มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 2 ตอนที่ 44 ศัตรู

        พวกนางเป็นองค์หญิงที่นานๆ ครั้งจะออกจากวัง แต่เพราะมีการประลองสกุลจี้ พวกนางจึงได้รับพระราชทานอนุญาตให้ออกจากวังในช่วงที่มีงานประลองได้

        ดังนั้นองค์หญิงฮุ่ยหลิงจึงได้มาทานอาหารที่นี่กับพี่สาวน้องสาว เมื่อได้ยินว่าจี้เฟิงมาที่นี่เช่นกัน นางก็สั่งให้เสี่ยวเอ้อร์นำทางมาทันที

        มิคาดจะพบฮวาชีเยว่อยู่กับจี้เฟิง เห็นดังนั้นองค์หญิงฮุ่ยหลิงก็แค่นเสียงเย็นพี่จี้ ท่านคิดจะจับกบกับคนโง่งมผู้นี้จริงหรือ? ”

        ใช่ ใช่จี้เฟิงไม่สะทกสะเทือน ตอบกลับไปเพียงสั้นๆ

        จี้จิงมององค์หญิงฮุ่ยหลิงอย่างเย็นชา นางไม่ชอบสตรีผู้นี้แม้แต่น้อย นางทราบว่าสตรีผู้นี้สนใจพี่ชายตน ทว่านางยังคงหวังให้อีกฝ่ายหายไปเสีย

        เทียนซีเห็นองค์หญิงฮุ่ยเจินกับโจวจื่อเฉิงก็กลัวจนทำอะไรไม่ถูก ฮวาชีเยว่จับมือเขาเบาๆ ปลอบให้เทียนซีใจเย็นลง

        แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้ฮวาชีเยว่ตัดสินใจจู่โจมโจวจื่อเฉิงคนสารเลวและองค์หญิงฮุ่ยเจิน!

        เทียนซี ไม่ทักทายบิดาเจ้าหน่อยหรือ?” เห็นใบหน้างดงามของฮวาชีเยว่ ใจของโจวจื่อเฉิงก็หวั่นไหวขึ้นมา เขาคุยกับคนอื่นๆ ก่อนจะยิ้มให้เทียนซีอย่างอ่อนโยน

        ทว่าเทียนซีกลับมองเขาอย่างเฉยชา ก่อนจะถูมือฮวาชีเยว่

        โจวจื่อเฉิงเดือดพล่านขึ้นมา เมื่อก่อนลูกชู้ผู้นี้เรียกเขาท่านพ่ออย่างรักใคร่ ทว่ายามนี้เหมือนจะลืมเขาไปแล้ว

        เรื่องนี้ย่อมไม่แปลก เพราะยามที่เทียนซีถูกทรมาน โจวจื่อเฉิงไม่เคยแม้แต่จะมองเขา

        ท่านคือคุณชายโจวนี่เอง ยินดีที่ได้พบเจ้าค่ะ! เทียนซีทำของหายเลยอารมณ์ไม่ดี ต้องขออภัยคุณชายโจวแทนเขาแล้ว

        ฮวาชีเยว่ยิ้ม ตอบกลับไปอย่างสุภาพ

        องค์หญิงฮุ่ยหลิงและคนอื่นๆ มองฮวาชีเยว่อย่างตกตะลึง เห็นสตรีคนเดียวกับเมื่อวาน พวกนางรู้สึกราวกับตนเสียสติไปแล้ว

        เหตุใดยามนี้อีกฝ่ายจึงพูดจารู้เรื่องได้เล่า?

