มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 2 ตอนที่ 41 ได้รับรางวัล (ต้น)

        ทั้งลานกว้างสำนักนอก ศิษย์นอกทั้งหมดล้วนตกตะลึง ฮือฮา!

        เสวียนเทียนเลื่อนชั้นพลังวัตรระหว่างการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ พลิกสถานการณ์ ทำร้ายหยางติ่งจวินบาดเจ็บสาหัส คว้าอันอับหนึ่งของสำนักนอกมาครอง ทั้งหมดนี้ในสายตาของศิษย์สำนักนอกจำนวนหนึ่งเป็นสิ่งที่แทบคิดไม่ถึง ไม่อยากเชื่อสายตา

        โดยเฉพาะบรรดาศิษย์ชั้นสูงที่ตะโกน ศิษย์พี่หยางไร้คู่ต่อกร ศิษย์พี่หยางอันดับหนึ่ง! อยู่เมื่อครู่ยิ่งไม่อาจยอมรับได้ ในใจของพวกเขา นอกจากยอดฝีมือชั้นเบิกนภาก็ไม่มีใครชนะหยางติ่งจวินได้ ในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ หยางติ่งจวินเป็นบุคคลที่ไม่อาจเอาชนะได้ เป็นบุคคลที่ไร้คู่ต่อกร

        แต่ความคิดนี้ของพวกเขากลับถูกเสวียนเทียนทำลายอย่างไม่ปราณี

        เสวียนเทียนไม่เพียงเอาชนะหยางติ่งจวิน ทำลายตำนานไร้คู่ต่อกรของเขา ทั้งพลังวัตรของเขายังไม่ทันถึงชั้นพลังวัตรขั้นสิบ เพิ่งพลังวัตรขั้นเก้าก็ข้ามระดับชั้นเอาชนะหยางติ่งจวินได้

        ผลลัพธ์เช่นนี้ แน่นอนว่าสำหรับลูกศิษย์ที่ศรัทธาในตัวหยางติ่งจวินแล้ว ทำให้ความเชื่อในใจของพวกเขาถูกทำลาย ถล่มทลายในพริบตา

        ศิษย์ที่สนับสนุนหยางติ่งจวินใบหน้าล้วนไร้สีเลือด ตำนานในใจถูกทำลาย ส่วนศิษย์ที่สนับสนุนเสวียนเทียน หลังตกตะลึง สิ่งที่ตามมาคือเสียงร้องสรรเสริญดังกึกก้อง ดังสะเทือนแก้วหูแทบดับ

        ศิษย์พี่หวง อันดับหนึ่งศิษย์พี่หวง อันดับหนึ่ง!

        ศิษย์พี่หวง อันดับหนึ่งศิษย์พี่หวง อันดับหนึ่ง!

        ……

        ……

        ศิษย์นอกจำนวนมาก ร้องแสดงความยินดีขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง

        ตำนานในใจของพวกเขายังดำรงอยู่ต่อไป ความมหัศจรรย์ยังคงสืบต่อ เรื่องแปลกยังคงไม่จบสิ้น การแข่งขันจัดอันดับปิดม่านลงแล้ว เสวียนเทียนเอาชนะตู่ต่อสู้ทั้งหมด คว้าอันดับหนึ่งมาได้ ทำให้อารมณ์ของพวกเขาพลุ่งพล่านเพราะความตื่นเต้น เลือดร้อนเดือดพล่าน อารมณ์คึกแผ่ออกมารอบทิศ

        ในหมู่ศิษย์นอกคนที่อารมณ์ตื่นเต้นมากที่สุด เป็นใครไปไม่ได้นอกจากหม่าหวง

        ท่ามกลางเสียงโห่ร่องยินดี หม่าหวงตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดขึ้นมา ศิษย์พี่หยางพ่ายแพ้ เงินแทงพนันของเจิงอวี้หงสามหมื่นตำลึง ทั้งหมดเข้ากระเป๋าของเขา ครั้งนี้เขาไม่เพียงไม่ขาดทุน กลับกัน ยังได้กำไรเป็นตั๋วเงินมาถึงสามหมื่นตำลึง

        ศิษย์พี่หวง ท่านเป็นโคมไฟส่องทางสว่างของข้า ในความมืดมิดท่านฉายแสงให้ข้าเห็นทางข้างหน้า ความศรัทธาที่ข้ามีให้ท่านราวกับสายน้ำไหล มีไม่ขาดสาย เป็นเหมือนแม่น้ำหลาก หลากขึ้นมาแล้วเก็บกลับไม่ได้ ข้าขอคารวะบูชาท่าน!

