มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 3 ตอนที่ 73 ลูกฉันเป็นเด็กดี

        สักพักซูเหมยเพิ่งจะปริปากพูดว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ปัญหาของจู้ซินซินก็อธิบายได้ชัดเจนแล้ว นักเรียนสองคนต่อยกันเพราะเธอ และยังนำคนนอกโรงเรียนมายุ่งด้วย เรื่องนี้พูดไม่ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับจู้ซินซินแม้แต่น้อย เดี๋ยวผู้ปกครองของนักเรียนทั้งสองคนก็จะมาถึงแล้ว ฉันหวังว่าจะอธิบายเรื่องราวให้ชัดเจนต่อหน้าผู้ปกครองของพวกเขา”

       “ได้ครับ”

       เจียงไป๋ยักไหล่พลางพูดแบบอย่างไรก็ได้

       เขาเองก็ไม่มีธุระอะไร คนว่างๆ คนหนึ่งก็นั่งๆ ไป

       การชื่นชมท่วงท่าอย่างนั้นของซูเหมย สำหรับเจียงไป๋แล้ว จะไม่ใช่ความสุขอีกอย่างได้อย่างไร

       สักพักชายวัยกลางคนที่แต่งกายเรียบง่าย สวมชุดสูทสีเทาและกางเกงยีนส์ซีดขายาวคนหนึ่ง เคาะและเปิดประตูห้องทำงานออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ

       ผิวพรรณของชายคนนี้ดำขลับ มือทั้งคู่หยาบกร้าน แค่ดูก็รู้ว่าเป็นคนซื่อที่ใช้แรงงานมาเป็นเวลานาน พอเข้าประตูมา ก็รีบพยักหน้าโค้งตัวพูดว่า “ขอโทษด้วยครับ ขอโทษด้วยครับคุณครู ผมเป็นคุณพ่อของหวางหยาง ลูกของพวกเราสร้างความเดือดร้อนให้คุณอีกแล้ว ผมสัญญาต่อไปจะไม่มีอีก ไม่มีอีก

       “คุณอย่าเพิ่งเครียดไป ฉันเรียกคุณมา ก็แค่ต้องการจะคุยถึงสถานการณ์ของที่นี่กับคุณสักหน่อย”

       ท่าทางอย่างนี้ของอีกฝ่ายทำให้ซูเหมยจำใจอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พบกับผู้ปกครองของอีกฝ่าย ดังนั้นจึงถือว่าชินแล้ว เธอถอนหายใจ และยืนขึ้นพูด

       “พอดีเลยค่ะ คุณครู พวกเราก็มาถึงแล้ว ไหนคุณบอกกับพวกเราหน่อยว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างไร เมื่อวานลูกของพวกเราโดนตี โรงเรียนเป็นอย่างไรกันแน่นักเลงหัวไม้อะไรที่นี่ก็ล้วนรับหมดหรือลูกของเราตั้งแต่เล็กจนโต ฉันก็ไม่เคยแตะแม้แต่ปลายนิ้ว ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าจะถูกคนอื่นทำร้าย นี่ถ้าหากเป็นอะไรไป พวกเรากับคุณไม่จบแค่นี้เด็ดขาด!

       เสียงหนึ่งดังขึ้น หญิงสาวที่รูปร่างยังถือว่าเป็นวัยกลางคน สวมชุดสูทแบรนด์เนม และแต่งหน้าจัดเดินเข้ามา

       คนที่ตามเข้ามายังมีชายวัยกลางคนอีกหนึ่งคน และก็ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน พยักหน้าก้มตัวทำความเคารพ น่าจะสนิทกับสามีภรรยาคู่นี้มาก

       พออีกฝ่ายพูดมาอย่างนี้ ชายวัยกลางคนที่ตามมาทั้งยังใส่แว่นตาก็รีบพูดทันทีว่า “คุณกู้ คุณนายกู้ นี่เป็นความผิดพลาดของโรงเรียนเรา ทางเราคิดไม่ถึงว่าในโรงเรียนจะเกิดเรื่องเลวร้ายอย่างนี้ คุณวางใจ คุณวางใจ ทางเราจะจัดการให้เรียบร้อย คุณครูซู ยังไม่รีบบอกกับคุณกู้และคุณนายกู้อีกว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร จริงๆ เลยเชียว ระดับชั้นนี้ชั้นเรียนของคุณเรื่องเยอะที่สุดแล้ว กู้ไค่นักเรียนดีๆ คนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะโดนคนทำร้าย ครูอย่างเธอ การสอนมีปัญหา จุดนี้ผมจะไม่วิพากษ์วิจารณ์คุณก็ไม่ได้!

