มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 1 บทที่ 23 พวกเราคงต้อง…นอนเตียงเดียวกัน

        เธอกับลู่เป๋าเหยียน จนถึงตอนนี้ยังคงเป็นแค่สามีภรรยากันในนาม แถมพวกเขายังตกลงกันเสร็จสรรพอีกว่าจะหย่ากันในอีกสองปีข้างหน้า

        แล้วจะไปมีลูกได้อย่างไร?

        หัวข้อนี้…ทดสอบความเขินอายของเธอชัดๆ!

        ซูเจี่ยนอันหน้าแดงเป็นลูกตำลึง เขินจนไม่รู้จะเอามือไม้ไปวางไว้ตรงไหน เธอกล้าไม่สบตาถังอวี้หลัน ยิ่งไม่กล้ามองหน้าลู่เป๋าเหยียน

        ลู่เป๋าเหยียนมองสีหน้าซูเจี่ยนอันอย่างนึกสนุก ทีคืนแต่งงานยังบอกให้เขาถอดเสื้อผ้าให้เธอดูอยู่เลย แล้วตอนนี้จะเขินทำไมกัน?

        แต่คงต้องยอมรับว่า พอเธอเขินขึ้นมาก็ยิ่งน่ามองขึ้นไปอีก ดวงตาที่ดูเหมือนกวางน้อยที่ตื่นตระหนกคู่นั้น ทำให้เขารู้สึกว่า…ถ้าไม่แกล้งเธอสักหน่อยคงรู้สึกผิดกับตัวเอง

        เขาโอบเธอเข้ามาอย่างใกล้ชิด “เรื่องนี้ เราเคยคุยกันไว้แล้วนี่นา”

        ซูเจี่ยนอันงงเสียยิ่งกว่างง ทำไมเธอถึงนึกไม่ออกเลยว่าเคยไปคุยกับเขาเรื่องนี้ตอนไหน แต่สีหน้าท่าทางของเขาทำไมดูมั่นใจขนาดนั้น เธอจึงทำได้แค่ขดตัวอย่างกังวลอยู่ในอ้อมแขนเขา

        “คะ…เคยด้วยเหรอ?”

        “เธอลืมไปแล้วเหรอ” ลู่เป๋าเหยียนยิ้มบาง สายตามองเธออย่างรักใคร่ “ตอนนั้นเธอยังบอกอีกว่า เธอชอบเด็กๆ มาก”

        ซูเจี่ยนอันมั่นใจว่าตนไม่เคยพูดแบบนั้นออกไป ตานี่จงใจแกล้งเธอ แต่อยู่ต่อหน้าถังอวี้หลันจะเถียงออกไปก็ไม่ได้ จึงทำได้แค่เพียงฝืนยิ้มกลับไป

        ถ้าลู่เป๋าเหยียนพูดอีกว่าพวกเธอวางแผนจะมีลูกเร็วๆ นี้ละก็ เธอมีแผนรับมือแล้ว นั่นก็คือ หลับตาลงแล้วแกล้งตายซะ…

        “แต่ว่าเจี่ยนอันยังเด็กอยู่ พวกเราจึงไม่รีบครับ” ลู่เป๋าเหยียนพูดขึ้นมา “ผมกับเจี่ยนอันตั้งใจว่าอีกสองปีถึงจะคิดเรื่องลูกครับแม่”

        ซูเจี่ยนอันกะพริบตาปริบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอนึกว่าเขาจะฝังเธอไว้ตรงนี้ซะแล้ว นี่เขา…ยอมปล่อยเธอไปงั้นเหรอ

        เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก ยิ้มบางให้ลู่เป๋าเหยียน บัญชีที่แกล้งเธอ คืนนี้ค่อยคิดทีหลังแล้วกัน!

