มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 3 ตอนที่ 61 ชั้นวิถียุทธ์ขั้นสิบ (ต้น)

        หนิวเจิ้นซานเพิ่งหยิบลายแทงสมบัติออกมา พอสายตาของเสวียนเทียนเห็นเข้า กระบี่หยกขาวเล่มน้อยกลางหว่างคิ้วก็สะท้านขึ้นมาเบาๆ

        ลายแทงสมบัติชิ้นนั้นมีกลิ่นไอเหมือนกับลายแทงสมบัติอีกสองชิ้นในมือของเสวียนเทียน นั่นก็แปลว่า นี่เป็นชิ้นที่สาม ชิ้นสุดท้ายที่ในมือของเสวียนเทียนขาดไป

        เสวียนเทียนได้ลายแทงสมบัติสองชิ้นมาด้วยความบังเอิญ เขาไม่มีเงื่อนงำลายแทงสมบัติชิ้นที่สามแต่อย่างใด ไม่มีหนทางให้เสาะหา ไม่คิดว่าลายแทงสมบัติชิ้นที่สามที่ต่อให้เดินหาจนรองเท้าเหล็กทะลุก็หาไม่พบชิ้นนี้กลับอยู่ในมือของหนิวเจิ้นซาน แล้วตอนนี้หนิวเจิ้นซานก็โยนลายแทงสมบัติชิ้นนี้ราวกับเป็นขยะชิ้นหนึ่งมาให้เสวียนเทียน

        ถูกแล้ว โยนขยะ ถึงแม้ว่าปากของหนิวเจิ้นซานจะพูดว่าสิ่งนี้เป็นสมบัติล้ำค่าเหลือประมาณ แต่แท้จริงแล้ว ในใจของเขามันไม่มีค่าแม้แต่เหรียญเดียว เพราะว่าลายแทงสมบัตินี้ไม่สมบูรณ์ หนิวเจิ้นซานได้ลายแทงสมบัติชั้นนี้มาหลายสิบปีแล้ว สืบทอดกันมาจากผู้นำตระกูลถึงสามรุ่นก็ยังไม่สามารถหาข้อมูลใดๆ จากแผนที่บนลายแทงสมบัติได้

        ลายแทงสมบัติแผ่นนี้ สำหรับหนิวเจิ้นซานเป็นขยะ แต่สำหรับเสวียนเทียนเป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง

        ในใจเสวียนเทียนยินดียิ่ง แต่ใบหน้าไม่แสดงออกแม้แต่น้อย ยื่นมือออกไปรับลายแทงสมบัติชิ้นนั้นไว้ในมือ ความรู้สึกคุ้นเคยแล่นขึ้นมาจากมือ เสวียนเทียนยืนยันได้แน่นอนว่านี่เป็นลายแทงสมบัติชิ้นที่สามที่เขาตามหาอยู่

        แต่ลายแทงสมบัติชิ้นนี้มีประโยชน์กับเสวียนเทียนเพียงคนเดียวเท่านั้น สำหรับคนอื่นแล้วไม่มีค่าแม้แต่น้อย หนิวเจิ้นซานไม่ลังเลเลยสักนิด เขาโยนมาให้เสวียนเทียน ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนล้วนมองลายแทงสมบัติชิ้นนี้เป็นขยะ

        หวงฉีซานก็ไม่เว้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พินิจโดยละเอียด แต่แค่กวาดมองลายแทงสมบัติในมือเสวียนเทียนทีหนึ่ง ก็มองออกว่าเป็นลายแทงขาดๆ แผ่นหนึ่ง ทั้งยังไม่ได้ขาดหายไปเพียงจุดเดียว ถ้าไม่หาลายแทงชิ้นอื่นมา ก็ไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย

        หวงฉีซานหัวเราะขึ้นมา หนิวเจิ้นซาน ตกลงกันแล้วว่ารางวัลของที่หนึ่งคือเงินห้าแสนตำลึง แค่ลายแทงขาดไร้ประโยชน์แผ่นเดียว คิดว่าจะหายกันหรือ?”

