หลงอวี้ได้ไล่ตามจนออกจากหุบเขาไป พอกวาดสายตาออกไปก็พบว่าตรงหน้าเป็นป่าไม้ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวผืนหนึ่ง มองไม่เห็นปลายทาง
ทหารนับพันของทัพกู่เหมิงทิ้งชุดเกราะไว้แล้วหนีกลับไปอย่างทุลักทุเล
‘อีกฝ่ายเสียรองแม่ทัพไปแค่คนเดียว แต่กลับถอยหนีเสียขนาดนี้ มีโอกาสสูงมากที่จะมีการซุ่มโจมตีรออยู่…’
หลงอวี้ไล่ตามต่อโดยเพิ่มความระมัดระวัง ไม่นานเขาก็พบร่องรอยของสองรองแม่ทัพเก่อเฉิงจือและหลูฉีเฟิง
‘ยอดฝีมือระดับรองแม่ทัพ น่าจะรู้เบาะแสเกี่ยวกับพ่อบุญธรรมของข้า‘
หลงอวี้ใช้งานปีกแห่งหุบเขาปีศาจ พุ่งทะยานกลายเป็นประกายแสงสายหนึ่งในพริบตา มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่รองแม่ทัพสองคนนั้นหลบหนีไป!
เมื่อเก่อเฉิงจือและหลูฉีเฟิงมองเห็นหลงอวี้ไล่ตามมา ก็มีท่าทางลนลานทันที มันรีบวิ่งหนีไปยังพื้นที่อันห่างไกลแห่งหนึ่งคนละทางกับที่กองทัพกู่เหมิงหนีไป
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หลงอวี้ระแวงมากขึ้นกว่าเดิม
การเคลื่อนไหวของเจ้าสองคนนี้แปลกประหลาด จะต้องมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลแน่!
แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น หลงอวี้ก็ไม่มีทางทิ้งโอกาสในการจับตัวอีกฝ่ายไปแน่ๆ ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตรายอะไรที่ไม่อาจต่อกรได้ ตัวเขาก็มั่นใจว่าจะสามารถหลบหนีเอาตัวรอดออกมาได้อย่างแน่นอน!
“ตาม!”
ปีกสีขาวคู่หนึ่งด้านหลังเขาได้กางออก ทำให้เขาโบยบินบนท้องฟ้าเหนือป่าหิมะด้วยความเร็วสูงจนเห็นเป็นเส้นแสงสายหนึ่งวาดผ่านอากาศไป ย่นระยะห่างระหว่างตัวเขากับเก่อเฉิงจือและหลูฉีฟิงได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งสองเร่งความเร็วในการวิ่งหนี ไม่นานก็เข้าไปหลบอยู่ในหุบเขาขนาดเล็กแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ
ภายในหุบเขาขนาดเล็กนั่นปกคลุมไปด้วยหิมะ ภายในป่านั้นเต็มไปด้วยกิ่งไม้โล้นๆ ทำให้ดูเงียบเหงาและเหน็บหนาวสุดแสน
‘ดักซุ่มโจมตีอยู่ในหุบเขานี้เองหรือ?’
หลงอวี้เตรียมตัวเตรียมใจไว้พร้อมแล้ว ปีกที่ติดอยู่หลังเขาได้กระพือขึ้นมาหนึ่งครั้ง ตัวเขาพลันพุ่งทะยานเข้าไปภายในหุบเขาแห่งนั้นทันที!
แต่เงาร่างของเขาปรากฏได้ไม่ทันไร ก็ได้มีเปลวเพลิงอันเกรี้ยวกราดสายหนึ่งพุ่งเข้ามาทางเขาราวกับจะกลืนกินเขาเข้าไปในทะเลเพลิง
“นี่มัน พลังของวิญญาณแท้เปลวเพลิง!”
หลงอวี้ตกตะลึง รีบแทงหอกในมือออกไปพร้อมกับปล่อยเขตแดนสยบฟ้าอันรุนแรงออกมา เจาะให้เปลวเพลิงตรงหน้ามีรูโหว่
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดก็จับตัวเจ้าได้แล้ว!”
เสียงหัวเราะอันหยิ่งผยองที่ฟังดูคุ้นหูเสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
บุตรของจ้าวตำหนักแห่งตำหนักซ่อนอัคคี จ้าวตำหนักน้อยหั่วฝู่ ยอดฝีมือระดับวิญญาณแท้ขั้นที่สอง!