        ถังอวี้หลันเห็นสองสามีภรรยาใกล้ชิดสนิทสนมกันดีจึงยิ้มอย่างปลื้มใจ

        “เจี่ยนอัน ไม่ต้องเครียดนะลูก แม่ไม่ได้อยากจะเร่งอะไรหนูหรอก ถ้าทั้งสองคนวางแผนไว้แล้วก็ดี สำหรับแม่แล้ว ขอแค่พวกลูกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็พอใจแล้วจ้ะ”

        ซูเจี่ยนอันรีบพยักหน้าหงึกๆ ตอบรับในทันที

 

        ช่วงบ่าย ลู่เป๋าเหยียนมีธุระเลยขอตัวออกไปข้างนอก จึงเหลือแค่เธอคอยอยู่เป็นเพื่อนถังอวี้หลันที่บ้าน

        ทั้งสองคนไม่รู้จะทำอะไรดี พวกเธอก็ไม่ใช่คนชอบช้อปปิ้งเสียด้วย จึงเปิดทีวีดูละครน้ำเน่าฆ่าเวลา

        ปกติซูเจี่ยนอันไม่ชอบดูละครน้ำเน่าพวกนี้ แค่วันนี้เธอกับถังอวี้หลันดูไปพลางวิจารณ์บทกับตัวละครไปพลาง เธอพบว่าละครน้ำเน่าก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด

        เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าลู่เป๋าเหยียนจึงกลับมา เขาเห็นซูเจี่ยนอันกับแม่นั่งพิงกันและกัน นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขแบบนี้ของแม่

        เวลาซูเจี่ยนอันนั่งเป็นเด็กดีอยู่ข้างแม่เขา ช่างแตกต่างจากตอนแยกเขี้ยวเถียงเขาฉอดๆ อย่างกับคนละคน

        ลู่เป๋าเหยียนเปลี่ยนรองเท้าเสร็จ ก็ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าดาราหนุ่มคนไหนหล่อกว่ากันของทั้งสองคน ต่างคนต่างชอบไม่เหมือนกัน ดูเหมือนงานนี้ซูเจี่ยนอันจะเถียงสู้แม่เขาไม่ได้

        ซูเจี่ยนอันเริ่มคิดอะไรดีๆ ออก จึงพูดตัดบทขึ้นมาอย่างมั่นใจว่า

        “อย่าไปสนเลยค่ะว่าใครหล่อกว่าใคร ถึงยังไงก็ไม่มีใครหล่อสู้พี่เป๋าเหยียนของพวกเราได้!”

        ถังอวี้หลันพยักหน้าอย่างเห็นด้วยเต็มที่ ทันใดนั้นก็เห็นเงาคนอยู่ที่ประตู เธอแย้มยิ้มอย่างดีใจ

        “เป๋าเหยียน กลับมาแล้วเหรอ แม่กำลังคุยเรื่องลูกกับเจี่ยนอันอยู่พอดีเลย”

        ลู่เป๋าเหยียนกลับมาแล้ว!

        ซูเจี่ยนอันรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า เธอรีบหันกลับไปมอง ลู่เป๋าเหยียนกำลังยืนมองมาทางเธออย่างยิ้มๆ อยู่ไม่ไกล…

        ตั้งแต่เจอลู่เป๋าเหยียนทำไมชีวิตเธอเป็นแบบนี้…ครั้งที่แล้วก็ถูกเขาได้ยินคำพูดมั่วซั่วของตัวเองที่ผับ วันนี้ก็ถูกเขาได้ยินเรื่องน่าอายที่เธอพูดที่บ้านอีก เธออยากจะบ้าตาย…

        ซูเจี่ยนอันอยากจะร้องไห้ คิดแล้วจึงรีบพาตัวเองออกไปจากจุดนี้ “ฉันไปเอาน้ำมาให้นะ”

        ลู่เป๋าเหยียนรู้ว่าเธอเป็นคนหน้าบาง เลยไม่อยากแกล้งเธอต่อ เขาเดินเข้ามานั่งในห้องรับแขก แล้วจึงรินน้ำชาเติมให้กับถังอวี้หลัน

        ถังอวี้หลันยกชาขึ้นดื่ม เอนพิงโซฟาอย่างผ่อนคลาย “เจี่ยนอันของพวกเรานี่น่ารักจริงๆ ที่ปกติเธอดูใจกล้าไม่กลัวใคร เป็นเพียงแค่เปลือกนอกที่เธอสร้างขึ้นมาเท่านั้น”

