มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 4 บทที่ 97 ไข่สัตว์เลี้ยงระดับ SS

        ไข่สัตว์เลี้ยงระดับ C ก็คือ นกกระจาบฝน ที่ไม่มีทักษะในด้านการโจมตี แต่เสียงของมันสามารถสะกดจิตได้ ซึ่งช่วงเสริมเสียงพิณของหนานกงเสี่ยว โดยการรวมของทั้งสองสิ่งจะเพิ่มพลังขึ้นได้ราว 50% ถึงแม้ว่าจะเป็นระดับ C แต่สามารถใช้งานได้มากเมื่ออยู่กับหนานกงเสี่ยว มากกว่าสัตว์เลี้ยงระดับ B หรือระดับ A เสียอีก ดังนั้นไข่สัตว์เลี้ยงนี้ก็เลยตกเป็นของหนานกงเสี่ยว

        วันต่อมาฉินโจ้วได้รับข้อความจากกิลด์ต้นไม้ทงเทียน ตระกูลหยก และกิลด์ราชวงศ์มดจากคนนำสาร ถึงแม้ว่าเป็นเพียงคนนำสาร แต่พวกเขาทั้งหมดก็อยู่ในระดับรองหัวหน้ากิลด์ นี่แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ฉินโจ้วนั้นยังไม่ได้จัดตั้งกิลด์ แต่ในสายตาของคนเหล่านี้ ฉินโจ้วก็มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับระดับหัวหน้ากิลด์ ทำให้ทุกคนจึงไม่กล้าละเลย

        รายการสินค้าที่ทั้งสามสั่งซื้อใกล้เคียงกับของสมาคมโลก แต่ราคาที่จ่ายนั้นแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยกิลด์ต้นไม้ทงเทียนนั้นจ่าย 900,000 เหรียญทอง กับสูตรลับในการปรุงอาหารสมุนไพรเพื่อสุขภาพหนึ่งแผ่น ซึ่งสูตรนี้มีค่ายิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมอาหาร มูลค่าของมันมากกว่า 150,000 เหรียญทอง ตามที่มีคนปรับปรุงเงื่อนไขของวัตถุดิบ เพื่อให้สุขภาพดี ผู้คนเริ่มให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาหารที่เป็นยาก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้สุขภาพมีส่วนดีขึ้นด้วย ก่อนจะกลายเป็นสิ่งที่แพร่หลายในเวลาต่อมา เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว คงจะกล่าวได้ว่า อาหารเพื่อสุขภาพนั้นได้รับความนิยมมาโดยตลอด เพียงแต่ก่อนหน้านี้ต้องเป็นคนที่มีสถานะพิเศษเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ลิ้มลอง ซึ่งไม่กี่ปีมานี้ได้ออกมาสู่สายตาของคนทั่วไป แต่ทว่านี่เป็นเพียงคุณสมบัติข้อหนึ่ง ที่โดยปกติแล้วจะมีราคาแพงมาก ถึงแม้บางครั้งต่อให้ร่ำรวยเงินทองก็ไม่สามารถหารับประทานได้

        กิลด์ต้นไม้ทงเทียนถึงกับนำสูตรปรุงอาหารสุขภาพที่เปรียบได้กับแหล่งเงินทุนนี้ออกมา

        กิลด์ราชวงศ์มดที่ซ้ำเติมเมื่อครั้งที่การเงินของธนาคารฉินหวังนั้นเข้าขั้นวิกฤติ ถูกฉินโจ้วรีดไถเหรียญทอง 1.1 ล้านเหรียญทอง ผลึกเวทระดับต่ำอีก 1,500 ชิ้น และลายแทงสมบัติครึ่งแผ่น

        เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันซ่อนอะไรไว้ ไม่รู้แม้แต่อายุของมัน ซึ่งได้รับมาจากสถานที่ลับเมื่อตอนที่กิลด์ราชวงศ์มดนั้นไปทำภารกิจ โดยที่ลายแทงขุมทรัพย์นี้ถูกเขียนไว้บนกระดาษครึ่งส่วน และก็ไม่ใช่กระดาษธรรมดาทั่วไป แต่เป็นกระดาษทองคำ ของมีคมไม่สามารถทำอันตรายได้ ไม่เปียกน้ำ และเผาไฟไม่ไหม้อีกด้วย ซึ่งเป็นเพียงชิ้นส่วนเดียวจากทั้งหมด ฉินโจ้วมองดูแผนที่ที่เขาเพิ่งจะได้รับมา ราคาของมันก็ไม่ใช่น้อย ตั้ง 5,000 เหรียญทอง