ตอนอยู่ในแหล่งแร่บนภูเขาตระกูลหลิงก่อนหน้านี้ หลงอวี้ตอนนั้นมีระดับวิถียุทธ์ขั้นเก้าได้สังหารลูกศิษย์ระดับวิญญาณแท้ของตำหนักซ่อนอัคคีที่ชื่อเซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ยไป
และที่สำคัญที่สุดคือ หลงอวี้ยังบังอาจชิงเศษชิ้นส่วนจันทราที่เขาเล็งไว้ไปต่อหน้าต่อตาแล้วหนีหายไปอีก!
เรื่องนี้ทำให้หั่วฝู่เจ็บแค้นฝังใจมาโดยตลอด
ในการรุกรานของอาณาจักรกู่เหมิงครั้งนี้ หั่วฝู่เองก็คิดจะมาฆ่าศัตรูเพื่อสร้างผลงานเช่นกัน แต่บังเอิญได้ยินว่าหลงอวี้เดินทางมาที่นี่ด้วย ดังนั้นเขาเลยวางแผนดักซุ่มโจมตีหลงอวี้เพื่อทำการฆ่าทิ้ง!
“หั่วฝู่ ไม่คิดเลยว่าจ้าวตำหนักน้อยแห่งตำหนักซ่อนอัคคีจะมารวมหัวกันกับคนของอาณาจักรกู่เหมิงเช่นนี้ ข้าหลงอวี้ นับถือ นับถือ!”
หลงอวี้หัวเราะเย้ยหยัน ในเสียงหัวเราะมีน้ำเสียงของการดูถูกอย่างชัดเจน
ความแค้นระหว่างเขากับหั่วฝู่ อย่างมากสุดก็เป็นแค่ความแค้นระหว่างสำนักลัทธิภายในอาณาจักรต้าถังเท่านั้น แต่เจ้าหั่วฝู่นี่ถึงกับไปรวมหัวกับคนของอาณาจักรกู่เหมิงเพื่อมาดักซุ่มโจมตีเขา แบบนี้มันสามารถนับเป็นความผิดฐานทรยศอาณาจักรได้เลย!
เขาหันซ้ายมองขวาพบว่าอีกฝ่ายได้ซ่อนตัวอยู่ในทะเลเพลิงที่กำลังลุกโชน มันได้วางกับดักไว้ภายในหุบเขาแห่งนี้อยู่นานแล้ว
พอได้ยินเสียงหัวเราะเย้ยหยันของหลงอวี้ หั่วฝู่ก็ได้ปรากฏตัวออกมาจากทะเลเพลิง ดวงตาฉายแววโหดเหี้ยมอำมหิต มองมาทางหลงอวี้ราวกับมองคนตาย
“ผู้ชนะคือผู้ที่กำหนดทุกสิ่ง มันเป็นเช่นนี้มานับตั้งแต่อดีตแล้ว! วันนี้เจ้าต้องตายด้วยเงื้อมมือของข้าผู้นี้ ในเมื่อเจ้าตายไปแล้ว ผู้อื่นจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าใช้วิธีการไหนฆ่าเจ้า?”
หั่วฝู่หัวเราะอย่างเย็นชา แววตากระหายเลือดได้ส่องประกายขึ้นมาแวบหนึ่ง
“ตอนนี้ได้เวลาตายของเจ้าแล้ว!”
หลังจากที่เขาพูดจบ รองแม่ทัพสองคนที่หนีหายไปเมื่อครู่นี้ เก่อเฉิงจือและหลูฉีเฟิงก็ได้ปรากฏตัวอีกครั้งด้วยรอยยิ้มโหดเหี้ยมอำมหิต
ไอ้สามคนนี้มันร่วมมือกันจริงๆ ด้วย!
สามยอดฝีมือระดับวิญญาณแท้ขั้นที่สองได้ร่วมมือกันปิดล้อมหลงอวี้ไว้ทันที ทำให้หลงอวี้ตึงเครียดทันที
แม้ในสงครามเมื่อครู่นี้หลงอวี้จะสามารถสังหารรองแม่ทัพคนหนึ่งได้อย่างง่ายก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาฉวยโอกาสตอนที่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้ตั้งตัว จึงชกอีกฝ่ายตายด้วยวิชาหมัดมังกรปรภพเพียงหมัดเดียว
แต่ตอนนี้ ยอดฝีมือระดับวิญญาณแท้ขั้นที่สองกับร่วมมือกันถึงสามคน ซึ่งจำนวนนี้สามารถต่อกรกับผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณแท้ขั้นที่สามทั่วไปได้เลยทีเดียว!