        ลู่เป๋าเหยียนยิ้ม ซูเจี่ยนอันเป็นแค่ “ปีศาจกระดาษ” เขารู้เรื่องนี้ดียิ่งกว่าใครๆ

        “แม่ให้คนเตรียมห้องไว้ให้แล้ว ถ้าลูกไม่ติดงานอะไร คืนนี้ก็รีบเข้านอนซะล่ะ” ถังอวี้หลันว่าแล้วก็ลุกขึ้น “แม่ไปดูก่อนว่าอาหารเย็นพร้อมหรือยัง”

        คืนนี้?

        ลู่เป๋าเหยียนยกมุมปากแย้มยิ้ม เขาจะรอดูว่าซูเจี่ยนอันจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

 

        มื้อเย็นซูเจี่ยนอันกินน้อยกว่าตอนมื้อเที่ยงมาก เธอกินไปประมาณเจ็ดส่วนของกระเพาะก็วางตะเกียบลง พอดีกับที่ลั่วเสี่ยวซีโทรศัพท์มาหาพอดี เธอจึงลุกออกไปรับโทรศัพท์

        “ให้ตายเถอะ คนพวกนั้นจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว” ลั่วเสี่ยวซีพูดอย่างตกใจ “ผ่านไปยังไม่ถึงสองวัน พวกนั้นขุดข้อมูลจนรู้หมดแล้วว่าเธอเป็นแพทย์นิติเวชอยู่ที่สถานีตำรวจ ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป สงสัยพรุ่งนี้ข้อมูลส่วนตัวเธอทั้งหมดต้องหลุดออกมาแน่ แบบนี้พวกแฟนคลับหานรั่วซีไม่พากันมาหาเธอหมดเหรอ แล้วก็นะ ตอนนี้เรื่องนี้ลามไปถึงเวยป๋อ1แล้วด้วย!”

        “ลามไปเวยป๋อ?” ซูเจี่ยนอันขมวดคิ้วยุ่ง “เดี๋ยวฉันขอโทรหาพี่ชายก่อน”

        ซูเจี่ยนอันวางสาย แต่ยังไม่ทันที่เธอจะโทรหาซูอี้เฉิง ก็ได้ยินเสียงลู่เป๋าเหยียนดังมาจากข้างหลัง

        “ไม่ต้องโทรหาพี่เธอแล้ว”

        เธอมองเขาอย่างสงสัย “นายรู้ว่าฉันจะพูดเรื่องอะไร? อย่าบอกนะว่านายก็เข้าไปดูกระทู้ซุบซิบนั่นเหมือนกัน…”

        ลู่เป๋าเหยียนไม่ได้ว่างขนาดนั้น “เสิ่นเยว่ชวนจัดการกระทู้นั่นให้แล้ว เธอไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลของเธอจะหลุดออกไป”

        ซูเจี่ยนอันเชื่อในฝีมือของลู่เป๋าเหยียน จึงยิ้มให้เขาอย่างซึ้งใจ “ขอบคุณนะ”

        “พวกเราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะด้วยหน้าที่หรืออะไรก็ตาม ฉันต้องปกป้องเธอ” ลู่เป๋าเหยียนเดินเข้ามา มองตาซูเจี่ยนอัน “อีกอย่าง ทีหลังไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร ให้นึกถึงฉันเป็นคนแรก ไม่ใช่พี่ชายเธอ”

        นัยน์ตาคมเข้มของเขาเหมือนมีเวทมนตร์ประหลาด ที่หากใครเผลอไปสบตาแค่เพียงชั่ววินาทีก็จะถูกสะกดอย่างไม่รู้ตัว

        ซูเจี่ยนอันกลืนน้ำลาย “เข้าใจแล้ว แต่ว่าคงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแล้วล่ะ ฉันจะพยายามไม่รบกวนนาย” เธอก็พูดขึ้นมาหลังนิ่งไปสักพัก “เรื่องนี้นายอย่าไปบอกแม่ล่ะ ฉันไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ”

        เรื่องที่จะไม่บอกถังอวี้หลันเขากับเธอใจตรงกัน ทั้งสองคนเดินกลับเข้าบ้านด้วยท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถังอวี้หลันจึงไม่ผิดสังเกตอะไร

        สามทุ่มตรง คนที่ปกติเข้านอนเวลานี้อย่างถังอวี้หลันเดินกลับเข้าห้องตัวเองแล้ว ซูเจี่ยนอันเองก็อยากนอนเร็ว จึงถามลู่เป๋าเหยียนว่า

        “ฉันนอนห้องไหน?”

