มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 4 ตอนที่ 118 เสี่ยวหลิง

        ฉินอวี่กวาดสายตามองไปรอบถ้ำอย่างละเอียด แต่กลับไม่พบร่องรอยของเด็กหญิงคนนั้นเลยแม้แต่น้อย หากไม่ได้มองเห็นด้วยตาตนเอง เขาก็อาจคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตา

        เป็นไปได้ไหมว่าทุกครั้งที่เพลิงมรณะเคลื่อนไหวจะมีสาเหตุมาจากวิญญาณมรณะนี้? วิญญาณมรณะตนนี้สามารถดูดซับเพลิงมรณะได้หรือ?” ฉินอวี่ระงับความตกใจเอาไว้ และกวาดสายตาไปโดยรอบ แม้ว่าจะไม่พบเห็นเด็กหญิงคนนั้นอีก แต่ฉินอวี่ก็แน่ใจว่าเด็กหญิงคนนั้นจะต้องอยู่ในถ้าแห่งนี้

        ใต้เท้า ออกมาเถอะ” ฉินอวี่พูดขึ้นเบาๆ

        ถ้ำยังคงเงียบสนิท ไร้คนตอบกลับ

        ฉินอวี่ขมวดคิ้วแน่น จากนั้นจึงเรียกวิชาเซียนมรรคาสวรรค์ออกมา เพลิงมรณะก็ลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้ง เปลวเพลิงส่องสว่างไปทั้งถ้ำ แต่ก็ยังไม่พบเจอเด็กหญิงคนนั้น

        ไปแล้วหรือ?

        ฉินอวี่จ้องตรงไปยังสถานที่ที่เด็กหญิงคนนั้นนั่งอยู่ก่อนหน้านี้ และขมวดคิ้วแน่นทันที

        หรือเด็กคนนั้นคือสาเหตุที่ทำให้เพลิงมรณะต้องสั่นไหวทุกครั้ง? หรืออาจกล่าวได้ว่าเด็กหญิงคนนี้ได้ติดตามข้ามาตั้งแต่เข้ามายังแดนมรณะแล้ว? แต่เด็กหญิงคนนั้นจะใช่วิญญาณมรณะหรือไม่? หากนางเป็นวิญญาณมรณะ แล้วทำไมนางจึงไม่ยอมโจมตี?” ฉินอวี่กล่าวพลางครุ่นคิด

        ตามบันทึกในตำราโบราณวิญญาณมรณะจะได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยพลังมรณะ ร่างของมันถูกหล่อหลอมมาจากพลังมรณะ วิญญาณอัคคีตนนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แต่ก็เป็นสิ่งที่สร้างได้ยากยิ่งและรุนแรงกว่าวิญญาณอัคคี เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยพลังของฟ้าดิน และจะกลายเป็นสิ่งวิเศษในอนาคต

        ข้าอาจกำลังคิดมากไป เงื่อนไขของวิญญาณอัคคีแปรเปลี่ยนรุนแรงยิ่งขึ้น ต้องพลังความตายที่เข้มขึ้นถึงขีดสุดเท่านั้นจึงจะเรียกขยายพันธุ์ออกมาได้ หรือพูดโดยทั่วไปแล้ว จะมีเพียงสนามรบยุคบรรพกาลเท่านั้นที่จะมีพลังมรณะที่เข้มข้นเช่นนี้ หรือว่า แดนมรณะแห่งนี้เคยเป็นสนามรบมาก่อน?”

        หรือบรรพชนของหยาจื้อจะมีเจตนาที่จะให้แดนมรณะแห่งนี้อยู่บนหอคอยขัดเกลาชั้นที่เจ็ด? เพื่อหล่อเลี้ยงวิญญาณมรณะงั้นหรือ?”

        หากไม่เป็นเช่นนั้น จะอธิบายเรื่องแดนมรณะแห่งนี้ได้เช่นไร? แดนมรณะถูกสร้างขึ้นโดยบรรพชนของหยาจื้อ ไม่มีเหตุผลใดเลยที่เขาจะต้องสร้างแดนมรณะเอาไว้บนชั้นที่เจ็ดของหอคอยขัดเกลา ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังทิ้งเลือดของหยาจื้อเอาไว้ในชั้นที่เจ็ดนี้อีกด้วย นี่ต้องการให้คนรุ่นหลังเข้าไปตายกันหรืออย่างไร?”