        หนิวเจิ้นซานเอ่ยว่า สมบัติล้ำค่า เงินห้าแสนตำลึงเทียบกันไม่ติด ไม่ให้พวกเจ้าทอนเงินกลับมาก็นับว่าเป็นบุญคุณล้นพ้นแล้ว เจ้ายังคิดจะเอาอย่างไรอีก? แขนลูกชายข้าขาดต้องรีบรักษา ข้าไม่ว่างมาต่อรองราคากับเจ้าหรอก

        พูดจบ หนิวเจิ้นซานก็อุ้มหนิวจื้อเฉียงกระโดดลงจากเวที ไม่รั้งอยู่ต่อ รีบพาคนตระกูลหนิวจากไป สำหรับตระกูลหวงแล้ว แม้ว่าตอนนี้จะครองหมู่บ้านหวงปั้วทั้งหมด นอกจากนั้นยังมีกิจการอีกไม่น้อยในหมู่บ้านอีกสองแห่ง กิจการของตระกูลใหญ่พอตัว แต่กำลังอยู่ในช่วงเติบโต เงินทุนที่ต้องใช้ค่อนข้างมาก ทั้งตระกูลก็ยังมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นเงินทองในมือไม่ได้มีมากนัก

        ต่อให้ตระกูลหวงได้หมู่บ้านมาจากตระกูลหนิว เฉิง จางตระกูลละแห่ง แล้วจะทำการค้าขึ้นมา ก่อนอื่นก็ต้องใช้เงินทองลงทุน ยามนี้เงินสดในมือมีค่าอย่างยิ่ง

        ดังนั้นเงินห้าแสนตำลึง สำหรับตระกูลหนึ่งอาจไม่มากเท่าไร แต่สำหรับตระกูลหวงแล้วเป็นเงินทุนที่จำเป็นต้องรีบใช้ ตระกูลหนิว เฉิง จางแพ้เสียหมู่บ้านมาแล้ว ในใจโกรธแค้นอยู่ แน่นอนว่าย่อมไม่คิดจะเสียเงินอีก

        ท่านลุงสอง ลายแทงสมบัติแผ่นนี้ข้าชอบ เงินห้าแสนตำลึงนั่นช่างมันเถิด! เสวียนเทียนเปิดปากพูดกับหวงฉีซานที่กำลังโกรธจนเดือด กำลังจะตามไปเถียงกับหนิวเจิ้นซาน

        หวงฉีซานมองเสวียนเทียนทีหนึ่ง เห็นแววตาของเสวียนเทียนดูพอใจกับลายแทงสมบัติมากอยู่ จึงไม่พูดอะไรมากอีก ฝ่ามือตบเข้าที่บ่าของเสวียนเทียน หัวเราะเสียงดังกล่าว่า

        ได้เก่งมาก เทียนเอ๋อร์ บิดาเจ้าพูดไม่ผิดเลย เจ้าชนะการประลองทายาทรุ่นหลังครั้งนี้จริงๆ ฮ่าๆๆๆ…คิดจะกินเมืองหวงปั้ว พวกเจ้าฝันกลางวัน คราวนี้ดียิ่ง พวกเราชนะได้เมืองกลับมาถึงสามเมือง อาณาเขตของตระกูลหวงขยายขึ้นมาอีกมาก ฮ่าๆๆๆ เทียนเอ๋อร์ พวกเรากลับบ้าน เอาข่าวดีไปบอกทุกคนกันเถิด!

        เสวียนเทียนพยักหน้า ในใจคิดอยู่คนเดียว เกรงว่าถึงอาณาเขตของตระกูลหวงจะใหญ่ขึ้น แต่เรื่องคงไม่ง่ายนัก ถึงตระกูลหนิว เฉิง จางสามตระกูลนั่นจะแพ้เสียหมู่บ้านตระกูลละแห่งให้แก่ตระกูลหวง แต่ก็อาจทิ้งคนของตนไว้จำนวนมาก หรือไม่ก็ทำลายให้เสียหาย ให้ตระกูลหวงไม่อาจเติบโตในหมู่บ้านที่ได้ไปในเวลาอันสั้น

        การประลองทายาทรุ่นหลังของสี่ตระกูล ตระกูลหนิว ตระกูลเฉิง ตระกูลจาง ตระกูลหวงจบลง เสวียนเทียนกับหวงฉีซานและคนอื่นๆ กลับไปยังตระกูลหวงที่หมู่บ้านหวงปั้ว