        มีเพียงตระกูลหยกเท่านั้นที่ฉินโจ้วคิดราคาตามปกติ อยู่ที่ 950,000 เหรียญทอง ไม่ขาดไม่เกินแม้แต่เหรียญเดียว ตัวแทนของตระกูลหยกนั้นเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง มีชื่อว่า เหลียงฮุยโจวเป็นผู้สืบทอดรุ่นถัดมาของตระกูลหยก ราวกับต้นไม้หยกต้นใหญ่ต้องแรงลม เป็นบุคคลที่มีความสามารถ อีกทั้งยังฉลาดเฉลียว คารมคมคายเป็นเลิศ เพียงคำพูดไม่กี่คำก็ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกประทับใจ ทำให้ฉินโจ้วไม่คิดที่จะเอาเปรียบในเรื่องราคา เมื่อเหลียงฮุยโจวกลับไปแล้ว ฉินโจ้วเพิ่งมาคิดได้ว่า เขาคิดราคาที่ยุติธรรมมากเกินไปเสียแล้ว

        เหลียงฮุยโจวเพิ่งจะออกไป ยามเฝ้าประตูก็เข้ามารายงานว่า  ไท่ซ่งเล่าจุนจากกิลด์สวรรค์มาขอเข้าพบ ฉินโจ้วนั้นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งสัญญาณให้นำเขาเข้ามา อันที่จริงแล้วก่อนหน้านี้กิลด์สวรรค์ก็เคยส่งคนมาแล้ว ซึ่งก็คือเจ้าของกิลด์ พูดจาด้วยน้ำเสียงก้าวร้าว ทำท่าทางสูงส่ง ราวกับที่เขามาหานั้นเป็นเกียรติกับฉินโจ้ว มากแล้ว ปกติแล้วการทำธุรกิจคนที่มีอำนาจสูงสุดนั่นก็คือ ผู้ซื้อ ซึ่งที่เขาทำนั้นไม่มีเหตุผลที่ต้องตำหนิ เพียงแต่ว่าที่นี่ฉินโจ้วเป็นคนคุม เขาเองก็มีกฎของเขา  ดังนั้นแล้วเขาจึงพูดเพียงสั้นๆ ทันทีที่ฉินโจ้วพูดจบ ก็มีคนปรากฏตัวขึ้นก่อนที่จะจับเขาโยนออกไป

        เดิมทีเขาเองก็ไม่ได้รู้สึกดีกับกิลด์สวรรค์อยู่แล้ว แล้วยังมามีความแค้นระหว่างกันอีก เพียงแต่ว่าเจ้าของกิลด์นั้นยังไม่รู้ถึงเรื่องนี้ ถ้าไม่ติดว่าทั้งสองฝ่ายกำลังจะทำสงครามป้องกันเมือง เขาคงจะจัดการกับคนส่งสารไปแล้ว ฉินโจ้วจึงทำได้แค่โยนเขาออกไป

        ไท่ซ่งเล่าจุนนั้นอารมณ์ดีมาก คิ้วเรียวยาว มองดูท่าทางใจดี ก่อนจะเอ่ยปากยกย่องว่า เคยได้ยินชื่อเสียงของคุณฉินหวังว่าเป็นคลื่นลูกใหม่ที่โดดเด่น เป็นผู้เล่นที่ถูกยกย่องเป็นตัวอย่าง ชื่อเสียงโด่งดังขจรขจาย วันนี้มีโอกาสได้พบเห็น เป็นไปอย่างที่คิด ท่าทางภูมิฐาน เหมือนนกไฟอยู่ท่ามกลางฝูงชน รอที่จะได้พบมานานแล้ว

        ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร แค้นก็ส่วนแค้น ธุรกิจก็ส่วนธุรกิจ ตราบใดที่ไม่ใช่แค้นฝังลึก ฉินโจ้วสามารถมองข้ามไปได้ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย

        เชิญนั่ง”

        ไท่ซ่งเล่าจุนก้าวเดินอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ และพูดว่า ก่อนหน้านี้ คุณฉินหวังกับกิลด์สวรรค์อาจมีเรื่องที่เข้าใจผิดกันเกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นผมเองก็รู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อย ความขัดแย้งนั้นถ้าไม่แก้ไขก็คงไม่เหมาะ โชคดีที่มันได้ผ่านไปแล้ว ทำให้วันนี้เราสามารถนั่งรวมกลุ่มกันได้อีกครั้ง จะได้เริ่มต้นกันใหม่ด้วยดี ผมคิดว่าเราควรมองไปข้างหน้า กิลด์ใหญ่ๆ นั้นมีอยู่มากมาย การเผชิญหน้ากันจึงเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยาก คนสร้างปัญหาอยู่เพียงเล็กน้อย หวังว่าคุณฉินหวังจะใจกว้างไม่ถือสาหาความ

        เข้าเรื่องธุรกิจของเราดีกว่า” ฉินโจ้วตัดบทเปลี่ยนเข้าเรื่องทันที มันเป็นเรื่องที่ดีที่ได้ฟังจากไท่ซ่งเล่าจุน แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่มีความจริงใจแม้แต่น้อย ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการตัดสินใจจากคนระดับสูง นี่ก็เป็นเพียงการทำตามสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจไว้ หรือพูดได้ว่า เรื่องนี้คงหลอกได้แต่เด็กน้อยเท่านั้น

        ไท่ซ่งเล่าจุนยิ้ม ในขณะที่พยายามทำให้ฉินโจ้วลืมเรื่องไม่พอใจก่อนหน้านี้ มันคงไม่สามารถแก้ไขด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนใจก่อนจะพูดขึ้นว่า “อดีตผู้นำคนก่อนที่มาที่นี่ เฉินเฟิงอาจมีคำพูดที่ฟังดูไม่ดี ถ้ามีเรื่องอะไรผิดพลาดไป ผมต้องขอโทษแทนเขาด้วย หวังว่าคุณฉินหวังเป็นคนใจกว้าง จะไม่สนใจคิดเล็กคิดน้อย”

        ถ้ามาเพื่อพูดเรื่องแค่นี้ เชิญท่านผู้อาวุโสกลับไปเถิด ผมไม่ได้ติดใจอะไร” ฉินโจ้วโบกมือบอกราวกับไม่เป็นไร อย่างที่เคยพูดไป คุณเองเป็นคนที่ประเมินตนเองสูงเกินไป

        ไท่ซ่งเล่าจุนไม่โกรธแม้แต่น้อย ก่อนจะยิ้มและกล่าวว่า “ผมต้องขอโทษแทนท่านเฉินเฟิง และจุดประสงค์สำหรับการมาพบครั้งนี้ก็คือ ต้องการซื้ออาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ ผมมาในฐานะลูกค้า หวังว่าคุณฉินหวังจะคิดราคาอย่างยุติธรรม นี่คือรายการสินค้า รบกวนตรวจดู”

        ไม่มีปัญหา” ฉินโจ้วเหลือบตามองไปที่รายการสินค้าก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ ดูคล้ายกับรายการของกิลด์สมาคมโลก ดูแล้วความยากลำบากในสงครามป้องกันเมืองคงจะไม่ต่างกัน เมื่อมีกิลด์วังเทพแห่งตะวันเปรียบเทียบ อาวุธและอุปกรณ์ที่ซื้อนั้นค่อนข้างเหมือนกัน ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เมื่อคำนวณราคาคร่าวๆ ในใจแล้ว อยู่ที่ประมาณ 980,000 เหรียญทอง

