มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 2 บทที่ 35 ปะทะเดือดกลางพงไพ

        เฟิงชิงชิงกระเด็นไปกระแทกพื้นจนหมดสติไปทันที

        หลงอวี้สงบลง ก้าวเท้าไปอยู่ข้างๆ เฟิงชิงชิง ปลดยุทธภัณฑ์ ถุงมือวิญญาณล่องลอยบนมือนางออก

        หลังจากสวมถุงมือวิญญาณล่องลอยแล้ว หลงอวี้ก็ลองซัดออกไปสองฝ่ามือ พบว่าถุงมือวิญญาณล่องลอยสามารถเพิ่มพลังที่มือขวาได้ถึงสามส่วน นี่เป็นแค่ผลลัพธ์จากยุทธภัณฑ์ระดับล่างเท่านั้น!

        ยากจะจินตนาการได้จริงๆ ว่าหากยอดฝีมือที่มียุทธภัณฑ์ระดับกลางหรือระดับสูงในครอบครองจะแข็งแกร่งมากเพียงใด

        ‘เฟิงชิงชิง วันนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าหนึ่งครั้ง หากมีครั้งหน้า ข้าจะไม่เมตตาอีกต่อไป’

        หลงอวี้คิดในใจ ก่อนจะหันหลังเดินไปริมธาร เก็บโสมโบราณระดับล่างต้นนั้นขึ้นมาอย่างทะนุถนอม

        จากนั้นเขาก็เงยหน้า มองไปทั่วบริเวณ

        “จุดที่สามารถดูดกลืนพลังจากโสมโบราณได้อย่างปลอดภัย ดูเหมือนจะมีแค่บนต้นไม้เท่านั้น…”

        หลงอวี้พิจารณาดังนั้น ก็วิ่งไปใต้ต้นไม้โบราณที่มีใบไม้ค่อนข้างหนาแน่นต้นหนึ่งที่ห่างไปไม่ไกล เขาปีนขึ้นไปบนต้นไม้ต้นนั้น

        ไม่นาน เขาก็ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางใบไม้บนต้นไม้ที่สูงสิบจ้าง เขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์กว้างไกลจากบนนั้นได้ ต่อให้มีอันตรายย่างกรายเข้ามาเขาก็จะรู้รู้ตัวได้ทันที

        หลงอวี้นั่งนิ่งๆ บนนั้น เชื่อว่าไม่มีใครสามารถพบตัวเขาได้ง่ายๆ แน่!

        จากนั้นเขาก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า กินโสมโบราณระดับล่างและเริ่มดูดกลืนพลังฟ้าดินที่อยู่ในนั้นทันที

        สัญลักษณ์มังกรปรภพก็ถูกปลุกขึ้นมาด้วย หลังจากกินโอสถมาแล้วหลายครั้ง หลงอวี้ก็คุ้นชินกับการใช้สัญลักษณ์มังกร สามารถกักเก็บพลังฟ้าดินจากโสมโบราณเจ็ดส่วนไว้ในสัญลักษณ์มังกรได้อย่างง่ายดาย

        ส่วนสามส่วนที่เหลือนั้น หลงอวี้ดูดกลืนเข้าไปตรงๆ

        เส้นลมปราณในกายขยายขึ้นอีกครั้ง ไม่นานพลังพื้นฐานของตัวเขาก็เพิ่มขึ้นจากสามหมื่นสองพันชั่งเป็นสามหมื่นสามพันชั่ง

        “ผลลัพธ์ไม่เลว”

        หลงอวี้ค่อนข้างพอใจ จากนั้นก็เริ่มดูดกลืนพลังฟ้าดินที่เก็บไว้ในสัญลักษณ์มังกรปรภพเจ็ดส่วนต่อทันที

        สามหมื่นสี่พันชั่ง

        สามหมื่นห้าพันชั่ง!