        ลู่เป๋าเหยียนพาซูเจี่ยนอันขึ้นไปที่ชั้นสอง เขาเปิดประตูห้องนอนใหญ่

        “ห้องนี้”

        ห้องนอนกว้างขวาง แสงไฟอมส้มดูอบอุ่น ให้บรรยากาศแนววินเทจ ถึงจะไม่ใช่สไตล์เธอสักทีเดียว แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธที่จะลองสัมผัสดู แถมถังอวี้หลันยังเตรียมชุดนอนและอุปกรณ์อาบน้ำให้เธอไว้แล้วอีก

        ไปอาบน้ำแล้วเข้านอนให้สบายใจดีกว่า~

        แต่ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ทำไมลู่เป๋าเหยียนยังอยู่ในห้องอีก แถมยัง…

        “ละ ลู่เป๋าเหยียน…” เธอยืนกอดชุดนอน พูดด้วยเสียงสั่นนิดๆ “นายถอดเสื้อผ้าทำไม”

        “จะอาบน้ำ” ลู่เป๋าเหยียนตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน

        เธอถลึงตามองเขาอย่างตกใจ “นายก็นอนห้องนี้เหมือนกันเหรอ?”

        “ถ้าขืนแยกห้องนอนกันที่นี่ละก็…” ลู่เป๋าเหยียนยิ้ม “ความก็แตกสิครับ คุณนายลู่”

        ซูเจี่ยนอันอึ้งไป เธออยากจะร้องไห้

        “ฉันส่งสัญญาณบอกเธอให้ปฏิเสธไปแล้วนะ” ลู่เป๋าเหยียนพูดอย่างปัดความรับผิดชอบ

        “ฉันไม่เข้าใจที่นายจะสื่อนี่!” ซูเจี่ยนอันมองลู่เป๋าเหยียนอย่างเคืองๆ “ทำไมนายไม่บอกกันตรงๆ เล่า!”

        “ความผิดฉันเอง” ลู่เป๋าเหยียนลูบผมปีศาจน้อยที่ใกล้จะอาละวาดเต็มที่

        “ท่าทางฉันจะประเมินเธอสูงไปหน่อย ไว้คราวหน้าจะระวัง” พูดจบเขาก็เดินเข้าห้องน้ำไป

        ส่วนทางด้านซูเจี่ยนอัน เธอได้แต่นั่งกอดชุดนอนน้ำตาจะไหลอยู่ข้างเตียง…

        ผ่านไปสิบกว่านาที ลู่เป๋าเหยียนก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เมื่อซูเจี่ยนอันหันกลับไปมองเขา เลือดกำเดาก็แทบจะไหลออกมา

        ลู่เป๋าเหยียนในชุดคลุมอาบน้ำที่ผูกไว้อย่างหลวมๆ เผยให้เห็นไหล่กว้างและกล้ามเนื้ออกที่ดูแข็งแกร่งสุดเซ็กซี่ ทำให้คนมองอดจินตนาการต่อไม่ได้ ไหนจะผมเปียกชื้นที่ถูกเขาใช้ผ้าเช็ดจนดูยุ่งนิดๆ ประกอบกับใบหน้าหล่อเหลาราวสลักของเขา ทั้งหมดทำให้ความหล่อของเขาเพิ่มขึ้นไปอีก ซูเจี่ยนอันคงต้องยอมรับว่า ผู้ชายคนนี้คือปีศาจยั่วสวาทสุดอันตรายชัดๆ!