        หม่าหวงตื่นเต้นจนร้องตะโกนออกมาเสียงดัง

        แต่ว่า ต่อมาหม่าหวงก็นึกขึ้นมาได้ว่า ศิษย์พี่ที่แทงข้างศิษย์พี่หยางเหล่านั้น เป็นถึงศิษย์หัวแถวชั้นพลังวัตรขั้นสิบ ครั้งก่อนเขาแพ้หนึ่งหมื่นตำลึงให้แก่หลินตงยังคิดหนีหนี้

        ครั้งนี้คนอื่นแพ้สามหมื่นตำลึงให้เขา ยากจะเลี่ยงโดนศิษย์ชั้นหัวแถวคนนั้นหนีหนี้ ถ้าหากเขาจะมาเอาคืน ต่อหน้าแรงกดดันชองศิษย์ชั้นหัวแถว หม่าหวงไม่กล้าต่อต้านมากนัก

        สามสิบหกกลยุทธ์ ถอยหนีเป็นยอดกลยุทธ์ เขาคิดจะตามข้าเอาเงิน ข้าไม่ให้โอกาสเขา ข้าออกไปเก็บประสบการณ์ข้างนอกสักหลายเดือนหน่อย เขาคิดจะตามหาข้าก็หาไม่เจอ ฮ่าๆ…!

        ในใจหม่าหวงคิดได้เช่นนี้ก็พลันหลบหลีกออกไปท่ามกลางศิษย์นอกที่เบียดเสียดแน่นขนัดอยู่ จ่ายเงินคืนให้กับศิษย์ไม่กี่คนที่แทงข้างเสวียนเทียน ค่อยๆ เบียดออกไปจากลานกว้างช้าๆ หนีออกไปเสียแต่เนิ่นๆ

        ความกังวลใจในใจของหม่าหวงนั้นไม่ผิด เจิ้งอวี้หงเสียใจขึ้นมาแล้ว

        สามหมื่นตำลึง ขนาดหยางติ่งจวินออกไปเก็บประสบการณ์ข้างนอกสองเดือนยังได้เงินมาแค่แปดหมื่นตำลึง เงินที่เจิ้งอวี้หงออกไปเก็บประสบการณ์ล่าสังหารสัตว์อสูร เทียบกับหยางติ่งจวิน อย่างน้อยก็น้อยกว่ากันเท่าหนึ่ง สามหมื่นตำลึงนั่น อย่างน้อยก็เท่ากับรายได้หนึ่งเดือนกว่าของเขา

        พลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบ ต้องการยาพลังปราณได้แก่ ยาชะล้างกระดูกและยาควบปราณในการฝึกฝน เม็ดหนึ่งราคาเก้าพันตำลึง เงินที่เจิ้งอวี้หงหามาได้ไม่พอกับเงินที่เขาต้องใช้ ยังต้องให้ตระกูลส่งมาให้เพิ่มด้วย ถึงประคับประคองให้เดือนหนึ่งใช้ยาพลังปราณฝึกฝนได้มากกว่ายี่สิบวัน

        สามหมื่นตำลึงสำหรับเจิ้งอวี้หงแล้ว เป็นเงินก้อนใหญ่ไม่น้อยก้อนหนึ่ง

        ทว่ารอเจิ้งอวี้หงนึกเสียใจขึ้นมาได้ จะไปตามหาหม่าหวง ตอนนั้นหม่าหวงก็หายไปไม่เห็นเงาตั้งนานแล้ว ในลานศิษย์นอกผู้คนมากมายมหาศาล แต่เดิมเขาก็ไม่คุ้นเคยกับหม่าหวง ย่อมไม่อาจหาหม่าหวงจากบรรดาลูกศิษย์ที่เบียดเสียดแน่นขนัดนี้ได้ นอกจากนี้ หม่าหวงตอนนี้ก็หลบหลีกไปถึงขอบลานกว้างตั้งนานแล้ว

        ฮ่าๆๆๆ! หลินอู๋อิ่งกับหลี่อี้ฉางสองคนหัวเราะขึ้นมา เอ่ยว่า ศิษย์น้องเจิ้ง พูดถึงสายตาแล้ว เจ้าเทียบกับพวกเราแล้วยังห่างชั้นกันอีกไกล อย่าได้ดูถูกศิษย์พี่หวงเชียว เสียเงินสามหมื่นตำลึง ได้บทเรียนมาบทหนึ่งก็นับว่าคุ้มแล้ว