        หลงอวี้ดูดกลืนพลังฟ้าดินจากโสมโบราณจนเสร็จสิ้น ลมปราณพลุ่งพล่านทั่วร่าง เกิดการพัฒนาขึ้น แต่ก็แค่เพิ่มพลังให้เท่านั้น สำหรับเขาที่ตอนนี้วรยุทธ์ขั้นหก หากต้องการจะยกระดับขึ้น เขายังขาดพลังฟ้าดินอีกมากโข

        โสมโบราณระดับล่างหนึ่งต้นถูกหลงอวี้ดูดกลืนพลังจนเกลี้ยง ไม่มีถูกทิ้งเสียเปล่าแม้แต่เศษเสี้ยว หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ต้องสร้างความตื่นตะลึงไม่น้อยแน่

        เขาซ่อนตัวอยู่ในยอดพุ่มไม้ของต้นไม้โบราณ เริ่มปรับลมหายใจฟื้นฟู การต่อสู้กับเฟิงชิงชิงเมื่อครู่ ทำให้ลมปราณในร่างกายถูกใช้ไปบางส่วน หากยังไม่ฟื้นฟูจนกลับไปอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน หลงอวี้ก็จะไม่เดินทางต่อ

        วันเวลาล่วงเลย พระอาทิตย์ตกอย่างไม่รู้ตัว ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดลง

        ตอนนั้นเอง หลงอวี้พลันสัมผัสได้ถึงพลังฟ้าดินอันเข้มข้นสายหนึ่งที่แผ่มาจากที่ไกลๆ ปกคลุมเขาไว้ทั้งตัว และเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ด้วย!

        ‘มีคนถือโสมโบราณกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้!’

        หลงอวี้ตื่นตะลึงในใจ ดูจากความเข้มข้นของพลังฟ้าดินนั่นแล้ว ต้องไม่ใช่โสมโบราณระดับล่างแน่ น่าจะเป็นระดับกลาง!

        แต่ไม่มีทางเป็นระดับสูง เพราะโอสถระดับสูงจะมีพลังฟ้าดินเข้มข้นกว่านี้หลายเท่า ใช่ว่าหลงอวี้จะไม่เคยเห็น

        “โสมโบราณระดับกลาง ถ้ามีโอกาสก็ชิงมันมาเลยก็แล้วกัน”

        หลงอวี้ไม่ใช่พ่อพระอยู่แล้ว หากพบโอกาสที่จะทำให้เขายกระดับพลังได้ เขาจะคว้าไว้อย่างไม่ลังเล

        ไม่นาน ผู้ที่ปรากฏตรงหน้าเขากลับเป็นคนรู้จักดี

        เขาที่ดูจากด้านบน เห็นเงาร่างสายหนึ่งวิ่งพุ่งมาลิบๆ คนผู้นั้นสวมชุดสีขาว คือหลิงหานแห่งลัทธิสยบฟ้า!

        หลิงหานถือโสมโบราณระดับกลางต้นหนึ่ง กำลังวิ่งมาทางนี้ ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บด้วย ความเร็วในการวิ่งจึงไม่ได้สูงนัก

        ด้านหลังของเขามีเงาร่างสายหนึ่งไล่ตามมาติดๆ คือลูกศิษย์ของสำนักน้ำแข็งเยือกในชุดเสื้อคลุมไหมสีน้ำเงิน หลิ่วหมิงเซวียน!

        “หลิ่วหมิงเซวียนทำร้ายศิษย์พี่หลิงหานอย่างนั้นหรือ?”

        ดวงตาของหลงอวี้เผยประกายเย็นยะเยือก ดูท่าจะต้องลงมืออีกรอบ

        หลิงหานที่กำลังพุ่งมาทางนี้สีหน้าเคร่งเครียด เห็นได้ชัดว่าเขาบาดเจ็บที่ขา เกรงว่าอีกไม่นานหลิ่วหมิงเซวียนคงตามทัน

        หลิ่วหมิงเซวียนที่ไล่ตามหลังมาหัวเราะดังสนั่นไปด้วย 

       “หลิงหาน เจ้าคิดจะหนีไปที่ไหนอีก? รีบส่งโสมระดับกลางมาซะดีๆ ไม่อย่างนั้น ถ้าข้าไล่ทันเจ้าละก็ ข้าจะทำลายวรยุทธ์เจ้าทิ้ง ทำให้กลายเป็นสวะไร้ค่า!”

