพูระเรื่อของเธอ ทำให้หัวใจของลู่เป๋าเหยียนกระตุกโดยไม่รู้ตัว แต่เขากลับตอบกลับเพียงคำว่า “อืม” เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คุณเคยบอกฉันว่า คุณชอบผู้หญิงสวยและจิตใจบริสุทธิ์ใช่ไหมคะ” พูดจบเธอก็มองไปทางซูหยวนหยวน สีหน้าของซูหยวนหยวนเปลี่ยนไปในทันที
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มบาง
“ครับ” เขายกมือจับเส้นผมที่ข้างแก้มขึ้นมาทัดหูของเธอแล้วพูดว่า “ผู้หญิงแบบคุณไงครับ ภรรยาของผม”
เขาเรียกเธอว่าภรรยา?
ตึง…สติเธอหลุดลอยไปแล้ว เธอมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา รอยยิ้มปนหยอกเย้าของเขาเหมือนจะแทรกซึมเข้าไปในสมองเธออย่างไรอย่างนั้น สมองเธอขาวโพลน รับรู้เพียงแต่สัมผัสและไออุ่นจากนิ้วของเขาที่ลากผ่านแก้มของเธอไปเมื่อสักครู่
และเพราะลู่เป๋าเหยียนโอบเอวเธอแล้วดึงเข้ามาใกล้ เธอถึงได้สติขึ้นมา ไม่อย่างนั้น ละคร ‘โชว์หวาน’ ฉากนี้คงดูไม่เนียน
ความรู้สึกแปลกๆ ที่มาพร้อมสัมผัสของเขา เหมือนว่า…เธอจะไม่ได้รังเกียจอะไร
หลังจากที่จูนสติตัวเองกลับมาได้ เธอถึงรู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเธอจะใกล้ชิดกับลู่เป๋าเหยียนมากเกินไปแล้ว จึงคิดจะออกจากวงแขนของเขา แต่กลับถูกเขารัดแน่นยิ่งขึ้นไปอีก
เธอฝืนยิ้มหวานปนส่งสัญญาณเตือนให้กับลู่เป๋าเหยียน
ลู่เป๋าเหยียนหาได้สนใจสัญญาณของเธอไม่ ดูท่าเขาจะรู้สึกสนุกอยู่ไม่น้อย
ในที่สุดน้าหลิวก็ขึ้นมา ซูเจี่ยนอันกำชับ “หยวนหยวนเจ็บขา ช่วยพาเธอลงไปทีค่ะ”
น้าหลิวจึงช่วยประคองหยวนหยวนที่ดูเหมือนจะไม่เต็มใจลงไปทันที
ซูเจี่ยนอันหุบยิ้มแล้วมองหน้าลู่เป๋าเหยียน “นี่นายจะเอาเปรียบฉันไปถึงเมื่อไร”
มือของเขายังอยู่บนเอวเธออยู่เลย!
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนถูกปรักปรำ “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้” เขาชี้มือของเธอที่กำลังจับมือเขาอยู่ “เธอต่างหากคิดจะเอาเปรียบฉันถึงเมื่อไรกัน”
บ้าชะมัด! ซูเจี่ยนอันรีบชักมือกลับมาทันใด พร้อมกันนั้นลู่เป๋าเหยียนก็ปล่อยมือออกจากเอวเธอ
หน้าของเธอเริ่มร้อนขึ้นมา เพราะไม่อยากเถียงกับเขาต่อว่าใครกันแน่ที่เอาเปรียบ เธอจึงรีบวิ่งลงไปข้างล่าง
*************************
1 คำพูดติดปากของชาวจีน มักใช้ตอบเวลาคนไข้ที่มีอาการบาดเจ็บของเส้นเอ็นหรือกระดูกถามว่า เมื่อไรตนจะหายเป็นปกติ