มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 2 ตอนที่ 34 วันมงคล

ทำไมท่านพ่อถึงพูดเรื่องนี้กับลูกเจ้าคะ?

         

        “ที่ข้านำเรื่องของแม่เจ้ามาพูด แค่อยากบอกเจ้าว่าชื่อเสียงนั้นเป็นสิ่งสำคัญ หลังจากเจ้าแต่งเข้าตระกูลเสิ่นก็ควรจะสร้างชื่อเสียงที่ดีอย่างเว่ยซื่อ แล้วที่บอกเจ้าเรื่องฝ่าบาท ก็เพราะเสิ่นเยี่ยนทำงานอยู่ข้างกายองค์ชายห้า ทุกการกระทำล้วนถูกผู้อื่นคอยจับจ้อง หากเจ้าจะต้องติดต่อกับผู้คนก็จงระวังให้มาก ไม่เช่นนั้นจะเป็นเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นในงานล่าสัตว์ เสี่ยงที่จะเกิดปัญหา เจ้าเข้าใจไหม?

         

        จากถ้อยคำจริงใจนี้ กู้เจิงสงสัยว่าหรือบิดาจะเปลี่ยนไปแล้ว เหตุใดจู่ๆ ท่านพ่อถึงดีต่อลูกเช่นนี้เล่าเจ้าคะ?

         

        กู้เจิงถามออกมาตรงๆ เช่นนี้  กู้หงหย่งก็ทำหน้าไม่ถูก เจ้าแค่จำเอาไว้ก็พอ

         

        “เจ้าค่ะ ลูกจะจำไว้

         

         

        กู้เจิงมองโฉนดที่ดินสองใบในมือพลางครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นางได้มีโอกาสช่วยฮ่องเต้ไว้โดยไม่รู้ตัว และในขณะเดียวกันนางก็ได้ล่วงเกินตระกูลเยี่ยนและตระกูลเซี่ยด้วย?

         

        ความจริงแล้วเรื่องพวกนี้อยู่ไกลตัวนางมาก นางเป็นแค่เด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง ชีวิตที่เหลือก็น่าจะอยู่แต่ในเรือนกระมังการต่อสู้เพื่อจุดสูงสุดของชีวิตไม่ใช่สิ่งที่นางจะทำ นางเพียงแค่หวังให้ตัวเองมีความสุขไปตลอดชีวิตก็พอแล้ว

                 

         

        วันแต่งงานของคุณหนูใหญ่แห่งจวนป๋อเจวี๋ย บรรยากาศครึกครื้นเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มยินดี จวนกู้ถูกประดับประดาด้วยโคมไฟจนสวยงาม  

         

        หลังจากถูกชุนหงปลุกให้ตื่นในช่วงเช้าตรู่ กู้เจิงก็ต้องมานั่งตัวแข็งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ปล่อยให้สาวใช้จับแต่งหน้าแต่งตา ส่วนทางด้านเรือนหลักได้ส่งแม่เฒ่าฉินและแม่เฒ่าซุนมาช่วยดูความเรียบร้อย

         

        “คุณหนูใหญ่เรียบร้อยดีหรือยังเจ้าคะ? แม่สื่อเดินเข้ามาหาสองแม่เฒ่าฉินซุนด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะย่อกายคารวะ ท่านแม่เฒ่าทั้งสอง นี่ก็ใกล้จะถึงฤกษ์แล้วเจ้าค่ะ

         

        “เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” ชุนหงตอบด้วยความตื่นเต้นดีใจ

         

        แม่เฒ่าซุนหยิบพัดมาส่งให้กู้เจิง แล้วพูดกับนางว่า คุณหนูใหญ่ ท่านต้องถือพัดนี้ปิดบังใบหน้าไว้ตลอด หลังจากเข้าห้องหอแล้วต้องให้ท่านบุตรเขยเสิ่นเป็นผู้หยิบออกให้เจ้าค่ะ

         

        เมื่อกู้เจิงได้สวมเฟิ่งกวาน[1] แล้วก็รู้สึกหนักหัวนัก พู่ไข่มุกมรกตที่ห้อยอยู่ทั้งสองด้านของเฟิ่งกวานแค่ขยับเล็กน้อยก็สั่นไหวแล้ว และในมือยังต้องถือพัดไว้ปิดบังใบหน้าของเจ้าสาวอีก ช่างเหนื่อยจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังพยักหน้ายอมอย่างว่าง่าย

         

        แม่เฒ่าซุนเหลือบมองดูกู้เจิง ตั้งแต่เห็นคุณหนูใหญ่ผู้นี้เติบโตมา นางก็ทำใจชอบไม่ลงจริงๆ ทว่าหมู่นี้อุปนิสัยของนางเปลี่ยนไป กลายเป็นเด็กน่าเอ็นดูขึ้นมาก ดูแล้วกลับชอบอยู่หลายส่วน ทรงคิ้วยาวที่วาดด้วยหลัวไต้[2] ใบหน้าดุจดอกฝูหรงอันสง่างาม นับว่ารูปโฉมของคุณหนูใหญ่ก็โดดเด่นเป็นหนึ่งในเยว่เฉิงเช่นกัน แต่เมื่อก่อนนางมักจะก้มหน้าทำตัวเงียบเฉยอยู่เสมอ แต่ในวันนี้ ไม่ว่าจะขมวดคิ้วหรือยิ้มแย้ม ทุกอากัปกิริยาล้วนน่ามอง จึงพลอยทำให้คนที่มองรู้สึกดีตามไปด้วย