        ดูจากท่าทางเหิมเกริมของมัน ก็ชัดเจนแล้วว่าหลิงหานเป็นเพียงลูกไก่ในกำมือสำหรับมัน ไม่ว่าอย่างไรก็หนีไม่รอด

        อันที่จริง หากหลงอวี้ไม่บังเอิญอยู่ใกล้พอดี หลิงหานก็ไม่มีวิธีหนีเอาชีวิตรอดไปได้อีกแล้ว 

       แต่ตอนนี้เรียกได้ว่าไอ้หลิ่วหมิงเซวียนกำลังรนหาที่ตายโดยไม่รู้ตัว

        ‘จะทำลายวรยุทธ์ของศิษย์พี่หลิงหานหรือ จิตใจอำมหิตจริงๆ’

        หลงอวี้คิดในใจพลางหรี่ตาลง รู้สึกรังเกียจไอ้หลิ่วหมิงเซวียนมากกว่าเดิม

        “หืม? ศิษย์น้องเฟิง?”

        ในตอนนั้นเอง หลิงหานที่วิ่งนำหน้าก็พบเฟิงชิงชิงที่นอนหมดสติ จึงหน้าถอดสีไปทันที เขาหยุดเท้าลงเตรียมจะเข้าไปดูอาการของเฟิงชิงชิง

        หลงอวี้เห็นเช่นนั้นพลันรู้สึกอึ้งเล็กน้อย

        เจ้าหลิงหานนี่ช่างจิตใจดีเสียเหลือเกิน ตัวเองกำลังถูกศัตรูที่แกร่งกว่าไล่ฆ่าอยู่แท้ๆ ยังคิดจะหยุดดูอาการของเฟิงชิงชิงอีก!

        “หลิงหาน เจ้านี่ช่างเป็นคนดีจริงๆ นะ ฮ่าฮ่า!”

        หลิ่วหมิงเซวียนที่ไล่ตามหลังมา หัวเราะเสียงดัง 

        “แต่น่าเสียดายที่ในโลกใบนี้ คนดีแบบเจ้าไม่มีใครอายุยืนเลยสักคน!”

        เขาหัวเราะพร้อมกับทะยานออกไป เกิดสายลมกระโชก!

        ในที่สุดหลงอวี้ที่มองจากบนต้นไม้สูงก็เห็นโอกาส ดีดตัวลงมายังจุดที่หลิ่วหมิงเซวียนอยู่พร้อมกับออกหมัดข้างหนึ่งชกออกไปอย่างรุนแรง!

        หมัดที่สวมถุงมือวิญญาณล่องลอยไว้ปล่อยหมอกสีดำบางๆ ออกมาชั้นหนึ่ง ทำให้พลังหมัดของเขาเพิ่มขึ้น มีพละกำลังถึงห้าหมื่นกว่าชั่ง!

        หลงอวี้ไม่โง่ เขาย่อมไม่ส่งเสียงตอนที่กำลังลอบโจมตี

        กว่าหลิ่วหมิงเซวียนจะพบความผิดปกติเหนือหัวตัวเองนั้น หมัดของหลงอวี้ก็เข้าใกล้มากแล้ว!

        “เป็นแค่สวะยังกล้าลอบกัดอีก!”

        หลิ่วหมิงเซวียนตอบสนองอย่างรวดเร็ว หยุดเท้าลงในพริบตา แววตาฉายประกายดุร้าย

        หลังจากนั้นเขาก็สะบัดแขนทั้งสองข้างออก ลมปราณถูกอัดแน่นกลายเป็นรูปร่างของมังกรเยือกแข็งสองตัว ก่อนจะพุ่งใส่หลงอวี้ตรงๆ!

        พริบตานั้นการโจมตีของทั้งสองฝ่ายได้ปะทะกันจนเกิดระเบิดกลางอากาศ

        เพราะใช้งานอย่างฉุกละหุก พลังของคลื่นมังกรเยือกแข็งครั้งนี้จึงไม่สูงมาก ถูกหลงอวี้ชกแหลกในหมัดเดียว! จากนั้นเงาร่างของหลงอวี้ก็ได้เคลื่อนไปข้างหน้าต่อโดยไม่หยุดยั้ง หมัดที่ชกออกไปพุ่งเข้าใส่หลิ่วหมิงเซวียนทันที

        “ท่าร่าง!”

        หลิ่วหมิงเซวียนขยับเท้าไปมา ร่างกายเบาบางดุจสายลม พริบตาเดียวก็ถอยไปได้หลายก้าว

        หลงอวี้เพิ่งกระโดดลงมาจากบนต้นไม้ จึงไม่สามารถไล่ตามต่อ ได้แต่ยืนตั้งหลักอีกครั้ง ในจุดที่หลิ่วหมิงเซวียนเคยอยู่

        “ศิษย์น้องหลงอวี้?”