        ทุกคน นั่งลง นั่งลงเถอะ! ที่นี่มีที่มากพอเจ้าค่ะ! ขอโต๊ะเพิ่มอีกตัวหนึ่งด้วย!ฮวาชีเยว่ยิ้ม นางคาดหวังงิ้วดีๆ ของคืนนี้แล้ว

        จี้จิงเองก็ไม่ชอบคนกลุ่มนี้เช่นกัน ทว่าด้วยมารยาททำให้ไม่อาจพูดอะไรได้มากนัก

        ไม่จำเป็น โต๊ะนี้กว้างนัก เพียงขอเก้าอี้เพิ่มสักหน่อยก็ได้แล้วโจวจื่อเฉิงยิ้ม องค์หญิงฮุ่ยเจินจ้องมองเขา สีหน้าเริ่มปรากฏความไม่พอใจทว่ากลับมิได้กล่าวอะไรออกมา

        องค์หญิงฮุ่ยหลิงเองก็ต้องการสนทนากับจี้เฟิง ดังนั้นนางจึงผลักฮวาชีเยว่ออกไปนี่ ลุกขึ้น ยกที่นั่งเจ้าให้องค์หญิงผู้นี้ ที่นั่งนี้ควรเป็นของข้า!

        จี้จิงฟังแล้วก็ให้โมโหนัก ทว่าฮวาชีเยว่กลับปลอบใจนาง ลุกขึ้นอย่างใจกว้างเชิญเพคะ ขออภัยเพคะองค์หญิง

        ฮวาชีเยว่ลุกขึ้นโดยมีเทียนซีจับมือนางเอาไว้แน่น โชคดีที่บริกรนำเก้าอี้เข้ามา ฮวาชีเยว่จึงรีบนั่งลงข้างจี้จิง

        นางถูกองค์หญิงฮุ่ยหลิงนั่งคั่นจากจี้เฟิงเอาไว้

        ทุกคนนั่งลง แม้จะคนแน่นไปบ้างทว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร บริกรนำตะเกียบและถ้วยมาเพิ่มก่อนจะถอนใจอย่างโล่งอก

        ให้ตายเถิด อยู่ๆ แขกชั้นสูงเหล่านี้ก็โผล่ออกมาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัวเกือบตายแล้ว ทว่าก็ยังทำให้ยินดีนัก

        พี่จี้ อาหารจานนี้เรียกว่าปลาบุปผาอำพัน รสชาติอร่อยยิ่งนัก ท่านทานเยอะๆ!องค์หญิงฮุ่ยหลิงคีบชิ้นปลาใส่ลงในถ้วยของจี้เฟิงอย่างตั้งอกตั้งใจ

        สีหน้าจี้เฟิงพลันมืดครึ้มขึ้นมา เขาไม่ชอบองค์หญิงฮุ่ยหลิง ทว่าหากปฏิเสธออกไปจะเสียมารยาทเอาได้

        ขอบพระทัยองค์หญิงจี้เฟิงหัวเราะอย่างสุภาพท่านเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ย่อมมิควรกระทำเช่นนี้ให้คนต่ำต้อยเช่นกระหม่อม เกรงว่าเช่นนี้จะไม่สมฐานะของพระองค์นัก

        จี้เฟิงมิได้กล่าวออกไปโดยตรงทว่าทุกคนกลับเข้าใจความหมาย ทว่าองค์หญิงฮุ่ยหลิงกลับคิดว่าเขาเพียงสุภาพเท่านั้นไม่ต้องกังวลไป ในสายตาองค์หญิงผู้นี้ ทั้งสามัญชนและราชวงศ์ล้วนแต่เป็นมนุษย์ด้วยกันทั้งสิ้น! สถานะของท่านและข้าย่อมไม่แตกต่าง

        องค์หญิงฮุ่ยเจินได้ยินเข้าก็แค่นหัวเราะจะเป็นไปได้อย่างไร หากน้องหญิงคิดเช่นนั้นจริง เหตุใดมิให้เสด็จพ่อถอดยศเจ้าเป็นสามัญชนเสียเล่า?”

        องค์หญิงฮุ่ยหลิงเพียงแต่กล่าวเพื่อเอาใจจี้เฟิงเท่านั้น มิคาดว่าฮุ่ยเจินจะเอ่ยยอกย้อน จึงได้แต่มองพี่หญิงของตนอย่างไม่พอใจหม่อมฉันไม่ได้คุยกับพี่หญิงเพคะ!