การต่อสู้กับศัตรูสามคนและคนเดียวนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว
ต่อให้เป็นหลงอวี้ตอนนี้ก็ไม่กล้าประมาทเลยแม้แต่น้อย เพราะอีกฝ่ายมีพลังมากพอที่จะสามารถสังหารเขาได้อยู่จริงๆ นอกเสียจากว่าเขาจะใช้ไพ่ตายวิญญาณแท้มังกรปรภพออกมา
แต่ที่นี่อยู่ห่างจากจุดปะทะระหว่างกองทัพทั้งสองฝ่ายไปไม่ไกลนัก หากหลงอวี้เผยไพ่ตายออกมา ใครจะรู้ว่าที่นี่มีคนแอบซุ่มดูอยู่หรือเปล่า?
หากเรื่องที่เขาสร้างวิญญาณแท้ตนที่สองขึ้นได้แล้วหลุดออกไป เกรงว่าในอาณาจักรต้าถังต้องมีคนที่อยากให้เขาตายเพิ่มขึ้นอีกมากแน่!
‘ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้ก็ต้องลองสู้สุดชีวิตดูก่อนแล้ว…’
หลงอวี้คิดในใจ สีหน้าเคร่งเครียด
“เอาล่ะ พวกเรารีบลงมือเถอะ ก็แค่ไอ้หนูที่เพิ่งจะขึ้นมาระดับวิญญาณแท้ได้ไม่นานคนเดียว หากเราสามคนร่วมมือกันก็เป็นเรื่องง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ”
หลูฉีเฟิงนั้นแสยะยิ้มชั่วร้าย ที่ด้านหลังเขามีวิญญาณแท้ปรากฏและกำลังจะพุ่งมาหาหลงอวี้แล้ว
“ไอ้โจรชั่วบังอาจกล้าลงมือรึ!”
อยู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะดังสนั่น ต่อจากนั้นก็มีเสียงอินทรีย์สยบฟ้าดังตามมาจากทางด้านนอกของหุบเขาเล็กแห่งนี้ด้วย
มหาพลังสยบฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวสุดขีดได้กดทับลงมาจากบนฟ้า เพียงพริบตาเดียวก็ได้ปกคลุมเก่อเฉิงจือและหลูฉีเฟิงสองคนไว้ภายใน!
“ศิษย์พี่ปู้!”
หลงอวี้เห็นดังนั้นก็รู้สึกยินดีขึ้นมา ปู้สิงมาด้วยหรือนี่!
ถึงแม้ปู้สิงจะไม่มา เขาก็ไม่มีทางตายในที่แบบนี้ แต่ในเมื่อปู้สิงมาด้วย อย่างนั้นเรื่องราวก็ง่ายขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย
“ข้าเอง”
เงาร่างในชุดรัดรูปสีดำของปู้สิงได้ปรากฏตัวที่ด้านหลังของหลงอวี้และค่อยๆ เดินเข้ามาหาเขา
เงาของวิญญาณแท้อินทรีย์นภาได้ปรากฏด้านหลังของเขา มันปล่อยแรงกดทับของมหาพลังสยบฟ้าออกมาปกคลุมเกอเฉิงจือและหลูฉีเฟิงไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้แววตาของทั้งสองเปลี่ยนไป
หากต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือระดับวิญญาณแท้ขั้นที่สาม พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างแน่นอน!
“ศิษย์พี่ปู้ แล้วแม่ทัพใหญ่ของอาณาจักรกู่เหมิงผู้นั้นไปไหนแล้ว?”
หลงอวี้และปู้สิงยืนข้างกัน เขาจึงเอ่ยถาม
“มันถอยกลับไปแล้ว ข้าเป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้า ก็เลยรีบไล่ตามเจ้ามา ไม่คิดเลยว่าจะมีคนทรยศอยู่จริงๆ ด้วย”
ปู้สิงจ้องเขม็งไปทางหั่วฝู่ด้วยแววตาดุดัน
“หั่วฝู่ จ้าวตำหนักน้อยแห่งตำหนักซ่อนอัคคี ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมารวมหัวกับคนของอาณาจักรกู่เหมิงเพื่อทำร้ายศิษย์น้องหลงอวี้ นี่มันความผิดฐานทรยศอาณาจักรนะ!”