        ส่วนเธอในตอนนี้ ดันต้องมาอยู่กับผู้ชายแบบนี้สองต่อสองในห้องนอนกลางดึกกลางดื่น…

        ซูเจี่ยนอันรู้สึกร่างกายต้องการออกซิเจนเพิ่ม ทั้งลมหายใจและการเต้นของหัวใจมันผิดจังหวะไปหมด เธอจึงรีบผละสายตาออกจากลู่เป๋าเหยียน แล้วหยิบชุดนอนเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

        ในห้องน้ำยังคงเต็มไปด้วยไอน้ำที่เกิดจากการอาบน้ำเมื่อครู่ของเขา เธออดนึกไปถึงภาพที่ตัวเองเห็นเมื่อครู่ไม่ได้ ให้ตาย…นี่เธอคิดอะไรอยู่เนี่ย!!!

        การอาบน้ำครั้งนี้ เธอหน้าแดงไปใจสั่นไป

        อาบไปอาบมา เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง เธอตั้งใจหยิบชุดนอนขึ้นมาสวม แต่เมื่อเห็นชุดก็แทบจะลมใส่

        ชุดนอนที่ถังอวี้หลันเตรียมไว้ให้มัน…ทั้งสั้นทั้งบาง แถมยังคอวี จะเซ็กซี่เกินไปแล้ว!

        แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ใส่ คิดได้ดังนั้นเธอจึงหยิบมันขึ้นมาสวมอย่างไม่เต็มใจ เธอแง้มประตูเล็กน้อยมองออกไป ก็เห็นลู่เป๋าเหยียนกำลังนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ อยู่บนโซฟา

        เธอพูดสีหน้านิ่ง “ลู่เป๋าเหยียน นายช่วยหยิบเสื้อคลุมของฉันให้หน่อยสิ”

        ลู่เป๋าเหยียนเห็นเธอยืนแอบอยู่หลังประตูห้องน้ำ เริ่มเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเดินไปหยิบเสื้อคลุมส่งให้ซูเจี่ยนอันแต่โดยดี

        เสื้อคลุมของเธอเป็นเสื้อคลุมกันลมตัวยาว เธอรู้สึกปลอดภัยขึ้นมากหลังได้ใส่ จึงออกมาจากห้องน้ำ แล้วรีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง

        ต้นขาเรียวยาวของเธอที่เผยให้เห็น รวมทั้งผิวขาวนวลเนียนภายใต้แสงไฟ ทำเอาลู่เป๋าเหยียนรู้สึกคอแห้งขึ้นมา เขารีบเบนสายตาหันไปมองทางอื่น แล้วถามเธอว่า

        “เธอหาอะไรอยู่”

        “หมอนกับผ้าห่ม” ซูเจี่ยนอันตอบ “คืนนี้ใครสักคนคงต้องปูผ้านอนที่พื้น” ไม่งั้นคงไม่ได้นอนเร็วแน่ๆ!

        “ไม่ต้องหาแล้ว มันมีแค่ชุดเดียว”

        ซูเจี่ยนอันช็อก รีบหันกลับมา “หมายความว่าไง”

        ลู่เป๋าเหยียนยิ้มอธิบายอย่างไม่ทุกข์ร้อน “หมายความว่า พวกเราคงต้องนอนเตียงเดียวกัน”

        ซูเจี่ยนอันถึงกับเข่าอ่อน “ไม่ดีมั้ง”

        “มันเป็นแค่ทางเลือกเดียว” ลู่เป๋าเหยียนเอนตัวนอนลงบนเตียง “หรือเธอจะไม่นอนทั้งคืนเลยก็ได้”

        เมื่อมองไปที่ลู่เป๋าเหยียนซึ่งหลับตาเตรียมนอนไปเรียบร้อย ซูเจี่ยนอันรู้สึกว่าคงไม่มีใครช่วยเธอได้อีก

        จะไม่นอนทั้งคืนก็ไม่ได้ แต่จะให้นอนเตียงเดียวกันกับลู่เป๋าเหยียน…มันจะไม่เกิดอะไรขึ้นแน่เหรอ?

*************************

1 Social Network ของประเทศจีน ลักษณะคล้าย Twitter

Author สายลมสงบ