มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 4 บทที่ 117 ถูกหรือผิด?

  สำหรับตอนนี้แม้ว่าสิ่งมีชีวิตบนเกาะปีศาจในนิวซีแลนด์จะแปลกประหลาด แต่พวกเขาก็มีพลังเพียงแค่ความแข็งแกร่งทางกายภาพเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อรวมกับพลังงานงานพิเศษแล้วพวกมันก็โหดร้ายกว่ามนุษย์ทั่วไปเป็นอย่างมาก แม้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะมีพลังมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นความสามารถที่มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ เช่น หนวด พิษ เส้นใย กรงเล็บ ฟันที่แหลมคม และสรีระร่างกาย มีเพียงส่วนน้อยของพวกมันเท่านั้นที่ได้เปลี่ยนไปจากโครงสร้างพื้นฐานเดิมและมีความสามารถที่พิเศษออกไป

  เช่นม่านตาบุษบาผกผันของไป๋อี้!

  แม้ว่าดูเหมือนม่านตาบุษบาผกผันของไป๋อี้จะดูมีพลังมาก แต่ก็ไม่เกินขอบเขตของการเปลี่ยนแปลงทางชีววิทยา

  แขนเสวียนอู่ของหยูหานก็เหมือนกัน แม้ว่าเขาจะเรียกแขนซ้ายของเขาว่าแขนเสวียนอู่ แต่พูดตามตรง มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสัตว์เทพในตำนานเสวียนอู่แม้แต่น้อย ท้ายที่สุดแล้วจากการวิเคราะห์มันเป็นเพียงแค่การที่หยูหานผสานยีนเข้ากับงูเหลือมทองและเต่าจากนั้นจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปร่างในลักษณะนี้ขึ้นมาโดยบังเอิญเท่านั้น

  อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงในดวงตาของไป๋อี้ แขนซ้ายของหยูหานนั้นแตกต่างกันออกไปเพียงเล็กน้อย

  การสลายสิ่งแปลกปลอม!

  หยูหานได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง การเปลี่ยนแปลงของแขนซ้ายของเขาไม่ชัดเจนเท่าไป๋อี้ แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงทีละเล็กละน้อย การสลายสิ่งแปลกปลอมเป็นความสามารถที่แสดงออกมาจากแขนซ้ายของเขาในตอนนี้

  นี่ไม่ใช่ความสามารถพิเศษ แต่เป็นความสามารถในการควบคุมทางชีวภาพที่มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ตัวอย่างเช่น หลังจากคนธรรมดาถูกยุงกัด สารพิษเล็กน้อยจะทำปฏิกิริยาและอาจเกิดตุ่มตะปุ่มตะป่ำ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ถึงตายอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณถูกสิ่งมีชีวิตอื่นที่มีพิษมากกว่านั้นเช่นงูพิษกัดเข้า คนธรรมดาก็อาจจะสาหัสได้

  แขนเสวียนอู่ของหยูหานถูกใช้เพื่อเพิ่มความสามารถในการสลายสิ่งแปลกปลอมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ราวกับเมื่อมีปฏิกิริยาของบางอย่างที่พัลวันเข้าสู่แขนซ้ายของเขา มันจะถูกสลายหายไป ตัวอย่างเช่นตอนที่ด้วงสีดำและแดงกัดแขนซ้ายเขาเข้าก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น แม้แต่หยูหานก็ยังหวนนึกถึงบางอย่างที่เกี่ยวกับเสวียนอู่

  เสวียนอู่หรือที่เรียกว่าเสวียนหมิงเป็นการรวมกันของเต่าและงูซึ่งเป็นตำนานเทพเจ้าแห่งน้ำมีถิ่นกำเนิดที่คาบสมุทรทางตอนเหนือ หยินและหยางทั้งสี่ทิศไม่มีที่สิ้นสุด

  นี่คือเหตุผลที่หยูหานรู้สึกภาคภูมิใจและทะนงตน ในใจเขารู้ดีว่าแขนซ้ายของเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับสิ่งที่เรียกว่าเสวียนอู่ แต่เขาก็อดภูมิใจไม่ได้ ใครจะรู้ว่าแขนเสวียนอู่ของเขาจะพัฒนาเป็นของจริงหรือไม่ในภายหลัง เขาอาจจะสามารถสลายทุกอย่างที่แปลกปลอมเข้ามาที่ไม่เพียงแต่สารพิษต่าง ๆ เท่านั้น อีกทั้งอาจยังสามารถระดมพลังงานพิเศษอีกด้วย บางทีมันอาจดูดซึมและใช้งานได้ด้วยตัวเองเช่นเดียวกับในนิยายเป่ยหมิงพลังเทพก็เป็นได้