         

        เมื่อแม่เฒ่าซุนกับแม่เฒ่าฉินประคองนางออกจากเรือนเล็ก กู้เจิงก็รู้สึกกระวนกระวายใจ

         

        สายลมพัดผ่านมาพร้อมกับเสียงเอิกเกริกของความรื่นเริงมาจากทางโถงด้านหน้า  นางเดินผ่านระเบียงไปก็เห็นท่านพ่อท่านแม่ ซู่เหนียง น้องรอง น้องสาม และน้องสี่รอนางอยู่ข้างใน ซู่เหนียงเมื่อเห็นนางจะออกเรือนก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนบ่าวรับใช้ต้องช่วยกันประคองไว้

         

        เวลานี้นางถึงได้รู้สึกได้จริงๆ ว่านางได้กลายมาเป็นคนของที่นี่ไปแล้ว นางเริ่มยอมรับและต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไปในวันข้างหน้าให้ได้เป็นอย่างดี

         

        เมื่ออำลาญาติพี่น้องเสร็จสิ้น ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวก็พากันออกเดินไปยังเรือนของเจ้าบ่าว มีเสียงครื้นเครงจากเครื่องดนตรีดังตามไปตลอดทาง

         

        ตระกูลเสิ่นตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเยว่เฉิง ผู้คนที่ปักหลักอยู่ทางใต้ล้วนเป็นลูกหลานของตระกูลชนชั้นต่ำต้อย แต่ตระกูลเสิ่นถือเป็นวงศ์ตระกูลใหญ่และก็พอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เนื่องจากในตระกูลมีผู้มีความสามารถทั้งซิ่วไฉหรือจวี่เหรินมากมาย แม้แต่จิ้นซื่อก็ยังมีอีกหลายคน ทำให้พวกเขาต้องติดต่อกับตระกูลขุนนางต่างๆ อยู่เสมอ

         

        เสิ่นเยี่ยนเป็นบุตรชายคนเดียวในครอบครัว บิดาของเขาเป็นลูกคนที่สี่ในตระกูล มารดาก็ทำงานบ้านเหมือนสตรีส่วนใหญ่ ที่บ้านมีพื้นที่ทำนาอยู่หลายหมู่[3] ถือว่ามีกินมีใช้ไม่ขาดแคลน แม้จะเทียบไม่ได้กับชีวิตในจวนป๋อเจวี๋ย แต่หากเทียบกับคนทั่วไปแล้ว นับว่าดียิ่งนัก

         

        เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่กู้เจิงได้รับรู้ทำความเข้าใจไว้แล้ว

         

        ในเวลานี้ เสียงของชุนหงดังขึ้นจากด้านนอกเป็นระยะๆ  “ประตูใหญ่อยู่… ทำไมพวกเจ้า… เดี๋ยวนะเสียงดนตรีที่ดังเข้ามาทำให้นางได้ยินไม่ชัดเจน

         

        กู้เจิงแง้มม่านหน้าต่างออกดู เห็นคนบนท้องถนนจับตาดูขบวนแต่งงานของนาง สายตาของสาวๆ เต็มไปด้วยความอิจฉา เด็กๆ หลายคนยังไล่ตามเกี้ยวของนางพลางตะโกนเรียกเจ้าสาวอยู่รอบเกี้ยว ชุนหงที่ต้องอยู่ข้างเกี้ยวกลับไม่อยู่เสียอย่างนั้น ขณะที่นางกำลังแปลกใจชุนหงก็เดินกลับมาจากทางด้านหน้า เมื่อนางเห็นกู้เจิงแง้มม่านเกี้ยวมองออกมา จึงร้องอุทานว่า คุณหนูใหญ่ ทำเช่นนี้จะไม่เป็นมงคลนะเจ้าคะว่าแล้วก็รีบดึงปิดม่านเอาไว้

         

        กู้เจิงได้แต่ถามผ่านเกี้ยวว่า ชุนหง เจ้าไปทำอะไรมา?

         

        “เมื่อครู่คนของตระกูลเสิ่นวิ่งมาบอกว่าประตูใหญ่พัง ให้คุณหนูใหญ่เดินเข้าทางประตูเล็กแทนเจ้าค่ะ ” ชุนหงกล่าวอย่างขุ่นเคืองว่า ทำไมประตูใหญ่ถึงได้บังเอิญมาพังในวันมงคลล่ะเจ้าคะ

         

        ————————————————–

        [1] เฟิ่งกวาน หรือ มงกุฎหงส์ เป็นเครื่องประดับศีรษะของบรรดาราชนารีและสตรีสามัญชนที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ ลวดลายของมงกุฎก็จะแตกต่างกันไปตามระดับชั้นที่ได้รับ

        [2] หลัวไต้ ที่เครื่องประทินโฉมสีดำที่คนจีนสมัยโบราณใช้ในการวาดคิ้ว

        [3] หมู่ เป็นหน่วยวัดขนาดพื้นที่ของจีน โดยหนึ่งหมู่เท่ากับ 666.67 ตารางเมตร หรือเท่ากับ 1/15 เฮกตาร์

 

Author Jinovel