        เรามีอุปกรณ์ตามที่ขอ ราคาไม่แพง อยู่ที่ 1.35 ล้านเหรียญทอง” ฉินโจ้วพูดตรงๆ

        ไท่ซ่งเล่าจุนรู้สึกตกใจกับตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้น คิดว่าเขาจะเป็นสุภาพบุรุษ เวลานี้สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะพูดด้วยเสียงอันดังว่า “คุณฉินหวัง ราคานี้มันไม่สูงไปหน่อยหรือ? ผมรู้ว่ากิลด์สวรรค์กับคุณเคยมีเรื่องในอดีตกันมาก่อน แต่ธุรกิจก็ส่วนธุรกิจ เรื่องในอดีตก็ส่วนเรื่องในอดีต คุณไม่น่าเอามารวมกัน รายการสินค้าถ้าดูจากราคาตลาดก็ไม่น่าจะถึงหนึ่งล้านเหรียญทอง งบประมาณที่ทางเรามี ทุกเหรียญได้อยู่ในบัญชีนี้หมดแล้ว 1.35 ล้านเหรียญทอง ที่คุณเรียกเป็นราคาที่สูงมากเกินไป

        ฉินโจ้วไม่ได้โกรธแต่อย่างใด เขายิ้มและพูดว่า “นี่เป็นราคาของ ถ้าคุณคิดว่าไม่พอใจ คุณก็สามารถหาซื้อได้จากตลาดเองก็ได้” ผมพูดชัดเจนแล้ว ถ้าคิดว่าผมเอาเปรียบคุณ แล้วมันเป็นอย่างไรล่ะ ถ้าคุณไม่ยินยอม คุณก็สามารถเดินจากไปได้เลย ว่าแต่คุณกล้าที่จะออกไปหรือเปล่า? ดูท่าว่าน่าจะไม่ ถ้าไม่มีอาวุธและอุปกรณ์พวกนี้ ก็คงยากที่จะป้องกันเมืองได้สำเร็จ และถ้าป้องกันเมืองล้มเหลว ความสูญเสียก็จะยิ่งมากขึ้นไปอีก จำนวนอาวุธและอุปกรณ์พวกนี้มากเกินไปที่จะหาซื้อได้ในตลาด อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในเวลาอันสั้นแบบนี้

        สงครามการป้องกันเมืองเป็นภารกิจของผู้เล่นทุกคนในเขตเหยียนหวง ถ้าภารกิจล้มเหลว คุณฉินหวังเองก็ต้องถูกลงโทษ ไม่เพียงตนเองต้องเสียประโยชน์ แต่เป็นการทำร้ายผู้อื่นไปด้วย ไม่คิดเลยว่าคุณฉินหวังจะเป็นคนแบบนี้ ช่างมีวิสัยทัศน์ที่แคบเสียจริง” ไท่ซ่งเล่าจุนกล่าว

        ผมไม่สนใจ” รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉินโจ้วด้วยความภาคภูมิใจ ซึ่งทำให้ไท่ซ่งเล่าจุนถึงกับโกรธจนแทบจะตะบันหน้าเข้าให้

        ถ้าภารกิจล้มเหลว ไม่เพียงแต่คุณฉินหวังจะต้องถูกลงโทษคนเดียว แต่ผู้เล่นทั่วทั้งเขตเหยียนหวงก็จะต้องถูกระบบลงโทษด้วย เมื่อเวลานั้นมาถึง คุณฉินหวังคิดว่าพวกเขาเหล่านั้นจะคิดเห็นอย่างไร? ภายในใจของไท่ซ่งเล่าจุนเกิดความกังวลขึ้น และคำพูดของเขานั้นก็ไม่ได้ชี้ชัด แต่ถ้าภารกิจล้มเหลวเพราะฉินโจ้วปฏิเสธที่จะขายอาวุธให้กับกิลด์สวรรค์ ฉินโจ้ว ก็คงยากที่จะหลีกเลี่ยงคำครหาจากมวลชนไปได้ ยิ่งถ้าผู้เล่นนั้นถูกลงโทษด้วยแล้ว ถ้าความโกรธเกรี้ยวนั้นมาลงที่คนเพียงคนเดียว ฉินโจ้วก็คงยากที่จะอยู่ได้ต่อไปในเกม และอาจทำให้ฉินหวังกรุ๊ปต้องเผชิญกับวิกฤติอีกด้วย