        ศิษย์ชั้นหัวแถวรอบข้างต่างหัวเราะขึ้นมา แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาไม่น้อยจะมองหยางติ่งจวินว่ามีภาษีดีกว่า แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ไม่เหมือนเจิ้งอวี้หง เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าความคิดของตนเองถูกต้อง ใช้เงินสามหมื่นตำลึงแทงพนันข้างหยางติ่งจวิน ตอนนี้พวกเขาจึงเยาะเย้ยเจิ้งอวี้หงอย่างสนุกสนาน

        เจิ้งอวี้หงหน้าเขียวคล้ำ เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของเหล่าศิษย์ชั้นหัวแถวทำเขาหน้าแตกละเอียด จูตันที่อยู่ด้านข้างก็สีหน้าหม่นหมองไปเช่นกัน  เมื่อครู่นางก็เหมือนเจิ้งอวี้หง เชื่อมั่นจากใจจริงว่าศิษย์พี่หยางต้องได้รับชัยชนะ เสวียนเทียนใช้ความจริงมาตีแสกหน้าพวกเขาทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว

        ไป๋จั่นเฮ่อมองเสวียนเทียนพึมพำขึ้นมาว่า เวลาเพียงไม่กี่เดือน พลังวัตรจากชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่เลื่อนพรวดขึ้นมาเป็นขั้นเก้า ต่อให้เป็นศิษย์พี่ฉู่เฟิง ตอนนั้นก็ไม่ได้ฝึกฝนได้รวดเร็วขนาดนี้? ตั้งแต่หวงเทียนเข้าสำนักมา หลายปีก่อนหน้านี้ไม่เคยเผยความสามารถ ฝีมือธรรมดาๆ ทำไมในเวลาไม่กี่เดือน ฝีมือกลับก้าวหน้ารวดเร็วเช่นนี้? หรือว่าแตกฉานข้ามคืนที่คนเล่าลือกันจะมีจริง?”

        ยอดเขาฝั่งตรงข้าม!

        หลิงซิงเยว่ลุกขึ้นมา ถามขึ้นว่า ท่านปู่ มีอะไรหรือเจ้าคะ?”

        ผู้เฒ่าผมขาวยกมือขวาขึ้นลูบเคราขาวใต้คาง ตอบว่า เพลงกระบี่ที่เขาใช้ ล้วนแต่เป็นเพลงกระบี่ที่สำนักของเราไม่มี

        หลิงซิงเยว่ขมวดคิ้วถาม หรือจะเป็นเพลงกระบี่ที่สืบทอดกันในตระกูล?”

        ผู้เฒ่าเคราขาวส่ายศีรษะตอบว่า ไม่ใช่ เกรงว่าทั้งใต้หล้าคงไม่มีเพลงกระบี่ชนิดนี้ นี่เป็นเพลงกระบี่ที่เขาสร้างขึ้นมาเอง ผสานกระบวนท่าของเพลงกระบี่ถลาลมกับภาวะจิตของเพลงกระบี่ดับเงา เด็กคนนี้ไม่ใช่แค่บังเอิญบรรลุเพลงกระบี่ดับเงาในห้วงวิกฤติ แต่เขาเข้าใจภาวะจิตของเพลงกระบี่ดับเงาเป็นอย่างดี

        หลิงซิงเยว่ถามขึ้นอีก หรือว่า เขาร่ำเรียนเพลงกระบี่ดับเงาได้สำเร็จ?”

        ผู้เฒ่าผมขาวเอ่ยตอบ นี่ก็ยังไม่แน่ แต่ที่แน่ใจก็คือ เขาเข้าใจศาสตร์กระบี่ได้ในระดับที่ไม่ธรรมดา วันหลังคงต้องบรรลุจิตกระบี่แน่ เพียงแต่พลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดขั้นเก้าก็สามารถบรรลุภาวะจิตของเพลงกระบี่ดับเงาได้ วันหลังเขาย่อมบรรลุจิตกระบี่เร็วกว่าฉู่เฟิงคนนั้นอีก

        หลิงซิงเยว่ตกใจเอ่ยขึ้นว่า ศิษย์พี่ฉู่เฟิงอยู่ชั้นเบิกนภาขั้นสามก็บรรลุจิตกระบี่แล้ว ท่านปู่ นอกจากท่าน ทั้งสำนักกระบี่สวรรค์ก็ไม่มีใครเหนือกว่าเขา ไม่ใช่ว่าท่านเคยบอกว่าศิษย์พี่ฉู่เฟิงเป็นอัจฉริยะที่ร้อยปียากจะหาได้สักคนของวิถีกระบี่หรือ?”