        ถึงแม้ว่าลูกหลานจะถูกคนโจมตีทำร้ายจนบาดเจ็บหนัก ทำให้ช่วงเทศกาลข้ามปีตระกูลหวงตกอยู่ในความอึมครึม แต่การที่เสวียนเทียนเอาชนะลูกหลานของตระกูลหนิว เฉิง จาง ทั้งสามตระกูลในการประลองทายาทรุ่นหลัง แน่นอนย่อมนำความปีติยินดีมาให้บรรดาสมาชิกตระกูลหวง

        เมื่อเสวียนเทียนกลับมาถึงหมู่บ้านหวงปั้ว คนตระกูลหวงที่รู้ข่าวชัยชนะของการประลองผ่านพิราบสื่อสารอยู่ก่อนแล้ว ทั้งหมดก็มารอรับอยู่ที่นอกหมู่บ้านหวงปั้ว แม้กระทั่งหวงหย่วนเฉิงผู้ชราก็ไม่ฟังผู้ใดห้ามปราม ออกมารับเสวียนเทียนพร้อมกับคนอื่นๆ ด้วย

        ในเวลาเดียวกัน ผลการประลองทายาทรุ่นหลังของตระกูลหนิว เฉิง จาง หวง สี่ตระกูลก็แพร่ไปทั่วแต่ละหมู่บ้านของทั้งอำเภอเป่ยโม่อย่างรวดเร็ว ทายาทตระกูลหวงมียอดอัจฉริยะแห่งยุคปรากฏขึ้นชื่อว่าหวงเทียน พลังวัตรชั้นวิถียุทธ์ขั้นเก้า แต่เอาชนะลูกหลานชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งของสามตระกูล ตระกูลหนิว ตระกูลเฉิง ตระกูลจางได้

        ผลการต่อสู้ที่ผู้อ่อนแอพลิกชนะผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ดึงดูดความสนใจของผู้ฝึกยุทธ์ได้ดีที่สุดแล้ว ดังนั้นข่าวนี้จึงแพร่ลามไปทั่ว ชื่อเสียงของตระกูลหวงเลื่องลือขึ้นมา ใครๆ ก็รู้ข่าวตระกูลหวงได้หมู่บ้านสามหมู่บ้าน จากวันนี้เป็นต้นไป อำเภอเป่ยโม่จะไม่ได้มีเพียงสามตระกูลใหญ่ แต่เป็นสี่ตระกูลใหญ่

        เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้านหวงปั้ว แน่นอนว่าเสวียนเทียนย่อมกลายเป็นจุดรวมสายตาของผู้คน กลายเป็นหัวข้อสนทนาของทุกคน และกลายเป็นขวัญใจของผู้ฝึกยุทธ์รุ่นเยาว์ทุกคน ทุกคนเข้ามาแสดงความยินดีและชื่นชม

        ผ่านไปหนึ่งชั่วยามเต็ม เสวียนเทียนที่มีเสวียนหงกับหวงเยว่เคียงข้างถึงกลับมาที่ห้องของตนได้ เสียงอื้ออึงข้างหูถึงได้สงบเงียบลง

        ทั้งหมู่บ้านหวงปั้วเฉลิมฉลองกับชัยชนะครั้งนี้ แต่ในใจของหวงเทียนนอกจากตื่นเต้นกับลายแทงสมบัติชิ้นที่สามที่ได้มา สิ่งอื่นใดก็ไม่ได้ตื่นเต้นสนใจอีก

        ตระกูลหวงชนะได้หมู่บ้านสามหมู่บ้านมา ดูไปแล้วเหมือนตระกูลหวงฉับพลันก็เติบโตใหญ่คับฟ้า แต่เวลานี้ต่างหากที่จะอันตรายที่สุด ตระกูลใหญ่ทั้งสามย่อมไม่ยินดีให้ตระกูลหวงเติบโตใหญ่ขึ้น เพราะยิ่งตระกูลหวงใหญ่ขึ้น ก็หมายถึงว่าตระกูลทั้งสามยิ่งตกอยู่ในอันตราย วันหนึ่งอาจถึงขั้นถูกตระกูลหวงล้มกลืนตระกูลไปก็เป็นได้