        นี่เป็นคำพูดที่ออกมาจากใจ

        ฉินโจ้วยิ้มและจ้องมองไปยังไท่ซ่งเล่าจุนด้วยสายตาที่เย็นชา มองดูเขาราวกับว่าจ้องมองคนที่ตายไปแล้ว ทำให้ในใจของไท่ซ่งเล่าจุนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที ทันใดนั้นเองเขาก็รู้สึกได้ว่าตัดสินใจผิดที่คิดไปข่มขู่ฉินโจ้วเข้า เขาเองก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษ หลังจากที่ฆ่าคนแล้วก็ยังสามารถกินข้าวดื่มน้ำได้ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย สีหน้าของฉินโจ้วไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ และยังคงจ้องมองไท่ซ่งเล่าจุนที่กำลังเหงื่อไหลท่วมกาย และพูดว่า “ผมสามารถช่วยป้องกันเมืองได้โดยปราศจากเงื่อนไข แต่ถ้าคุณพูดอย่างนั้น ผู้เล่นคนอื่นเขาจะเข้าใจแบบเดียวกับที่พูดอย่างนั้นหรือ ผมว่าไม่น่าจะใช่ เขาน่าจะคิดว่า กิลด์สวรรค์ไม่มีน้ำยาเสียมากกว่า

        เพียงชั่วขณะไท่ซ่งเล่าจุนก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ก่อนจะรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาทันใด ถ้าฉินโจ้วทำอย่างที่กล่าวมา นี่จะทำให้แรงกดดันของมวลชนนั้นพุ่งตรงมายังกิลด์สวรรค์แทน ไม่มีใครกล้าพูดว่าฉินโจ้วทำผิด แต่ในเวลานั้นกิลด์สวรรค์คงจะต้องเผชิญหน้ากับหายนะอันใหญ่หลวงอย่างแน่นอน

        ส่งแขก” ฉินโจ้วนั้นเกลียดการที่ถูกคนมาข่มขู่เป็นที่สุด ไม่มีอะไรน่าสนใจที่จะต้องพูดคุยอีกต่อไป

        เสียงเย็นชานั้นปลุกให้ไท่ซ่งเล่าจุนตื่นขึ้นจากภวังค์ และเขาก็ต้องตะโกนด้วยเสียงอันดังขึ้นว่า “ผมตกลง 1.35 ล้านเหรียญทอง ผมยอมรับราคาของคุณฉินหวัง”

        ฉินโจ้วยิ้มเยาะก่อนจะจ้องมองดูเขาอย่างกับคนโง่ “นั่นมันเป็นราคาเก่า ตอนนี้ราคาขยับขึ้นไปเป็น 1.5 ล้านเหรียญทองแล้ว ถ้าเกิดว่าขาดไปแม้แต่เหรียญทองแดงเดียว คุณมาทางไหน ก็เชิญกลับไปทางนั้นได้เลย”

        ผม… คุณ… ” ไท่ซ่งเล่าจุนหน้าเปลี่ยนสีเป็นแดงก่ำสลับขาวซีด เขาเองอยากจะแสดงความโกรธออกมาแต่ก็ไม่กล้า ในเวลานี้เขาพบว่ามันเป็นการตัดสินใจผิดที่คิดจะต่อรองกับนักธุรกิจที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็ไม่ควรจะข่มขู่ฉินโจ้ว แต่มันก็สายไปแล้วที่จะแสดงความเสียใจ เมื่อมองดูท่าทีของฉินโจ้วแล้ว คงไม่มีทางที่จะลดราคาได้ต่ำกว่า 1.5 ล้านเหรียญเป็นแน่ ฉินหวังนั้นสามารถยกเลิกธุรกิจครั้งนี้ แต่กิลด์สวรรค์นั้นไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ คงไม่มีทางที่จะประนีประนอมได้อีก

        ไท่ซ่งเล่าจุนไม่เคยรู้สึกท้อใจมากขนาดนี้เลย เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดว่า “ไม่ทราบว่าสามารถใช้สิ่งของแลกเปลี่ยนได้หรือไม่?”