        ผู้เฒ่าผมขาวกล่าวว่า ในสำนักของเรา ฉู่เฟิงเป็นอัจฉริยะที่ร้อยปียากหาได้สักคนอย่างแน่นอน แต่ในแผ่นดินเสินโจว ผู้กล้ายอดคนมีมากมาย ขนาดอัจฉริยะเหนือโลกที่สิบขวบก้าวสู่ชั้นเบิกนภา สิบขวบบรรลุจิตกระบี่ก็ยังมี อาณาจักรเสินเตาเป็นเพียงผืนดินเล็กๆ แห่งหนึ่งบนแผ่นดินเสินโจวเท่านั้น เป็นแค่อาณาจักรที่มีอำนาจขั้นหกแห่งหนึ่ง เทียบกับอัจฉริยะทั้งแผ่นดินเสินโจวแล้ว ปู่กับฉู่เฟิงไม่นับเป็นอะไรทั้งสิ้น

        ……

        ……

        รอบที่สิบ การแข่งขันชิงชนะเลิศ หวงเทียนกับหยางติ่งจวิน หวงเทียนชนะได้ครองอันดับหนึ่ง ศิษย์อันดับหนึ่งแห่งสำนักนอกประจำการแข่งขันจัดอันดับปีนี้ รางวัลที่ได้รับ ยาควบปราณแท้ชั้นสูงหนึ่งเม็ด

        ที่ลานศิษย์นอก ผู้อาวุโสหานมาถึงบนเวทีประลอง มือของเขายกขึ้น ฉับพลันเสียงทั้งหลายก็เงียบสนิทลง จากนั้นผู้อาวุโสหานก็ประกาศผลของการแข่งขันครั้งนี้ รวมถึงรางวัลของศิษย์ที่ได้อันดับหนึ่ง

        ศิษย์นอกที่เพิ่งเงียบลงไปเมื่อครู่ ฉับพลันก็วุ่นวายขึ้นมาอีกครั้ง เสียงอุทานตกใจระลอกหนึ่งดังขึ้น

        ยาควบปราณแท้ ไม่ใช่ยาพลังปราณธรรมดา เป็นยาพลังปราณชั้นนิลที่นักหลอมยาชั้นนิลถึงจะหลอมออกมาได้

        ยาพลังปราณก็เป็นเช่นเดียวกับวิชาปราณและวิทยายุทธ์ แบ่งออกเป็นชั้นนภา ปฐพี นิล ทอง ทั้งหมดสี่ชั้น

        ยาพลังปราณที่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นยาชุบร่าง และยาชะล้างกระดูก ยาควบปราณ ล้วนแต่เป็นยาพลังปราณชั้นทอง แค่นักหลอมยาชั้นทองก็หลอมออกมาได้ นักหลอมยามีจำนวนน้อย ทั้งส่วนใหญ่ล้วนหยุดอยู่ที่ชั้นนักหลอมยาชั้นทอง ดังนั้นนักหลอมยาชั้นทองเมื่อเทียบกันแล้วมีจำนวนมาก แค่ในสำนักกระบี่สวรรค์ก็มีอยู่หลายสิบคนแล้ว

        แต่นักหลอมยาชั้นนิลจำนวนน้อยกว่ามาก ทั้งสำนักกระบี่สวรรค์ นักหลอมยาชั้นนิลที่หลอมยาพลังปราณชั้นนิลออกมาได้มีเพียงสามคนเท่านั้น ซึ่งก็ล้วนเป็นผู้อาวุโสสำนักในที่มีตำแหน่งสูงส่ง

        ยาควบปราณแท้เป็นยาที่ทำมาจากมือของนักหลอมยาชั้นนิลที่เป็นผู้อาวุโสสำนักใน สำนักนอกปกติแล้วไม่อาจพบเห็นได้ สรรพคุณของยาควบปราณแท้ คือช่วยผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบ เปลี่ยนพลังภายในให้กลายเป็นปราณแท้ของชั้นเบิกนภา มีโอกาสในระดับหนึ่งที่จะทำให้พลังวัตรของผู้ฝึกยุทธ์ทะลุสู่ชั้นเบิกนภา