  ……

  ก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่หยูหานถูกสะกดจิตโดยม่านตาบุษบาผกผันของไป๋อี้ ความร้อนไหลเวียนจากเสวียนอู่ที่แขนซ้ายของเขากระจายไปทั่วร่างกายของหยูหานในทันที นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาตื่นจากภวังค์นั้น ไม่ใช่ครั้งแรกที่หยูหานรู้สึกเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าความร้อนที่ไหลออกมาเหนือการควบคุมของเขาคือพลังงานพิเศษในร่างกายของเขา การไหลเวียนของความร้อนนี้จะปรากฏขึ้นทุกครั้งที่เขาตกอยู่ในห้วงของบางสิ่งที่เป็นอันตรายโดยไม่ได้ตั้งใจ

  น่าเสียดาย ที่มันปรากฏขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หากเขาสามารถริเริ่มที่จะควบคุมมันได้คงไม่ต้องกังวลกับสายตาของไป๋อี้อีก

  อย่างไรก็ตาม เขายังรู้สึกไม่สบอารมณ์ ในเมื่อไป๋อี้ผสานกับยีนของผีเสื้อเท่านั้นทำไมเขาถึงเกิดความเปลี่ยนแปลงในดวงตาที่แปลกประหลาดเช่นนี้

  นี่คือความคิดของหยูหานและเขาไม่สามารถเห็นคนอื่นดีไปกว่าเขาได้ โดยเฉพาะในโลกที่บิดเบี้ยวเช่นนิวซีแลนด์ในตอนนี้ ความคิดนี้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก เขายังไม่อยากคิดว่าแขนซ้ายของเขาจะมีคนที่พัฒนาไปเหนือกว่าเขาอีกกี่คน โลกนี้ไม่ใช่โลกที่หมุนรอบตัวคน ๆ เดียว เหตุใดเขาจึงต้องเป็นคนเดียวที่ได้ผลประโยชน์และคนอื่น ๆ ก็ต้องด้อยกว่าเขาอย่างนั้นหรือ

  ในทีมของหยูหานมีจำนวนสิบคนรวมตัวเขาเองด้วย ซึ่งถูกปีศาจยุงกินไปหนึ่งคน สัตว์ประหลาดลากไปในน้ำหนึ่งคน และไป๋อี้ฆ่าไปหนึ่งคน นอกเหนือจากหยูหานและหนิงเสวี่ย ที่เหลืออีกห้าคนกำลังต่อสู้กับวูล์ฟและคนในทีมของไป๋อี้ พวกเขาต่อสู้ได้ดีไม่แพ้กัน เห็นได้ชัดว่าเพื่อนร่วมทีมของหยูหานไม่ได้ถูกสุ่มเลือกมา พวกเขาทั้งหมดเป็นคนที่มีพละกำลังแข็งแกร่งทีเดียว

  “เตรียมพร้อมหรือยัง ยินดีต้อนรับเข้าสู่ความตาย!” ไป๋อี้ไม่สนใจการต่อสู้ของคนอื่น เขาเพียงแค่ยื่นมือซ้ายออกและทำท่าทางเชิญชวนสู่ความตายเท่านั้น

  “คนที่ต้องตายก็คือแก ไป๋อี้!”

  หยูหานคำรามอย่างดุเดือดและพุ่งไปข้างหน้า เขายกแขนซ้ายของเขาขึ้น ทันใดนั้นงูเหลือมสีทองก็กัดไปที่ไป๋อี้อย่างดุเดือด ในเวลาเดียวกันหนิงเสวี่ยก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรีบพุ่งไปข้างหน้า จนถึงตอนนี้แม้แต่หนิงเสวี่ยก็ไม่สามารถละเลยจากเรื่องนี้ได้ เริ่มตั้งแต่ตอนที่เธอติดตามหยูหานอย่างแน่วแน่

  ดวงตาของไป๋อี้ทอแสงสนธยาและชูดาบเขี้ยวของเขาผงาดขึ้นเล็กน้อย!

  แม้ว่าพวกเขาจะคิดว่าการต่อสู้กับไป๋อี้นั้นคงเป็นเรื่องยากมาก อย่างไรก็ตามหยูหานและหนิงเสวี่ยก็ยังไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะหมดหนทาง ทั้งสองไม่กล้ามองไปที่ไป๋อี้เลยเพราะนั่นหมายถึงช่องว่างขนาดใหญ่ที่กล่าวได้ว่าอาจจะเป็นตัวนำสู่ความตาย อย่างไรก็ตามแนวสายตากลับไม่สัมพันธ์กับความคิดนักพูดง่ายๆว่า 99% ของสิ่งมีชีวิตคุ้นเคยกับการมองโลกด้วยตา การที่พวกเขาจะพยายามหลีกเลี่ยงการมองไปข้างหน้านั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย

  เมื่อทั้งสองฝ่ายซวนเซปรี่เข้าหากัน งูเหลือมที่อยู่บนแขนซ้ายของหยูหานก็กัดไปที่ไป๋อี้

  ในตอนนี้ดาบเขี้ยวของไป๋อี้โผล่ออกมากลางอากาศและฟันไปที่ตัวของงูเหลือม เพราะพวกเขาไม่กล้าที่จะสบตาของไป๋อี้ หยูหานและหนิงเสวี่ยจึงไม่รู้ว่าดาบของไป๋อี้เคลื่อนไหวมาทิศทางไหน ม่านตาบุษบาผกผันของไป๋อี้เป็นพลังความสามารถที่ร้ายกาจที่สุด แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าไป๋อี้จะสามารถพึ่งพาความสามารถนี้อย่างเดียวเท่านั้น

  คมดาบ!