        หลิงหานที่อยู่ข้างๆ ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองนัก แต่พอสังเกตดีๆ ก็พบว่าเป็นหลงอวี้ที่โผล่มากะทันหันและบีบให้หลิ่วหมิงเซวียนต้องถอยไป

        “ศิษย์พี่หลิงหาน ท่านพาศิษย์พี่เฟิงไปก่อนเถิด”

        หลงอวี้พูดโดยไม่หันกลับไปมอง

        “เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ศิษย์พี่จะยอมทิ้งเจ้าไว้คนเดียวได้อย่างไร เจ้าวางใจเถิด ศิษย์พี่จะต่อสู้เคียงบ่าเจ้าเอง!”

        คำพูดของหลิงหานแฝงความแข็งกร้าวน่าเกรงขาม!

        “เช่นนั้นศิษย์พี่ท่านช่วยดูแลศิษย์พี่เฟิงไว้ก่อน ถ้านางถูกจับเป็นตัวประกันละก็แย่แน่”

        หลงอวี้ได้แต่เกลี้ยกล่อม

        หลิงหานได้ยินเช่นนั้นก็เห็นด้วย ถ้าจู่ๆ มีใครไม่รู้โผล่มาจับตัวเฟิงชิงชิง พวกเขาคงลำบากยิ่งกว่าเดิมน่ะสิ?

        พอคิดถึงตรงนี้ หลิงหานก็อุ้มเฟิงชิงชิงขึ้นมาแล้วถอยไปอยู่ใต้ต้นไม้โบราณต้นหนึ่ง

        “ศิษย์น้องหลงอวี้ เจ้ารั้งมันไว้ก่อนครู่หนึ่ง ศิษย์พี่จะรีบไปช่วยเจ้าเอง!”

        หลิงหานตะโกนทิ้งท้าย จากนั้นก็เริ่มตรวจสภาพบาดแผลของเฟิงชิงชิง

        หลิ่วหมิงเซวียนที่ยืนนิ่งอยู่นั้น หัวเราะเย้นหยันหลงอวี้ 

       “ไอ้สวะ เจ้ายังกล้าเสนอหน้ามาเจอข้าเองอีกหรือ เช่นนั้นข้าคงต้องขยี้เจ้าให้กลายเป็นเศษสวะจริงๆ เสียแล้ว!”

        “ถ้าเจ้าทำได้ก็ลองดู”

        หลงอวี้ตอบอย่างเยือกเย็น

        “หึ ข้าจะเตือนอะไรเจ้าอย่างหนึ่ง คุณชายหวังเทียนจัวของตระกูลหวังแห่งเขตพระราชฐานได้หมายตาน้องเฟิงเหยาไว้”

        หลิ่วหมิงเซวียนพูดด้วยท่าทางโอหัง  

        “ไอ้สวะอย่างเจ้า ทางที่ดีอยู่ให้ห่างจากน้องเฟิงเหยาหน่อยจะดีกว่านะ!”

        “เจ้าใช้ตาข้างไหนมองถึงเห็นว่าข้าเข้าใกล้เฟิงเหยา?”

        หลงอวี้พูดอย่างเฉยชา 

       “เจ้าจะขยี้ข้าทิ้งไม่ใช่หรือ จะพูดพล่ามทำไม!”

        “ในเมื่อรีบร้อนอยากตายขนาดนี้ เช่นนั้นข้าจะสงเคราะห์ให้”

        หลิ่วหมิงเซวียนกระแทกเสียงเย็นชา ลมปราณทั่วร่างพลุ่งพล่าน ชุดคลุมสีน้ำเงินขยับตามสายลม เห็นได้ชัดว่าระดับพลังของเขาไม่ธรรมดา!

        จากนั้นหลิ่วหมิ่งเซวียนก็ก้าวออกมาอย่างแผ่วเบา ให้วิชาท่าร่าง เคลื่อนตัวเข้าหาหลงอวี้อย่างรวดเร็ว

        แขนทั้งสองข้างของเขามีลมปราณปกคลุมไว้ ราวกับมังกรเยือกแข็งสองตัวกำลังแผดเสียงเกรี้ยวกราด ครั้งนี้เขาจะปล่อยพลังคลื่นมังกรเยือกแข็งในระยะประชิด เพราะถ้าทำแบบนี้จะมีอานุภาพทรงพลังยิ่งขึ้น!