       คำพูดนี้ทำให้เจียงไป๋กระตุกคิ้วแล้วมองซูเหมยแวบหนึ่ง

       ถึงแม้ซูเหมยจะไม่ยินยอมอยู่บ้าง แต่ก็ไม่กัดฟันพูดไม่ได้ว่า “หัวหน้าปี้ที่คุณพูดดิฉันจะจำไว้ค่ะ ต่อไปฉันจะระวัง สำหรับเรื่องราวเป็นอย่างนี้

       ซูเหมยอธิบายสถานการณ์เมื่อวานตามที่เธอเข้าใจให้กับทุกคนที่อยู่ในห้องทำงานฟัง

       เธอเพิ่งจะพูดจบ แม่ของกู้ไค่ก็พูดว่า “ลูกของเราถูกตีจนเป็นอย่างนั้น ล้วนเป็นลูกคุณทำหรือจริงๆ เลยเชียวไม่มีการอบรมสั่งสอนแม้แต่น้อย ยังมั่วอยู่กับพวกนักเลงอีก อนาคตจะช้าหรือเร็วก็ต้องติดคุก ไหนพูดมา วันนี้เรื่องนี้จะจัดการอย่างไร หากไม่ให้คำตอบที่น่าพอใจ ฉันก็จะส่งลูกคุณเข้าคุกแน่นอน จะพูดกับคุณตรงๆ  ลุงของเขาเป็นผู้นำของกองสันติบาลเทียนตู เพื่อลูกของคุณ แค่คำเดียว หากไม่ใช่เพราะลูกฉันมีจิตใจที่ดี วันนี้ฉันก็คงจะไม่มาแล้ว!

       คำพูดนี้พูดกับพ่อของหวางหยาง

       ตอนที่แม่ของกู้ไค่พูด ผู้ชายที่เอาแต่ประจบประแจงก็พยักหน้าโค้งตัวขอโทษอยู่ตลอด เมื่อฟังอีกฝ่ายพูดจบแล้ว ก็รีบพูดว่า “ขอโทษจริงๆ ขอโทษจริงๆ คุณจะด่า จะตีก็มาลงกับผมเถอะ ลูกของพวกเราไม่ประสีประสาจริงๆ คุณวางใจ ค่ารักษาพยาบาลผมจะต้องหาทางรวบรวมมาให้คุณให้ครบ ทางผมก็ขอโทษคุณด้วย”

       เมื่อพูดจบ ก็แสดงความเคารพอีกฝ่าย ท่าทางนอบน้อมจริงใจ

       ทำให้สีหน้าพ่อของกู้ไค่ที่อยู่ข้างๆ ดีขึ้นมาบ้าง แต่แม่ของกู้ไค่กลับไม่เลิกรา “แค่พูดขอโทษก็จบแล้วหรือนี่ก็จบแล้วหรือฉันจะบอกคุณให้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้พวกคุณก็คุกเข่าขอโทษลูกชายฉันแล้วก็จ่ายค่าชดเชยมาหนึ่งแสนหยวน ไม่อย่างนั้นฉันก็จะให้คนมาพาตัวลูกชายสารเลวของคุณไปเข้าคุก!

       “นี่

       ท่าทางแม่ของกู้ไค่ทำให้พ่อของหวางหยางมีอาการแข็งทื่อขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี และพูดไม่ออกอยู่นาน

       เรื่องคุกเข่าขอโทษก็ทำให้เขาลำบากใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่ายอมรับไม่ได้ เรื่องสำคัญคือเงินหนึ่งแสนหยวนนี้ก็เรียกสูงเกินไปแล้ว ครอบครัวเขาจ่ายไม่ไหวจริงๆ แต่ก็ไม่อาจจะทนดูลูกชายของตนเองถูกส่งเข้าคุกได้

       “ให้เวลาคุณหนึ่งนาทีลองคิดดู!

