หลังกินข้าวเช้าเสร็จ ซูเจี่ยนอันนึกขึ้นได้ว่าตนไม่มีรถ แล้วจะไปทำงานอย่างไรล่ะทีนี้ เธอจึงขอให้ลุงสวีช่วย
“ลุงสวีคะ รบกวนช่วยให้คนไปส่งหนูที่ออฟฟิศได้ไหมคะ”
“คนขับรถไปส่งแม่บ้านซื้ออาหารตั้งแต่เช้าแล้วครับ” ลุงสวีมองไปที่ลู่เป๋าเหยียน “ทำไมคุณชายไม่ไปส่งคุณผู้หญิงล่ะครับ”
“หนูไม่อยากให้เขาไปส่ง!”
นั่งรถลู่เป๋าเหยียนไปสถานีตำรวจจะสะดุดตาเกินไป…เธอไม่กล้าคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา
ลู่เป๋าเหยียนเพิ่งเคยถูกคนปฏิเสธแบบนี้เป็นครั้งแรก เขาหรี่ตา “ไม่ให้ฉันไปส่ง? งั้นเธอคงทำได้แค่ติดรถฉันไป” พูดจบเขาก็สวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกไป
“ลุงสวี เขาหมายความว่าอะไรคะเนี่ย” ซูเจี่ยนอันมองแผ่นหลังของลู่เป๋าเหยียนอย่างงงๆ
“ผมจัดรถให้ไม่ได้ คนขับรถก็ไม่ว่างไปส่งคุณผู้หญิง” ลุงสวีพูด “ที่จริงที่สิ่งคุณชายจะสื่อค่อนข้างชัดเจนนะครับ นั่นก็คือวันนี้คุณผู้หญิงคงต้องติดรถเขาไปทำงาน ไม่มีทางเลือกอื่น”
“เขา…เขาเอาจริงเหรอเนี่ย” เธอชักโมโห เขามีสิทธิ์อะไรมาเผด็จการกับเธอแบบนี้
ลุงสวีพยักหน้า “ครับ ที่จริง…ไม่ว่าเรื่องอะไรคุณชายมักจะทำอย่างตั้งใจเสมอ”
“ไม่หรอกค่ะ” เธอเดินออกไปอย่างหงุดหงิด “ที่แต่งงานกับฉัน เขาไม่ได้ตั้งใจ”
“…” ลุงสวีขยับปากอย่างสองจิตสองใจ แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไรออกมา ช่างเถอะ…สิ่งที่ต้องรู้ สักวันคุณผู้หญิงก็จะรู้เอง
สุดท้ายซูเจี่ยนอันก็ต้องขึ้นรถไปกับลู่เป๋าเหยียน แต่เธอไม่ได้ให้เขาส่งเธอถึงหน้าสถานีตำรวจ เมื่อเหลือระยะทางอีกประมาณหนึ่งกิโลเมตรจะถึงจุดหมาย เธอก็พูดขึ้นว่า “เดี๋ยวฉันเดินต่อไปเอง”
ลู่เป๋าเหยียนเหยียบเบรก ซูเจี่ยนอันรีบลงจากรถ ส่วนเขาก็มุ่งหน้าไปที่บริษัท ไม่นานหลังจากนั้นเสิ่นเยว่ชวนก็ได้โทรเข้ามา
“ฉันมีข้อมูลหนึ่งที่นายน่าจะสนใจ” เสิ่นเยว่ชวนกล่าว “วันนั้นที่ลั่วเสี่ยวหยางบอกว่า เจี่ยนอันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน ผู้ชายที่เธอสนิทสนมมากที่สุดก็คือเจียงเส้าข่าย คุณชายใหญ่ของตระกูลเจียง ฉะนั้นคนที่เจี่ยนอันชอบน่าจะเป็นเขา จะเอาไงต่อดีล่ะ”
ลู่เป๋าเหยียนคิดถึงวันที่ไปจดทะเบียนสมรส เจียงเส้าข่ายเองก็พูดว่าซูเจี่ยนอันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว แถมยังเดาว่าเป็นเขาอีก ตอนนั้นซูเจี่ยนอันเองก็ถึงกับชะงักไป เธอมองตาเจียงเส้าข่ายเหมือนมีอะไรในใจ
ที่แท้ คนที่เธอชอบคือเจียงเส้าข่าย?