        ความเร็วของหลิ่วหมิงเซวียนสูงมาก แต่หลงอวี้ก็ได้ใช้วิชาวายุก้าวพริบตา เร่งพลังของรองเท้าเหมันต์คลั่ง ความเร็วจึงไม่ได้ด้อยไปกว่าอีกฝ่าย

        ร่างกายของหลงอวี้เบาดุจสายลม พริบตาเดียวก็ฉีกตัวไปอยู่ข้างๆ ได้ วิชาคลื่นมังกรเยือกแข็งของหลิ่วหลิงเซวียนจึงซัดโดนอากาศว่างเปล่า!

        “มีรองเท้าแบบนี้ด้วยหรือ!”

        หลิ่วหมิงเซวียนตาเป็นประกายทันที รู้สึกตะลึงระคนยินดีเหมือนเฟิงชิงชิงไม่มีผิด 

       นี่มันของดี!

        “วันนี้เจ้าต้องตายเท่านั้น!”

        หลิ่วหมิงเซวียนพูดอย่างอำมหิต จากนั้นโซ่เหล็กสีดำเส้นหนึ่งพลันพุ่งออกมาจากแขนเสื้ออย่างเงียบงัน ราวกับอสรพิษชั่วร้าย พริบตาเดียวก็พันรัดร่างกายของหลงอวี้ไว้

        ยุทธภัณฑ์ของหลิ่วหมิงเซวียน กลับเป็นโซ่เหล็กสีดำบางๆ เส้นหนึ่ง!

        จากนั้นหลิ่วหมิงเซวียนก็ได้ปล่อยวิชาคลื่นมังกรเยือกแข็งในระยะประชิดอีกครั้ง วิชานี้เป็นวิทยายุทธ์ขั้นสูง ทั้งยังบรรลุถึงขั้นกลางแล้ว อานุภาพจึงยิ่งทรงพลังสุด!

        “ไอ้สวะ ไปตายเสีย!”

        หลิ่วหมิงเซวียนตาเป็นประกายโหดเหี้ยม แขนสองข้างซัดไปหาหลงอวี้!

        หลิงหานที่อยู่ห่างไปไม่ไกลเงยหน้าขึ้นเห็นหลงอวี้ที่ถูกตรึงไว้อย่างแน่นหนากำลังจะถูกคลื่นมังกรเยือกซัดใส่ เขาพลันเกิดความตระหนก

        “ศิษย์น้อง!”

        หลิงหานตะโกนอย่างตะลึง!

        แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ไกลเกินไป!

        วินาทีนั้นหลงอวี้ก็ราวกับเห็นภาพตัวเองถูกหมัดนั่นซัดใส่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อเผชิญหน้ากับหลิ่วหมิงเซวียนที่มีวรยุทธ์ขั้นเจ็ด ไม่ว่าหลงอวี้จะเก่งสักแค่ไหนก็ไม่มีทางต้านรับการโจมตีเต็มกำลังของอีกฝ่ายได้แน่!

        เพียงแต่ชะตาชีวิตหลงอวี้ถูกกำหนดให้สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้อื่น!

        สองแขนของหลิ่วหมิงเซวียนซัดโดนไหล่ของหลงวี้ ในพริบตานั้น หลงอวี้ กลับสลายหายไปราวกับเป็นภาพลวงตา

       ทั้งเขาและหลิงหานต่างก็อึ้งไปตามๆ กัน

        วิธีการเดียวกัน แม้จะใช้ซ้ำอีกครั้ง แต่ก็ยังได้ผลลัพธ์แบบเดิม

        “เจ้าจะขยี้ข้าทิ้งไม่ใช่หรือ ดูตอนนี้สิ ใครกันแน่ที่จะเป็นฝ่ายถูกขยี้!”

        เสียงของหลงอวี้ดังขึ้นจากด้านหลังของหลิ่วหมิงเซวียน กำหมัดที่สวมถุงมือวิญญาณล่องลอยไว้นั้นมีลมปราณสีดำบางๆ ห่อหุ้มไว้ชั้นหนึ่ง จากนั้นก็มีแรงกดทับทรงพลังจากจินตภาพสยบฟ้าก็ได้ปกคลุมหลิ่วหมิงเซวียนไว้!

         

Author Glory Forever