        ดังนั้น หากตระกูลหวงไม่มีความสามารถจะข่มทั้งสามตระกูลให้อยู่อย่างเด็ดขาด เมื่อตระกูลหวงเติบโตจนถึงจุดที่ทั้งสามตระกูลไม่อาจยอมรับได้ ตระกูลหนิว เฉิง จางทั้งสามตระกูลต่อให้ไม่อยากสู้ตายกับตระกูลหวง ก็ต้องสู้อย่างเลี่ยงไม่ได้แล้ว

        ครั้งนี้สามหมู่บ้านที่ต้องเสียให้แก่ตระกูลหวง ถ้าไม่ใช่หมู่บ้านที่ไร้ประโยชน์กับตระกูลหวง ก็ต้องให้ตระกูลหวงดิ้นรนถึงจะตั้งต้นได้ มีแค่ผลลัพธ์สองแบบ ไม่ว่าจะผลลัพธ์แบบไหน ก็ไม่ดีต่อตระกูลหวงทั้งสิ้น

        พลังต้องมีพลังที่แข็งแกร่งกว่านี้! ถ้ามีพลัง ใยต้องไปกลัวตระกูลขั้นเก้าเล็กๆ สามตระกูลอีก ถ้าตระกูลหนิว เฉิง จางกล้าทำร้ายตระกูลหวง เปิดฉากทำลายเสียก็สิ้นเรื่อง ตอนนี้อำนาจของตระกูลหวงยิ่งใหญ่ขึ้นทุกที ยากหลีกเลี่ยงการต่อสู้นองเลือดกับตระกูลหนิว เฉิง จางทั้งสามตระกูล อาการบาดเจ็บของพวกผู้ใหญ่เรื้อรังมานานหลายปีแล้ว ถ้าเกิดกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง อาการบาดเจ็บก็ยิ่งหนักสาหัสยิ่งขึ้น คิดจะให้ตระกูลหวงตั้งหลักมั่นคงในอำเภอเป่ยโม่ มีแต่ต้องทำให้พลังแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งยิ่งขึ้น!

        ในใจของเสวียนเทียนขบคิด ความคิดที่อยากจะแข็งแกร่งในใจยิ่งคิดยิ่งรุนแรง

        เทียนเอ๋อร์ เก่งมาก ไม่เสียชื่อเป็นลูกหลานตระกูลเสวียน ไม่เสียชื่อความเก่งกาจของพ่อเจ้า!” ในบ้านไม่มีใครอื่น หวงเยว่จับแขนเสวียนเทียน ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี

        เสวียนหงยิ้มน้อยๆ กล่าวว่า ข้ายังมีชื่อเสียงเก่งกล้าอะไรอีกหรือ? แต่เทียนเอ๋อร์ ไม่ทำให้พ่อผิดหวังเลย ข้าเสวียนหงมีคนสืบทอดแล้ว ข้าดีใจยิ่งนัก แต่ว่าเทียนเอ๋อร์ อย่าได้ผยองยโสเพราะเรื่องนี้เล่า ชั้นวิถียุทธ์ขั้นเก้าชนะชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่ง สำหรับอำเภอเป่ยโม่และอาณาจักรเสินเตาแทบจะเป็นตำนาน แต่สำหรับแผ่นดินเสินโจวทั้งหมดแล้ว ในตระกูลขั้นหนึ่ง ขั้นสอง ขั้นสาม ในกลุ่มอำนาจชั้นสูงเหล่านั้น อัจฉริยะเช่นนี้แม้ว่าจะไม่มาก แต่สองมือก็นับไม่หมด

        อืมลูกทราบแล้วเสวียนเทียนพยักหน้า กล่าวต่อ ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้ารู้สึกว่าแม้ข้าจะได้ชัยชนะมา แต่เวลานี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะวางใจเฉลิมฉลองได้ ตระกูลหนิว เฉิง จางทั้งสามตระกูลย่อมไม่ยอมปล่อยให้ตระกูลหวงใหญ่โตขึ้น ถ้าหากอำนาจของตระกูลหวงคุกคามอำนาจของพวกเขา พวกเขาคงหันอาวุธเข้าสู้กับตระกูลหวง ข่มเหงตระกูลหวงแน่ ดังนั้น ครั้งนี้พวกเขาเสียหมู่บ้านสามหมู่บ้านให้แก่พวกเรา ถ้าหมู่บ้านเหล่านั้นไม่ไร้ประโยชน์กับตระกูลหวง ก็เกรงว่าพวกเขาคงจะเริ่มต่อสู้นองเลือดกับตระกูลหวง สถานการณ์นี้ไม่ดีกับตระกูลหวงสักเท่าไรนัก