        องค์หญิงฮุ่ยหลิงถูกตามใจตั้งแต่เด็ก องค์หญิงฮุ่ยเจินเองก็มากเล่ห์เอาแต่ใจ ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็มีเหตุให้ปะทะกันอยู่เสมอ

        ยามนี้พวกนางต่างฝ่ายต่างไม่สนใจกันและกัน จ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่พอใจ

        โจวจื่อเฉิงกระแอมเบาๆ คีบไก่ชิ้นหนึ่งใส่ในถ้วยขององค์หญิงฮุ่ยเจินองค์หญิงอย่าได้ทรงพิโรธไปเลย เช่นนี้จะทำร้ายสุขภาพเอาได้

        ฮุ่ยเจินแค่นเสียง แต่แรกนางก็ไม่ถูกกับองค์หญิงฮุ่ยหลิงผู้นี้ เห็นอีกฝ่ายนั่งกับจี้เฟิงก็ให้ทั้งพิโรธทั้งเกลียดชัง ทั้งริษยา อย่างไรสกุลจี้ก็เป็นตระกูลใหญ่ มีสถานะไม่ต่ำต้อยไปกว่าท่านอ๋องทั้งหลายเลย

        ยิ่งกว่านั้นจี้เฟิงยังหล่อเหลาเป็นอย่างยิ่ง เทียบกันแล้วทำให้โจวจื่อเฉิงที่ดูทั้งแก่ทั้งน่าเกลียด แม้โจวจื่อเฉิงยังคงหล่อเหลา ทว่าดูไม่น่าประทับใจนักเมื่อเทียบกับจี้เฟิงและอวิ๋นสือโม่

        ดังนั้นองค์หญิงฮุ่ยเจินจึงได้แสดงอาการไม่พอใจแม้รายล้อมด้วยคนภายนอก

        องค์หญิงฮุ่ยหลิงกลอกตา สังเกตองค์หญิงฮุ่ยเจินและโจวจื่อเฉิง

        เทียนซีมือสั่น ฮวาชีเยว่ที่เห็นสถานการณ์ชัดเจนจึงลูบหลังเด็กน้อยเบาๆ กระซิบปลอบเขาบุรุษที่แท้จริงต้องใจเย็นแม้เผชิญภยันตราย เทียนซี กล้าหาญเข้าไว้

        เทียนซีมองฮวาชีเยว่อย่างตกตะลึง รู้สึกราวกับความคิดตนถูกมารดาคนใหม่ผู้นี้มองเห็นทะลุปรุโปร่ง ในขณะเดียวกันสายตามุ่งมั่นของฮวาชีเยว่ก็ทำให้เขารู้สึกมั่นใจมากขึ้น

        แต่แรกโจวจื่อเฉิงก็ไม่ใส่ใจเทียนซี ยามนี้มิได้ใกล้ชิดกันแล้ว เขาย่อมไม่สนใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

        ในสายตาผู้อื่น เขาให้ฮวาชีเยว่รับเลี้ยงเทียนซีไปแล้ว หากยังคงดีต่อลูกชายผู้นี้ นี่จึงจะผิดปกติ

        อวิ๋นสือโม่และจี้เฟิงมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างขยับตะเกียบทานอาหารโดยไม่ปริปาก

        ทันในนั้นบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็ดูจะเคร่งเครียดขึ้นมา

        ลู่ซินและโหย่วชุ่ยยืนอยู่ด้านข้างอย่างหวาดกลัว องค์หญิงเจ้าอารมณ์มาที่นี่อีกแล้ว คราวนี้นายหญิงของพวกนางจะหลบหลีกเรื่องวุ่นวายอย่างไรเล่า?

        จุ๊ๆ พี่หญิง ท่านยังไม่ทันแต่งกับคุณชายโจวก็แสดงความใกล้ชิดเปิดเผยเพียงนี้แล้ว ช่างเสียเกียรติราชวงศ์นัก! พิศไปแล้ว ท่านสมควรถูกถอดยศไปเป็นสามัญชนเสีย!