        ฉินโจ้วหลับตาลงก่อนจะพูดว่า “ถ้าเป็นสิ่งของธรรมดาทั่วไปก็ไม่ต้องเอาขึ้นมา”

        ไท่ซ่งเล่าจุนหยิบไข่สัตว์เลี้ยงขึ้นมาหนึ่งใบ ซึ่งแผ่รังสีโบราณแห่งความแข็งแกร่งออกมา แม้แต่หนานกงเสี่ยวที่นั่งอยู่ด้านหลังยังรู้สึกได้ก่อนจะแสดงท่าทีสนใจ ไข่สัตว์เลี้ยงที่ดูไม่โดดเด่นนั้นส่องประกายสีดำออกมาให้เห็น ให้ความรู้สึกว่าด้านในมีบางสิ่งอยู่ มีเส้นเลือดดำอยู่เล็กน้อยบนเปลือกไข่ ลวดลายดูคล้ายบนกระดองเต่า เผยให้เห็นถึงความรู้สึกลึกลับ  ฉินโจ้วมองดูค่าสถานะก่อนจะตกตะลึงกับสิ่งมหัศจรรย์ชิ้นนี้

        เต่าอู : สัตว์เลี้ยงระดับ SS เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างสัตว์เทพ งูบินและ เต่ามังกรมีนิสัยก้าวร้าว เมื่ออยู่ในน้ำจะมีความแข็งแกร่งมากที่สุด พลังป้องกันสูงมาก เมื่อโตแล้วเทียบได้กับสัตว์เทพ เต่าดำเสวียนอู่ทักษะ : นำพาโชคลาภมาให้ ขับไล่สิ่งชั่วร้าย สามารถรับรู้อันตรายที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้ เพิ่มความสามารถในการเอาชีวิตรอด

        คุณฉินหวังคิดว่าราคาไข่สัตว์เลี้ยงนี้เพียงพอกับมูลค่า 300,000 เหรียญทองหรือไม่? เมื่อมองดูท่าทีที่ชื่นชอบของฉินโจ้ว ทำให้ในใจของไท่ซ่งเล่าจุนรู้สึกผ่อนคลายลงได้บ้าง เมื่อพูดถึงสิ่งที่ได้นำเสนอออกไป

        ไข่สัตว์เลี้ยงระดับ S นั้นก็หายากแล้ว ส่วนระดับ SS นั้นยิ่งมีค่ายิ่งกว่า จนถึงตอนนี้ ฉินโจ้วยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงระดับ S หรือสูงกว่าเลย ราคา 300,000 เหรียญทองนั้นถือได้ว่าไม่แพง ถ้านำไปไว้ที่โรงประมูลและมีคนชอบ แต่เวลานี้ไม่ใช่การประมูล

        “200,000 เหรียญทอง”

        เมื่อไท่ซ่งเล่าจุนได้ยินฉินโจ้วเสนอราคามา และไม่ได้ต่อรองแต่อย่างใด มองดูท่าทีของฉินโจ้วแล้ว เขาก็รู้ว่าจะไม่มีการเจรจาต่อรอง และอีกอย่างราคานี้ก็ค่อนข้างยุติธรรม อย่างน้อยก็ไม่ได้ขายที่ราคาต่ำเกินไป ก่อนจะพยักหน้าตกลง หลังจากนั้นก็หยิบไข่สัตว์เลี้ยงขึ้นมาอีกใบ มันมีสีดำ หรือจะพูดว่าดำเหมือนหมึกก็ว่าได้ ซึ่งมีรังสีที่แข็งแกร่งแผ่ออกมาไม่น้อยกว่าเต่าอูเลย ทำให้ฉินโจ้วถึงกับอึ้งไปอีกครั้ง ไข่สัตว์เลี้ยงระดับ SS อีกใบหรือนี่

        หมึกร้อยหนวด : สัตว์เลี้ยงระดับ SS เป็นประเภทเดียวกับปลาหมึกยักษ์ มีแขนขาเป็นจำนวนมาก สามารถพ่นหมึกดำออกมาได้ ซึ่งเต็มไปด้วยพิษที่ทำให้ถึงตายได้ ปลาหมึกทั่วไปนั้นจะมี 8 หนวด แต่หมึกร้อยหนวดนี้ตราบใดที่ยังมีพลังงานเพียงพอจะสามารถงอกหนวดออกมาได้ไม่จำกัดจำนวน ปกติแล้วปลาหมึกที่มีพิษก็จะมีแค่หมึกสายวงน้ำเงิน แต่พิษของหมึกร้อยหนวดนี้รุนแรงมากกว่าหมึกสายวงน้ำเงินถึง 100 เท่า