        เสวียนหงกับหวงเยว่สบตากันทีหนึ่ง ดวงตาที่สบกันของทั้งสองมีความประหลาดใจ ในใจคิดเหมือนกัน ‘เทียนเอ๋อร์อายุยังน้อย แต่ความคิดความอ่านต่อเรื่องราวต่างๆ กลับเป็นผู้ใหญ่นัก

        เสวียนหงตอบว่า นี่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้ว่าฉากหน้าของตระกูลหวงจะเฉลิมฉลองอย่างยินดี แต่ในที่มืดก็เตรียมพร้อมต่อสู้นองเลือดกับสามตระกูลไว้แล้ว หากตระกูลหนิว เฉิง จางทั้งสามตระกูลกล้าลงมือจริงๆ บีบตระกูลหวงจนสุดหนทาง ถ้าอย่างนั้นก็มีแต่ต้องเผยวิชาลับของตระกูลเสวียนกับตระกูลหวง ไม่สนว่าคนผู้นั้นจะหาเจอ ทำลายสามตระกูลนี้เสีย

        เสวียนเทียนกล่าวว่า ท่านพ่อ พวกท่านไม่จำเป็นต้องลงมือหรอก พยายามอย่าลงมือ ถ้าดึงคนผู้นั้นมาพวกเราคงพบหายนะอย่างแท้จริง จากการประลองทายาทรุ่นหลังครั้งนี้ พลังของสมุนไพร ‘หลินจือหยก ในร่างของข้าถูกดูดซับไว้เกือบหมดแล้ว อีกไม่นานก็คงทะลุชั้นวิถียุทธ์ขั้นสิบ ใช้เวลาไม่นานรอให้ข้าก้าวขึ้นชั้นเบิกนภา ข้าก็สามารถกำจัดตระกูลหนิว เฉิง จางสามตระกูลได้แล้ว

        ระหว่างที่พูดเสวียนเทียนก็หยิบลายแทงสมบัติทั้งสามแผ่นออกมาจากอกเสื้อ พูดต่อว่า วันนี้ เพื่อที่จะเบี้ยวเงินห้าแสนตำลึง หนิวเจิ้นซานโยนลายแทงสมบัติชิ้นนี้ราวกับเป็นขยะมาให้ข้า เขาไม่รู้ว่าที่ตัวข้ามีลายแทงสมบัติอีกสองชิ้นพอดี ขาดก็เพียงชิ้นที่สาม ที่ซ่อนสมบัตินี้อยู่ใกล้กับอำเภอเป่ยโม่ ข้ารวมลายแทงทั้งสามชิ้นเป็นหนึ่ง อาจจะหาสมบัติพบ ได้พบโชคดีก็เป็นได้

        โอ้!

        เสวียนหงกับหวงเยว่ดวงตาสว่างวาบ เสวียนหงพูดอย่างยินดีว่า ข้าได้ยินท่านลุงสองของเจ้าบอกว่า หนิวเจิ้นซานให้ลายแทงขาดแผ่นหนึ่งกับเจ้า เจ้ากลับยินดีรับมา ที่แท้เจ้ามีลายแทงอีกสองแผ่น ครั้งนี้หนิวเจิ้นซานนับว่าช่วยได้มากทีเดียว

        เสวียนเทียนซ้อนลายแทงทั้งสามแผ่นเข้าด้วยกัน จริงดังคาด ลายแทงทั้งสามแผ่นเชื่อมต่อกันสนิทพอดี ส่วนที่ขาดของลายแทงแต่ละแผ่นได้ลายแทงอีกสองแผ่นเสริม กลายเป็นแผนที่ที่สมบูรณ์

Author *วาริช*