“ไม่ต้องพูดมาก วันนี้ข้าต้องเผาไอ้หมอนั่นให้มอดไหม้เป็นจุณให้ได้!”
หั่วฝู่เผยสีหน้าโหดเหี้ยมอำมหิต ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยว่าปู้สิงพูดเรื่องอะไรบ้าง เขาจ้อมเขม็งไปทางหลงอวี้อย่างไม่ละสายตา
“ไอ้เวรนี่ นับว่าเจ้ามีเกียรติมากนะ เพราะข้าถึงกับหยิบยืมยุทธภัณฑ์ระดับวิญญาณขั้นสูง ยันต์หยกระเบิดอัคคี มาจากบิดาเพื่อใช้จัดการกับเจ้า การที่ได้ตายด้วยยุทธภัณฑ์ระดับวิญญาณขั้นสูง ก็น่าจะทำให้เจ้าตายตาหลับได้แล้วล่ะ!”
หลังจากที่เขาพูดจบ ยันต์หยกระเบิดอัคคีที่เปล่งประกายแสงไฟแผ่นหนึ่งได้ถูกนำออกมาถือไว้ในมือของหั่วฝู่ ทันทีที่เร่งเร้าลมปราณ มันก็ได้ระเบิดเปลวเพลิงสายหนึ่งออกมาทันที
ยุทธภัณฑ์ระดับวิญญาณแท้ขั้นสูง!
สีหน้าของหลงอวี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย ยุทธภัณฑ์ระดับวิญญาณขั้นสูงระดับเดียวกับหอกมังกรสวรรค์ก่อนหน้านี้ อานุภาพของมันย่อมต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวหั่วฝู่เองยังเป็นยอดฝีมือระดับวิญญาณแท้ขั้นที่สองด้วย พลังพื้นฐานสูงกว่าหลงอวี้หลายเท่า หากใช้ยุทธภัณฑ์ระดับวิญญาณขั้นสูงต้องมีอานุภาพสูงส่งไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!
“ย้าก!”
หั่วฝู่ถือยันต์หยกระเบิดอัคคีไว้แล้วโถมโจมตีหลงอวี้ทันที!
ในตอนที่ปู้สิงมองเห็นอีกฝ่ายควักเอายันต์หยกระเบิดอัคคีออกมา เขาก็ขมวดคิ้วเช่นกัน คิดจะลงมือขัดขวาง แต่เก่อเฉิงจือและหลูฉีเฟิงที่อยู่ข้างๆ กลับโจมตีใส่เขาเพื่อที่ถ่วงเวลา
“ลมพายุ ไปขวางมันไว้!”
หลูฉีเฟิงแผดเสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด วิญญาณแท้วายุด้านหลังได้ต้านรับแรงกดทับของมหาพลังสยบฟ้าไว้พร้อมกับถาโถมเข้าใส่ปู้สิง
“เสาหิน หวดมัน!”
ที่ด้านหลังของเก่อเฉิงจือมีเงาวิญญาณแท้เสาหินปรากฏ พุ่งเข้าโจมตีใส่ปู้สิงจากอีกทิศทางหนึ่ง!
เมื่อพลังพื้นฐานของทั้งสองรวมกัน ก็พอจะทัดเทียมกับปู้สิงได้อยู่ เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีประกบสองข้างจากทั้งสองคน ปู้สิงก็ไม่อาจเมินเฉยพวกมันได้อีกต่อไป
“อินทรีย์นภา สยบมัน!”
ปู้สิงกระแทกเสียงเย็นชาพร้อมกับยกมือขึ้น จากนั้นวิญญาณแท้อินทรีย์นภาก็ได้เข้าไปต้านรับวิญญาณแท้เสาหินไว้ทันที ส่วนตัวเขานั้นก็ใช้วิทยายุทธ์ระดับวิญญาณ หมัดสะเทือนวิญญาณ หวดชกเข้าใส่วิญญาณแท้วายุของหลูฉีเฟิงไปหนึ่งหมัด
การต่อสู้ระดับวิญญาณแท้ของทั้งสามได้ปะทุขึ้นอย่างดุเดือดรุนแรง แม้ปู้สิงจะแข็งแกร่งทรงพลัง แต่กระนั้นศัตรูของเขาเก่อเฉิงจือและหลูฉีเฟิงนั้นต่างก็เป็นแม่ทัพเก่าที่เคยผ่านศึกสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน จึงไม่อาจเอาชนะได้ในระยะเวลาสั้นๆ
ส่วนอีกด้านหนึ่ง หั่วฝู่และหลงอวี้ก็ได้เข้าต่อสู้พัวพันกันแล้วเช่นกัน!