        องค์หญิงฮุ่ยหลิงแค่นเสียงเย้ย จ้องมองโจวจื่อเฉิง

        โจวจื่อเฉิงกำลังคีบก้างปลาจากปลานึ่งให้องค์หญิงฮุ่ยเจิน ปลาที่ร้านนี้ล้วนแต่นึ่งทั้งตัวเพื่อรักษารสชาติสดใหม่เอาไว้

        เมื่อถูกองค์หญิงฮุ่ยหลิงตำหนิเช่นนี้ก็มิทราบว่าควรจะทำต่อหรือควรหยุดมือดี

        องค์หญิงฮุ่ยหยาและคนอื่นๆ มองงิ้วเบื้องหน้าอย่างเงียบงัน เกรงจะทำให้องค์หญิงฮุ่ยหลิงที่อารมณ์ร้อนผู้นี้ไม่พอใจเอาได้

        องค์หญิงฮุ่ยเจินถูกจี้จุดอ่อน โจวจื่อเฉิงรักนางมากเท่าที่เขารักตนเอง มักจะเอาอกเอาใจ คอยดูแลนางตลอด เขามักสั่งพ่อครัวให้ทำอาหารชั้นยอดที่นางชื่นชอบ แต่งกวีให้นาง เป็นสิ่งที่มีเพียงโจวจื่อเฉิงเท่านั้นจึงจะทำ

        บุรุษผู้อื่นไม่เคยดูแลนางถึงเพียงนี้ องค์หญิงฮุ่ยเจินจึงได้ยืนกรานจะแต่งกับโจวจื่อเฉิง ทว่าฮ่องเต้กลับไม่เห็นด้วย จึงได้ลากยาวมาจนตอนนี้

        ยามนี้นางอายุยี่สิบปีแล้วยังไม่แต่งงาน ทำให้สถานการณ์กระอักกระอ่วนนัก

        ยามนี้องค์หญิงฮุ่ยหลิงเปิดโปงทั้งยังเย้ยหยันนางต่อหน้าทุกคน ย่อมทำให้นางอดโมโหขึ้นมาไม่ได้

        ฮุ่ยหลิง เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

        องค์หญิงฮุ่ยเจินตบโต๊ะดังปัง ทำให้ท่านหญิงหมิงจูที่อยู่ข้างๆ ตกใจกลัว องค์หญิงฮุ่ยหยาก้มหน้า ฝ่ามือมีเหงื่อไหลซึม แต่ฮวาชีเยว่และคนอื่นๆ กลับยังคงใจเย็น

        โจวจื่อเฉิงเริ่มวิตกขึ้นมาองค์หญิง ล้วนเป็นความผิดกระหม่อม กระหม่อมรักท่านมากเกินไป ทำให้ผู้อื่นเข้าใจท่านผิดไปแล้ว!

        โจวจื่อเฉิงรีบวางตะเกียบลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ฮวาชีเยว่เย้ยหยันอยู่ในใจ

        ดูเหมือนสารเลวพวกนี้ก็มีเวลาที่ลำบากเช่นกัน

        องค์หญิงฮุ่ยเจินกลับยิ่งเกรี้ยวกราดมากขึ้น นางชี้ไปที่องค์หญิงฮุ่ยหลิงแล้วเหยียดหยันเจ้าดีกว่าข้าอย่างไรหรือ? บุรุษทุกคนที่เจ้าชอบต่างก็หวาดกลัวเจ้ามิใช่หรือ? ล้วนแต่เกรงว่าแต่งเข้าไปแล้วเจ้าจะเป็นพระพุทธรูปมีชีวิตในบ้าน ทำพวกเขาเดือดร้อน!