        ยาควบปราณแท้แบ่งเป็นสามชั้น ล่าง กลาง สูง คุณภาพไม่เหมือนกัน โอกาสที่จะเลื่อนสู่ชั้นเบิกนภาก็แตกต่างกันไป ยาควบปราณแท้ชั้นล่างมีโอกาสห้าในสิบ ยาควบปราณแท้ชั้นกลางมีโอกาสเจ็ดในสิบ ยาควบปราณแท้ชั้นสูงมีโอกาสเก้าในสิบ ในการแข่งขันจัดอันดับทุกปี รางวัลสำหรับศิษย์นอกอันดับหนึ่งล้วนเป็นยาควบปราณแท้ชั้นล่างหนึ่งเม็ด แต่ปีนี้รางวัลกลับเป็นยาควบปราณแท้ชั้นสูงหนึ่งเม็ด มูลค่าของมัน อย่างน้อยก็เป็นสามเท่าของยาควบปราณแท้ชั้นล่าง บรรดาศิษย์นอกจะไม่ตื่นตกใจได้อย่างไร?

        ใบหน้าของเสวียนเทียนหลุดรอยยิ้มดีใจออกมา ยาควบปราณแท้ที่เป็นรางวัลคุณภาพยิ่งสูง ราคาก็ยิ่งสูง ยาควบปราณแท้ชั้นล่างหนึ่งเม็ดก็ราคาหกเจ็ดแสนตำลึง ยาควบปราณแท้ชั้นสูงควรจะมีราคาสองล้านตำลึงโดยประมาณ เทียบกับยาพลังปราณชั้นทองเป็นราคาที่สูงเสียดฟ้าเลยทีเดียว

        ขอบคุณสำนัก ขอบคุณผู้อาวุโส! เสวียนเทียนรับรางวัลมาจากมือของผู้อาวุโสหาน เป็นกล่องหยกสีดำวาวใบหนึ่ง

        เสวียนเทียนเปิดออกดู เป็นยาควบปราณแท้ชั้นสูงจริง ยาพลังปราณขนาดใหญ่ประมาณหัวนิ้วแม่มือดุจหยกขาว ไม่มีสิ่งใดแปดเปื้อนแม้แต่น้อย

        หยางติ่งจวิน อันดับสองของการแข่งจันจัดอันดับปีนี้มอบรางวัลให้เป็นแต้มภารกิจห้าหมื่นแต้ม ลำดับที่สามไป๋จั่นเฮ่อมอบรางวัลให้เป็นแต้มภารกิจสองหมื่นแต้ม ลำดับที่สี่ถึงที่สิบให้รางวัลเป็นแต้มภารกิจห้าพันแต้ม สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ ให้ไปรับที่ตำหนักภารกิจด้วยตนเอง การแข่งขันจัดอันดับปีนี้สิ้นสุด ณ บัดนี้!

        จากนั้น ผู้อาวุโสหานก็ประกาศชื่อของศิษย์อันดับสอง อันดับสาม และรางวัลของลำดับสี่ถึงลำดับที่สิบ ปิดการแข่งขันจัดอันดับครั้งนี้

        การแข่งขันจัดอันดับศิษย์สำนักนอกของปีนี้ ผลสุดท้ายออกมานอกเหนือความคาดหมายของคนทุกคน ใครก็ไม่คาดคิดว่าเมื่อเริ่มการแข่งขัน เสวียนเทียนผู้มีพลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดจะเอาชนะคู่ต่อสู้ตลอดทางจนมาคว้าอันดับหนึ่งไป เมื่อการแข่งขันจบลง สายตาของศิษย์นอกทุกคนมองเสวียนเทียนด้วยความนับถือ อิจฉา ต่อให้ไม่ชอบเสวียนเทียน ตอนนี้ เวลานี้ ดวงตาที่มองเสวียนเทียนก็มีแต่ความหวาดกลัว

        สำหรับเสวียนเทียนแล้ว อันดับและชื่อเสียล้วนแต่เป็นเรื่องรอง สิ่งที่สำคัญก็คือรางวัลของอันดับหนึ่ง ยาควบปราณแท้ชั้นสูง

Author *วาริช*