       แม่ของกู้ไค่ไม่สนใจอีกฝ่าย แต่เบนสายตาจ้องมาที่จู้ซินซินที่ยืนอยู่ตรงนั้น “อายุยังน้อยไม่รู้จักรักดี หน้าตาอย่างนางจิ้งจอก แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร เด็กผู้หญิงอย่างเธอฉันเห็นมาเยอะแล้ว ฉันจะบอกเธอให้ ต่อไปอยู่ห่างจากกู้ไค่ของเราหน่อย ลูกของเราไม่ใช่ว่าผู้หญิงอย่างเธอจะเข้าใกล้ได้ ครั้งหน้า หากฉันรู้ว่าเธอล่อลวงกู้ไค่ของเราอีก ฉันก็จะหาคนไปฉีกหน้าเธอ ถลกเสื้อผ้าเธอ แล้วก็โยนลงบนถนน”

       แค่ประโยคเดียวก็ทำให้จู้ซินซินสีหน้าแดงก่ำ แต่ก็ไม่รู้ว่าโกรธหรือว่าอาย

       ทางด้านกู้ไค่ก็รีบดึงแม่ของเขา แต่ก็ถูกอีกฝ่ายสะบัดออก กู้ไค่มีอาการโมโหทันที และดึงอีก

       แต่ก็คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะแรงเยอะ “ทำไม ลูกยังคิดจะขวางแม่อีกนางจิ้งจอกตัวนี้ล่อลวงลูกไปขึ้นเตียงแล้วหรือยังลูกชาย คิดไม่ถึงว่าลูกจะดื้อกับแม่เพราะผู้หญิงคนนี้ แม่ว่าผู้หญิงอย่างนี้ไม่ควรจะอยู่ในโรงเรียน น่าจะเป็นน้อยโดยกำเนิด ก็ควรจะไปอยู่ตามท้องถนน

       “คุณลองพูดอีกสักคำสิ วันนี้ผมจะตัดลิ้นคุณ รับประกันว่าต่อไปคุณจะพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว!

       เสียงที่พกพาความโกรธเคืองเสียงหนึ่งดังขึ้น

       คนที่พูดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือเจียงไป๋ เขามาพบครูให้จู้ซินซิน ด้วยความสัมพันธ์ของทั้งสองคน เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ยุ่งไม่ได้ มองดูสาวแก่คนหนึ่งด่าจู้ซินซินสาดเสียเทเสียอย่างนี้

       ถึงแม้ทั้งสองคนจะยังไม่เคยมีอะไรกัน แต่ไม่ว่าจะมองจากเจียงไป๋หรือว่าจู้ซินซิน ต่างก็ยอมรับความสัมพันธ์แบบคนรักของสองคนอย่างเป็นนัยๆ

       ในเมื่อเป็นกิ๊กของเขา เป็นธรรมดาที่เจียงไป๋จะออกหน้าให้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงคนนี้ก็พูดเกินไปจริงๆ

       “นายเป็นใครที่นี่เกี่ยวอะไรกับนาย คิดไม่ถึงว่านายจะพูดอย่างนี้กับฉันนายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”

       เมื่อแม่ของกู้ไค่ได้ยินคำพูดของเจียงไป๋แล้ว ก็หดตัวไปอย่างเห็นได้ชัด เธอมองผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ตนเองแวบหนึ่ง แล้วก็กลับมามั่นใจดังเดิม เธอยืนเท้าเอวอยู่ตรงนั้น มือทั้งคู่วางไว้ที่ส่วนเอวอ้วนๆ ของตัวเอง และพูดอย่างโมโห

       “ผมเป็นอาของจู้ซินซิน คุณพูดอย่างนี้กับหลานสาวผม แน่นอนว่าเกี่ยวข้องกับผม สำหรับว่าผมเป็นใครนั้น ขอโทษด้วย ผมไม่สนใจแม้แต่น้อย พูดตรงๆ ลูกชายคุณก็ถือว่าไม่ใช่คนดีอะไร สำหรับคุณก็ยิ่งไม่ใช่คนดีอะไร เดิมทียังแปลกใจอยู่บ้างว่า เด็กสมัยนี้มันอย่างไรกัน อายุยังน้อยไม่รู้จักรักดี แต่พอเห็นคุณผมก็เพิ่งรู้ว่า มีแม่อย่างคุณ อย่างไรลูกชายคุณก็เรียนรู้อะไรดีๆ ไม่ได้ ไปให้พ้น อย่าให้ผมเห็นหน้าคุณอีก ไม่อย่างนั้นอย่าว่าผมไม่เกรงใจ”

       เจียงไป๋ตอบกลับอย่างเยือกเย็น สำหรับผู้หญิงปากร้ายอย่างนี้ เขาไม่รู้สึกดีแม้แต่น้อย

 

Author Glory Forever