        เดี๋ยวนะ”

        แดนมรณะแห่งนี้เกี่ยวข้องกับจอมอสูรที่ถูกบรรพชนหยาจื้อสะกดเอาไว้หรือเปล่านะ? หรืออาจบอกได้ว่า เดิมแล้วแดนมรณะแห่งนี้เป็นสิ่งที่บรรพชนหยาจื้อช่วงชิงมาจากจอมอสูรร้าย? และอาจเป็นไปได้ว่าจอมอสูรนั่นจะเป็นสายเลือดพยนต์มรณะ?”

        แต่ทำไมบรรพชนหยาจื้อต้องย้ายแดนมรณะมายังชั้นเจ็ดของหอคอยขัดเกลาด้วยเล่า? อีกทั้งยังจำกัดระดับการฝึกฝนของผู้จะเข้ามาอีกด้วย?” ฉินอวี่พูดกับตนเองและครุ่นคิดอยู่นานอย่างไม่ได้อะไรเพิ่มเติม จากนั้นจึงมองไปยังจุดที่เด็กหญิงคนนั้นนั่งอยู่ก่อนหน้านี้ แล้วจึงระงับความคิดทุกอย่างเอาไว้ และเริ่มใช้วิชาเซียนมรรคาสวรรค์อีกครั้ง เพื่อทดลองการยกระดับฝึกฝนสู่ขั้นเทียนชุ่ยชั้นที่สาม

        ก่อนหน้านี้ฉินอวี่เกือบจะทะลุผ่านไปได้แล้ว แต่เพราะความรู้สึกอันตรายที่เกิดขึ้นจึงขัดจังหวะการฝึกฝนของเขา

        นอกจากนี้ ฉินอวี่ก็ต้องการจะดูว่าเด็กหญิงคนนั้นจะกลับมาอีกไหม ในเมื่อเด็กหญิงคนนั้นไม่โจมตีตนเอง ฉินอวี่จึงไม่จำเป็นต้องระวังมากนัก หากเขาสามารถเก็บวิญญาณมรณะไว้ได้สักตน ก็นับว่าเป็นความโชคดีอันยิ่งใหญ่เลยทีเดียว

        วิญญาณมรณะจัดเป็นวัตถุพลังหยินขั้นสูง ต่อไปภายหน้าจะต้องเป็นพลังที่คอยช่วยเขาได้มากในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น เขายังสามารถอาศัยความรู้ของวิญญาณมรณะเพื่อทำความเข้าใจวิถีมรณะได้อีกด้วย!

        ในฐานะมนุษย์บนโลก ฉินอวี่แตกต่างจากพวกหยาจื้อสิบสามฝ่าย หรือจะเหมือนดั่งถงอวิ๋นเฟยที่มีสายเลือดสวรรค์แต่กำเนิด เขาไม่มีพลังที่แข็งแกร่งมากพอจะสนับสนุนตนเอง อาศัยได้เพียงความรู้และประสบการณ์ของตนเองเท่านั้น หากว่าเด็กหญิงคนนั้นคือวิญญาณมรณะจริงๆ ดังนั้น ฉินอวี่จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองมากที่สุด

        เมื่อระดับเทียนชุ่ยชั้นที่สองก้าวเข้าสู่ขั้นเทียนชุ่ยชั้นที่สาม จะทำให้ไข่มุกโลหิตกลายเป็นโอสถโลหิต เดิมแล้วฉินอวี่อยู่ในระดับสูงสุดของ

        ขั้นเทียนชุ่ยชั้นที่สอง ซึ่งเป็นเรื่องง่ายที่เขาจะเข้าสู่ขั้นเทียนชุ่ยชั้นที่สามได้อย่างง่ายดาย

        แต่ใช้เวลาไม่ถึงสิบวัน ฉินอวี่ก็เข้าสู่ขั้นเทียนขั้นเทียนชุ่ยชั้นที่สามได้สำเร็จ

        ถึงอย่างนั้นฉินอวี่ก็ยังไม่หยุดใช้วิชาเซียนมรรคาสวรรค์ ในขณะที่เขากำลังทำอยู่เช่นนั้น เขาก็พยายามดูอย่างละเอียดว่าเด็กหญิงคนนั้นอยู่ที่แห่งนี้หรือไม่ เป็นเพราะไม่สามารถใช้มโนจิตได้ ฉินอวี่จึงไม่มีวิธีจะสัมผัสถึงนาง หลังจากลังเลอยู่นาน เขาก็ได้แต่หรี่ตาลง

        ครั้งนี้ เด็กหญิงคนนั้นก็กลับมาจริงๆ และยังคงดูดซับเพลิงมรณะอยู่เช่นเคย

        ดูเหมือนว่าเด็กหญิงจะไม่ทันสังเกตเห็นว่าฉินอวี่ได้ลืมตาขึ้นมา เด็กหญิงคนนั้นกำลังหลับตาดูดซับพลัง ฉินอวี่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก และมองดูเด็กหญิงคนนี้อย่างละเอียด