“ยันต์หยกระเบิดอัคคี อัคคีไตรวิญญาณ ระเบิด!”
หั่วฝู่ถือยันต์หยกระเบิดอัคคีไว้ในมือ ทั่วร่างของเขาได้มีเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมา พริบตานั้นได้มีเปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวสามลูกพุ่งเข้าใส่หลงอวี้จากสามทิศทาง มันก็ได้ระเบิดออกกลางอากาศ
“นั่นมันวิทยายุทธ์ระดับวิญญาณขั้นกลางของตำหนักซ่อนอัคคี!”
หลงอวี้ที่เห็นและสัมผัสได้ถึงพลังที่แฝงอยู่ในระเบิดเพลิงทั้งสามลูกนั่นแล้วก็มีสีหน้าเคร่งเครียดสุดขีดทันที
อานุภาพของระเบิดเพลิงทั้งสามลูกนี้รุนแรงมาเสียจนหลงอวี้ในตอนนี้ยังไม่สามารถต้านรับไว้ได้อย่างสิ้นเชิง!
“ปีกแห่งหุบเขาปีศาจ ทำงาน!”
หลงอวี้โคจรลมปราณในร่างกาย ในจังหวะที่เขาเร่งเร้าปีกแห่งหุบเขาปีศาจให้ทำงาน เขาได้ใช้วิชาท่าร่างวิญญาณเคลื่อน เปลี่ยนร่างกายให้กลายเป็นปราณวิญญาณ จนเร่งความเร็วให้เพิ่มสูงถึงขีดจำกัดสูงสุดได้!
เงาร่างของหลงอวี้ได้พุ่งฝ่าช่องว่างระหว่างระเบิดอัคคีไตรวิญญาณออกมาด้วยความเร็วสูงจนเห็นเป็นประกายแสง สามารถหลบกระบวนท่านี้ของหั่วฝู่ออกมาได้เลยทีเดียว
‘ความเร็วสูงขนาดนี้เลย’
ใบหน้าของหั่วฝู่เผยสีหน้าเคร่งเครียดออกมา เขามองออกว่าปีกสีขาวที่อยู่บนหลังของหลงอวี้ต้องเป็นยุทธ์ภัณฑ์ที่ทรงพลังไม่แพ้ยันต์หยกระเบิดอัคคีในมือของเขาอย่างแน่นอน
แต่แค่ความเร็วสูงอย่างเดียวยังทำอะไรหั่วฝู่ไม่ได้
“ไม่ว่าเจ้าจะเร็วแค่ไหน หากข้าแผดเผาฟ้าดินทั้งผืนให้มอดไหม้ไปด้วยเปลวเพลิง ดูสิว่าเจ้าจะยังหนีไปที่ไหนได้!”
ในดวงตาของหั่วฝู่ฉายแววอำมหิต จากนั้นยันต์หยกระเบิดอัคคีในมือเขาก็ได้ถูกเร่งเร้าขึ้นมา เส้นเพลิงจำนวนนับไม่ถ้วนได้พวยพุ่งออกมาจากยันต์หยกระเบิดอัคคี จากนั้นก็กระจายออกไปรอบๆ ทั่วทุกทิศทาง
เพียงไม่นาน เส้นเพลิงเหล่านี้ก็ได้ถักทอกันจนราวกับเป็นใยแมงมุมผืนหนึ่ง ปกคลุมไปทั่วฟ้าพร้อมกับพุ่งเข้าหาหลงอวี้!
“วิชานี้เป็นวิทยายุทธ์ที่ทรงพลังที่สุดของตำหนักซ่อนอัคคี แมงมุมอัคคีทอไหม!”
ตอนที่หั่วฝู่ใช้กระบวนท่านี้ ในดวงตาก็ฉายแววมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
เจ้าหลงอวี้ไม่มีทางหลบวิชานี้ได้แน่!
ขอเพียงหลงอวี้ถูกเผาตายอยู่ในที่แห่งนี้ อย่างนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าปู้สิงจะกลับไปแจ้งความ เพราะว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เขาได้รับคำสั่งมา ผู้ที่สั่งการเขาก็คือจอมทัพผู้บัญชาการกองทัพเรือนแสนในครั้งนี้ ขุนพลน้อยหลงจี๋!