        ฮุ่ยหลิงโมโหเดือดขึ้นมาทั้งที่ผู้อื่นยังคงเงียบ สำหรับผู้อื่นแล้วการทะเลาะเบาะแว้งของสององค์หญิงล้วนมิใช่กิจธุระ จึงตั้งใจจะไม่ข้องเกี่ยวด้วย

        พี่หญิงหมายความว่าอย่างไร? ทำพวกเขาเดือดร้อนหรือ?” องค์หญิงฮุ่ยหลิงโมโหจนแทบคลั่ง สองพี่น้องต่างฝ่ายต่างเสียดสีกันไปมาอย่างดุเดือด!

        โจวจื่อเฉิงและคนอื่นๆ หน้าซีดอย่างหวาดกลัว เว้นแต่โจวจื่อเฉิงที่ดึงแขนเสื้อองค์หญิงฮุ่ยเจินเอาไว้ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามอีก แต่องค์หญิงกลับกระชากแขนเสื้อออกจากมือเข้าแล้วเอ่ยทำร้ายอย่างไรหรือ? เจ้าทั้งขี้หงุดหงิดทั้งเอาแต่ใจ นิสัยหยิ่งผยองทั้งยังโหดร้ายเช่นนี้ใครจะยอมรับเจ้าเป็นภรรยากัน? ”

        แม่ผัวลูกสะใภ้ทะเลาะกันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานนับศตวรรษ กระทั่งยามองค์หญิงแต่งออกไป การต่อสู้เช่นนี้ก็มิได้ผิดแผก เนื่องเพราะองค์หญิงล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่หยิ่งผยอง แม่สามีเองก็ไม่ต้องการอดทนกับความผยองนั้น โดยเฉพาะเมื่อคนเป็นนายหญิงของบ้านมานานปี จะยอมทนคนหนุ่มสาวคนหนึ่งมาแย่งอำนาจไปได้อย่างไร

        ในอาณาจักรฉางจิงนี้มีผู้คนมากมายที่เสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะมีปัญหากับแม่สามี ท้ายสุดกระทั่งองค์หญิงมากมายก็ยังเคยถูกถอดฐานะด้วยทำให้ฮ่องเต้ทรงพิโรธขึ้นมา

        พี่หญิง ไม่ว่าใครหากแต่งกับท่านล้วนก็ต้องเสียใจทั้งนั้น! ท่านมิได้โหดร้ายไร้หัวใจหรือ? ฮึ่ม มีข่าวลือว่าเด็กน้อยตรงนั้นถูกสาวใช้คนหนึ่งทรมาน เหอะ! หม่อมฉันว่าท่านนั่นแหละคือผู้อยู่เบื้องหลัง ฮึ่ม เป็นถึงองค์หญิงทว่ากลับโหดร้ายกระทั่งวางยาเด็กคนหนึ่ง! ท่านไม่คู่ควรกับการเป็นองค์หญิง!

        องค์หญิงฮุ่ยหลิงเองก็ผุดลุกขึ้นมาเช่นกัน ไม่กระทั่งว่ามีบุรุษที่นางชื่นชมอยู่เบื้องหน้า

        ความโมโหเข้าควบคุมร่างกาย นางกำนัลข้างกายพยายามรั้งตัวนางเอาไว้องค์หญิง! ระวังคำพูดด้วยเพคะ! เช่นนี้…

        ออกไป!

        ไสหัวไป!

        สาวใช้ทั้งสองต่างก็ถูกสององค์หญิงตวาดใส่จนหลบไปอยู่อีกด้าน องค์หญิงฮุ่ยเจินไม่ยอมแพ้ นางกรีดเสียงแล้วองค์หญิงฮุ่ยหลิงใจดีใจกว้างหรือ? ฮ่าๆ ข้ายังเคยเห็นเจ้ากรีดหน้านางกำนัล ผลักนางลงน้ำเดือดให้ถูกต้มทั้งเป็นกับตา ใครกันแน่ที่โหดร้าย?”

        ต่างฝ่ายต่างขุดเอาความลับดำมืดของกันและกันออกมา ล้วนแต่ทำให้ผู้อื่นตกตะลึงว่ามีองค์หญิงที่ทำเรื่องร้ายกาจถึงเพียงนี้!

Author Jinovel