        เมื่อมองจากภายนอก นอกจากลมหายใจอันเยือกเย็นที่แผ่ซ่านออกมาและผิวอันซีดขาวแล้ว ก็แทบไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากเด็กหญิงธรรมดาคนหนึ่งเลย มีผมยาวถึงเอว ใบหน้าดูงดงามเป็นพิเศษ หากมีสีของเลือดเล็กน้อย ก็ไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตาอันแสนงดงาม

        น่าจะเป็นวิญญาณมรณะแน่นอนแล้ว แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าแดนมรณะแห่งนี้มีความลับอะไรอยู่กันแน่ จึงสามารถหล่อเลี้ยงวิญญาณมรณะได้” ฉินอวี่แปลกประหลาดอยู่ในใจ เด็กหญิงคนนี้มีสติปัญญาอย่างชัดเจน อีกทั้งทั่วทั้งร่างของนางยังเต็มไปด้วยลมหายใจที่เยือกเย็น และยังสามารถดูดซับเพลิงมรณะได้ ย่อมจะเป็นที่แน่ใจได้แล้วว่านางคือวิญญาณมรณะ

        ทันใดนั้น ฉินอวี่ก็ควบคุมเพลิงมรณะส่วนเล็กๆ รวมเอาไว้กลางฝ่ามือข้างขวา จากนั้นจึงค่อยๆ ยกมือขึ้น และยื่นเพลิงมรณะให้กับเด็กผู้หญิงคนนั้น

        ดวงตาของเด็กหญิงคนนั้นลืมขึ้นทันที รูม่านตาที่มีสีสันสดใสของนางเปล่งประกายขึ้น ในเวลานี้ โลกทั้งใบของฉินอวี่ก็เหมือนถูกระงับไว้ภายในหัวใจของเขา

        พลังอันน่าสะพรึงกลัว วิญญาณมรณะที่น่าสะพรึงกลัว!

        ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย” ฉินอวี่ระงับพลังปราณอันพลุ่งพล่านในใจของเขาเอาไว้ และพยายามควบคุมน้ำเสียงของตนเอง ก่อนจะพูดไปเบาๆ

        สายตาอันแปลกประหลาดของเด็กหญิงคนนั้นจ้องตรงไปยังฉินอวี่อย่างเยือกเย็น และค่อยๆ เคลื่อนสายตาไปยังฝ่ามือของฉินอวี่

        ทันใดนั้น ฉินอวี่ก็รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่แผ่เข้าสู่ร่างกายผ่านทางฝ่ามือ และเมื่อเพลิงมรณะนั้นหายไป เด็กหญิงคนนั้นก็หายไปด้วยเช่นกัน

        หลังจากแน่ใจว่าเด็กหญิงคนนั้นหายไปแล้ว ฉินอวี่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ความน่าเกรงขามของวิญญาณมรณะนี้น่ากลัวเกินไป เมื่อถูกนางจ้องมองเช่นนี้ ฉินอวี่ก็รู้สึกเหมือนฟ้าดินจะพังทลาย ยากที่จะเชื่อนัก ว่าวิญญาณมรณะที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานจะมีพลังที่น่าสะพรึงเช่นนี้

        ไม่ใช่สิ หากอาศัยมองเพียงลมปราณนี้ พละกำลังของนางไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แล้วเหตุใดนางจึงไม่สังหารข้าและช่วงชิงเพลิงมรณะไปล่ะ?” ทันใดนั้นฉินอวี่ก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทันที โดยหลักแล้ว วิญญาณมรณะมีความดุร้าย บ้าเลือด และโมโหร้ายโดยกำเนิด หากต้องการเพลิงมรณะ ก็คงจะต้องช่วงชิงไปนานแล้วจึงจะถูก แต่นางกลับไม่ทำเช่นนั้น?

        ฉินอวี่ไม่ค่อยกล้าคิดว่าตนเองโชคดี เรื่องพิเศษย่อมมีเหตุผลของมันเอง

        หรือว่าจะเป็นเพราะพลังอสุนีบาต?” ฉินอวี่นึกถึงเมล็ดพันธุ์คืนชีพขึ้นมาได้ จากนั้นจึงมองไปยังเมล็ดพันธุ์คืนชีพที่แปลงมาจากอสุนีบาต พลางครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่

        จะต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน วิญญาณมรณะคือวัตถุพลังหยินระดับสูง และอสุนีบาตจัดเป็นวัตถุพลังหยาง แต่วิญญาณนี้ยังไม่เติบโต ดังนั้นจึงเกรงกลัวอสุนีบาต!” หลังจากฉินอวี่แน่ใจแล้ว ในใจของเขาก็รู้สึกโล่ง ยังดีที่มีพลังของอสุนีบาต ไม่เช่นนั้นคงต้องตายอยู่ในมือของวิญญาณมรณะเป็นแน่

        เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉินอวี่ก็วางใจลงไปได้

        ทันใดนั้น ฉินอวี่ก็เริ่มใช้วิชาเซียนมรรคาสวรรค์ และรอให้วิญญาณมรณะปรากฏขึ้นอีกครั้ง

        ประมาณสิบวันต่อมา วิญญาณมรณะก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง แต่หลังจากชิงเพลิงมรณะไปจากฉินอวี่นางก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยอีกครั้ง

        ในอีกครั้งหนึ่ง ฉินอวี่ตั้งใจให้วิญญาณมรณะชิงเพลิงมรณะไป และทุกครั้งที่วิญญาณมรณะลงมือเสร็จก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอยทุกครั้งไป

        อีกครั้ง ฉินอวี่ได้อาศัยช่วงที่วิญญาณมรณะปรากฏขึ้น ทำการรวบรวมเพลิงมรณะออกมาส่วนหนึ่ง และยื่นให้วิญญาณมรณะ

        วิญญาณมรณะชิงออกไปจากมือเขาทันที จากนั้นจึงโยนมันเข้าปากและกลืนกินเพลิงมรณะเข้าไป ราวกับจะเข้าใจได้ว่าฉินอวี่ไม่ได้ต้องการทำร้ายนาง และในครั้งนี้วิญญาณมรณะไม่ได้หายไปไหน แต่กลับนั่งลงตรงหน้าฉินอวี่ และมองดูฝ่ามือของฉินอวี่อย่างน่าสงสาร

        ฉินอวี่ไม่สนใจต่อความน่าสงสารของวิญญาณมรณะ และพูดอย่างช้าๆ “เจ้าชื่ออะไร?”

        เด็กหญิงคนนั้นทำไม่รู้ไม่เห็น และจ้องฝ่ามือของฉินอวี่ตลอดเวลา ราวกับว่าไม่อาจทนรอได้แล้ว เด็กหญิงคนนั้นยิ้มให้ฉินอวี่ และด้วยความไร้เดียงสาของนาง นอกจะจะไม่น่ากลัวแล้ว กลับดูน่ารักอีกด้วย

        ไม่มีชื่อหรือ? ต่อไปข้าขอเรียกเจ้าว่าเสี่ยวหลิง เป็นอย่างไร?” ฉินอวี่พูดอย่างช้าๆ พลางระงับความตื่นเต้นในหัวใจของเขาไว้

        เด็กหญิงเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาอันสดใสของนางก็พร่ามัวลง

        จำไว้นะ ชื่อของเจ้าคือเสี่ยวหลิง” ฉินอวี่พูดอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของเขาแดงขึ้นเล็กน้อย และรู้สึกเหมือนกำลังหลอกลวงเด็กตัวน้อยอยู่

        นัยน์ตาอันสดใสของเด็กหญิงก็ดูพร่ามัวมากขึ้น เรากับไม่เข้าใจสักเท่าไร จากนั้นครู่หนึ่งเด็กหญิงคนนี้ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

        เมื่อเด็กหญิงคนนั้นจากไป ฉินอวี่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ครั้งนี้เด็กหญิงคนนี้ก็เปล่งปล่อยพลังออกมาจนฉินอวี่ก็เริ่มรู้สึกกลัว ราวกับว่า

        ทั่วทั้งฟ้าดินกำลังจะถล่มลงมา ทำให้ฉินอวี่ต้องจุ๊ปากขึ้นทันที โดยทั่วไปแล้ว แม้ว่าวิญญาณมรณะจะแข็งแกร่ง แต่ไม่นึกเลยว่าจะน่ากลัวเช่นนี้

        ยิ่งไม่ต้องพูดเลยว่าเด็กหญิงคนนี้คงจะเพิ่งถือกำเนิดออกมาได้ไม่นาน

        จะเป็นไปได้ไหม บรรพชนหยาจื้อสะกดจอมอสูรร้ายไว้ ก็เพราะเรื่องแดนขัดเกลาแห่งนี้? หรืออาจพูดได้ว่า เพื่อวิญญาณมรณะนี้?” เมื่อหวนนึกถึงพลังอันแข็งแกร่งนั้น ในใจของฉินอวี่ก็มีความคิดเช่นนี้ขึ้นมา

        และความคิดเช่นนี้นี่เอง ที่ทำให้ฉินอวี่ตกใจอย่างยิ่ง

Author Glory Forever