“ฮัลโหล?” เสิ่นเยว่ชวนถามขึ้นอย่างสงสัย “ยังฟังอยู่หรือเปล่า”
“เธอจะชอบใครก็ไม่เกี่ยวกับฉัน” ลู่เป๋าเหยียนตอบเสียงเย็น “การที่นายว่างไปทำเรื่องไร้สาระ แสดงว่ามีเวลาว่างมากสินะ ไปแอฟริกาทำธุระให้ฉันหน่อยแล้วกัน”
เสิ่นเยว่ชวนโดนเขาไล่ไปแอฟริกาอย่างไร้เยื่อใย
อีกด้าน ซูเจี่ยนอันเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไร จู่ๆ ก็มีรถมาจอดข้างเธอ
เจียงเส้าข่ายลดกระจกรถลง “ว่าไงคุณนายลู่ นี่ลู่เป๋าเหยียนปล่อยให้เธอเดินไปทำงานได้ลงคอเหรอเนี่ย”
ซูเจี่ยนอันเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งอย่างไม่เกรงใจ “อย่าเรียกมั่วซั่ว นายก็รู้ว่าที่ฉันทำไปเพราะต้องการรักษาชีวิตตัวเอง”
เจียงเส้าข่ายยิ้ม ขยับเข้ามาใกล้ซูเจี่ยนอัน “ชีวิตหลังแต่งงานช่วงไม่กี่วันมานี้เป็นไงบ้างล่ะ”
ซูเจี่ยนอันใช้นิ้วชี้ดันหน้าผากเขาให้ถอยออกไป “ชีวิตแต่งงานฉันจะเป็นยังไงก็ไม่เกี่ยวกับนาย ผู้ชายขี้เม้านี่ไม่เท่เอาซะเลย แล้วก็นะ ฉันแต่งงานมีสามีแล้ว ช่วยรักษาระยะห่างจากฉันนิดนึง”
“เชอะ! พอแต่งงานแล้วก็ทิ้งเพื่อนเลยนะ ระวังเถอะ ฉันจะปล่อยข่าวว่าภรรยาของผอ.ลู่คือแพทย์นิติเวชหญิง!”
ซูเจี่ยนอันเตะเจียงเส้าข่ายไปหนึ่งที “อะไรคือการเน้นว่า แพทย์นิติเวชหญิง นายเองก็แพทย์นิติเวชชายเหมือนกันล่ะน่า!”
เจียงเส้าข่ายยิ้มแล้วขับรถ BMW 760 ของเขาออกไป ตำแหน่งรถของเขาอยู่ข้างหลังเยื้องกับแอสตันมาร์ติน ONE 77 พอดิบพอดี
เมื่อลู่เป๋าเหยียนมองผ่านกระจกหลังไป ก็พบรถคันหนึ่งดูคุ้นตา แถมซูเจี่ยนอันยังนั่งอยู่ในนั้นอีก
ที่เธอให้เขาจอดกลางทาง ก็เพื่อจะขึ้นรถไปกับเจียงเส้าข่าย? หรือว่าที่เสิ่นเยว่ชวนพูดจะเป็นเรื่องจริง?
ในตอนนั้นเอง เขาอยากจะลงจากรถไปลากซูเจี่ยนอันออกมา
แต่ว่า…ทำไมจู่ๆ เขาถึงมีความคิดชั่ววูบแบบนี้ได้นะ คิดแล้วลู่เป๋าเหยียนจึงเร่งความเร็ว แอสตันมาร์ตินคันงามได้แซงรถข้างหน้าผ่านไปหลายต่อหลายคันอย่างรวดเร็ว
ซูเจี่ยนอันไม่ทันสังเกตเห็นรถของลู่เป๋าเหยียน เธอคุยกับเจียงเส้าข่ายตลอดทางจนถึงสถานีตำรวจ พอเดินเข้าไป ก็เห็นเพื่อนร่วมงานกำลังยืนเกาะกลุ่มเม้าข่าวหานรั่วซีถูกลู่เป๋าเหยียนทิ้งกันอยู่
หัวหน้าทีมอาชญากรรมอย่างสารวัตรเหยียน ผู้ซึ่งเป็นแฟนคลับตัวยงของหานรั่วซีถึงกับถอนหายใจหลังอ่านข่าวจบ
“เฮ้อ ผู้หญิงคนไหนกันที่แย่งผู้ชายไปจากหานรั่วซีได้! อย่าให้รู้นะว่าใคร ไม่งั้นฉันจะ…ขอบคุณเธอ! เพราะถ้าเธอไม่แย่งลู่เป๋าเหยียนไปล่ะก็ เมื่อไรนางฟ้าจะกลับสู่อ้อมกอดของพวกเรากันล่ะ ฮ่าๆๆ อ้าว เจี่ยนอันกลับมาแล้วเหรอ ลาไปตั้งหลายวันไปทำอะไรมาละเนี่ย”
ซูเจี่ยนอันลูบจมูก “ไปนำนางฟ้ากลับสู่อ้อมกอดของพวกคุณไง”
เรื่องของเธอกับลู่เป๋าเหยียน ที่สถานีตำรวจมีเพียงเจียงเส้าข่ายเท่านั้นที่รู้
“ว่าไงนะ?” สารวัตรเหยียนฟังไม่ค่อยถนัด
“ไม่มีอะไรค่ะ” ซูเจี่ยนอันตอบแล้วจึงรีบเดินเข้าห้องทำงานไปพร้อมกับเจียงเส้าข่าย