        ฉินโจ้วถึงกับตาโต วันนี้เขาได้เห็นสัตว์เลี้ยงระดับ SS ถึงสองตัวในเวลาเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มันมา นั่นก็ทำให้เขามีความสุขแล้ว แต่ในเวลานี้ฉินโจ้วไม่จำเป็นต้องกังวลอีกแล้ว

        “200,000 เหรียญทอง” ฉินโจ้วไม่เกรงใจอีกต่อไป พร้อมตะโกนเรียกราคาขึ้นมาก่อน

        เมื่อไท่ซ่งเล่าจุนเห็นดังนั้น ก็หยิบไอเทมชิ้นที่สามออกมา เป็นม้วนคัมภีร์ช่องว่างมิติสำหรับสัตว์เลี้ยง 3 ตัว ฉินโจ้วถึงกับยิ้มออกมา ต้องชื่นชมไท่ซ่งเล่าจุนที่รู้จักวิธีเอาชนะใจคน ในเวลานี้เขาไม่ได้กดราคาและเสนอราคาออกมาอย่างยุติธรรม

        50,000 เหรียญทอง

        โดยทั่วไปแล้วจะมีช่องว่างมิติสำหรับสัตว์เลี้ยงเพียงแค่สองช่อง หนึ่งก็คือ สำหรับสัตว์เลี้ยงที่เป็นพาหนะ อีกตัวไว้สำหรับต่อสู้ ในกรณีนี้ ถ้าต้องการเพิ่มสัตว์เลี้ยงให้มากขึ้น มีเพียงวิธีเดียวนั่นก็คือ ต้องหาม้วนคัมภีร์ช่องว่างมิติสัตว์เลี้ยง ซึ่งมีคุณสมบัติที่น่ามหัศจรรย์มาก โดยจะสามารถเพิ่มช่องว่างมิติสำหรับเก็บสัตว์เลี้ยงได้ เพราะปกติแล้วม้วนคัมภีร์ช่องว่างมิตินั้นมีจำนวนค่อนข้างน้อยมาก คนทั่วไปนั้นหาได้ยากยิ่ง ถ้าเป็นเวลาทั่วไป ราคาจะอยู่ที่ราว 6,000-9,000 เหรียญทอง แต่ฉินโจ้วเสนอให้ถึง 50,000 เหรียญทอง ที่จริงไม่ว่าราคา 10,000-60,000 เหรียญทอง ก็ยังเป็นราคาที่ไม่สูงมากนัก เพราะใครใช้ให้ฉินโจ้วมีไข่สัตว์เลี้ยงสองใบกันล่ะ ราคาช่องว่างมิติสำหรับสัตว์เลี้ยงก็ต้องแพงขึ้นเช่นกัน

        ไท่ซ่งเล่าจุนพอใจกับราคาค่อนข้างมาก และพูดขึ้นว่า “ผมนำผลึกเวทระดับกลางมาด้วย 800 ชิ้น ไม่ทราบว่าคุณจะให้ราคาที่เท่าไร”

        ถ้าเป็นราคาปกติทั่วไปแบบไม่เอาเปรียบคุณ มากที่สุดก็คงราว 45,000 เหรียญทอง แต่อย่างไรก็ตามผมไม่ได้สนใจมากนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้น 50,000 เหรียญทอง” ฉินโจ้วพูดถึงอย่างไม่ใส่ใจ เมื่อเขาได้รับไข่สัตว์เลี้ยงระดับ SS มาสองใบแล้ว ทำให้ในเวลานี้เขามีความสุขเป็นอย่างมาก อีกไม่กี่พันเหรียญทองไม่นับว่าเป็นอะไร

        ไท่ซ่งเล่าจุนรู้สึกโล่งอก เขาไม่กล้าพูดอะไรมากในเวลานี้ หลังจากที่จ่ายหนึ่งล้านเหรียญทองแล้ว เขาก็ให้คนของเขามานำอาวุธและอุปกรณ์ออกไป จำนวนของมันค่อนข้างมากมาย ทำให้รถที่จ้างคนมาขนนั้นถึงกับแน่นเอี้ยด

Author Glory Forever