  เช้ง เสียงดาบเสียดแทง หยูหานรู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ศีรษะของงูเหลือมและมีเสียงกรีดร้องอย่างรุนแรงมาจากหัวงูเหลือมของเขา ดาบเขี้ยวของไป๋อี้แตกต่างจากการปะทะกันครั้งก่อนอย่างสิ้นเชิง มันฟันเข้าตรงเกล็ดแข็งของงูเหลือมยักษ์จนแทบจะฟันงูเหลือมยักษ์ขาดออกเป็นสองท่อน

  ทันใดที่เขารับรู้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงเช่นนี้ หยูหานก็หันหน้าไปทางนั้นโดยไม่รู้ตัว

  ม่านตาบุษบาผกผัน!

  ม่านตาบุษบาผกผันของเขาแตกต่างจากก่อนหน้านี้ นัยน์ตาของไป๋อี้มีเลือดหลั่งออกมาด้านนอกทันที เป็นไปได้ว่าม่านตาบุษบาผกผันที่ไป๋อี้ใช้ในครั้งนี้มาถึงขั้นที่สามแล้วและพลังงานพิเศษกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

  อ๊ะ แย่แล้ว!

  ทันทีที่หยูหานหันหน้าไป เขาก็สบเข้ากับดวงตาแปลกประหลาดของไป๋อี้ จากนั้นคำอุทานดังกล่าวก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา ทันทีที่สบตากันหยูหานก็ดูเหมือนจะติดอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยสีสัน จากนั้นก็หลงอยู่ในภวังค์ แม้ว่าเขาจะเคยประสบกับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อนแล้ว แต่หยูหานก็ยังรับมือไม่ได้ หยูหานกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งอยู่ในใจ เขาต้องการที่จะทำลายการสะกดจิตนี้โดยการปล่อยพลังงานพิเศษของเขาออกมาจากแขนซ้ายเสวียนอู่ของเขา

  ทว่าครั้งนี้หยูหานกลับรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น นั่นทำให้เขายิ่งไม่สามารถฟื้นคืนสติได้ ราวกับฝันร้าย เขารู้สึกแย่มาก แต่เขาก็ไม่สามารถตื่นจากภวังค์ได้

  ทันใดนั้นของเหลวอุ่น ๆ ก็สาดกระเซ็นบนใบหน้าของหยูหานควบคู่ไปกับพลังงานพิเศษในร่างกายของเขาที่ไหลพล่านในร่างกาย ในที่สุดดวงตาของหยูหานก็กลับมามองเห็นอย่างชัดเจน

  อย่างไรก็ตาม หยูหานมองไปที่ฉากตรงหน้าเขาด้วยความตะลึงงัน

  หนิงเสวี่ยขวางดาบเขี้ยวของไป๋อี้ต่อหน้าเขา ดาบถูกแทงผ่านตรงกลางอกซ้ายของหนิงเสวี่ยและจากนั้นหนิงเสวี่ยก็จับมันแน่นด้วยกรงเล็บแข็งของเธอ เลือดที่กระเซ็นออกมาอย่างต่อเนื่องจากร่างกายของหนิงเสวี่ยสาดกระเซ็นโดนใส่ใบหน้าของหยูหาน

  คนโง่!

  ดวงตาของไป๋อี้ขยับไปมาเล็กน้อยและมีคำพูดหนึ่งปรากฏขึ้นในใจของเขา อย่างไรก็ตามไป๋อี้ยังคงไม่หยุดและค่อย ๆ เคลื่อนดาบไปทางด้านหลังเพื่อดึงมันออกมา แต่หนิงเสวี่ยจับดาบเขี้ยวของเขาไว้ด้วยมือซ้ายของเธออย่างแน่นหนา ในเวลาเดียวกันก็ยื่นมือขวาออกมา พร้อมกับมีกรงเล็บแหลมสีดำสามอันเล็งมายังไป๋อี้

  ไป๋อี้ได้เห็นแล้วว่ากรงเล็บอันแหลมคมของหนิงเสวี่ยนั้นทรงพลังเพียงใด เขาไม่สามารถดึงดาบออกมาได้จึงปล่อยมือขวาทันทีและก้าวถอยหลัง

  เมื่อเห็นไป๋อี้คลายดาบเขี้ยวของเขาลง หนิงเสวี่ยก็ไม่ได้ใช้กรงเล็บทั้งสามที่มือขวาของเธอทำร้ายเขา เธอเพียงแต่วางมือลงบนร่างของหยูหานก่อนจะล้มลงอย่างช้า ๆ

  “หมอ หมออยู่ที่ไหนอาเธน่า” หยูหานกอดหนิงเสวี่ยแน่น เลือดยังไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ดาบของไป๋อี้ปักอยู่ตรงกลางหัวใจอย่างแม่นยำเนื่องจากเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด อย่างไรก็ตามเมื่อหยุหานมองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตระหนกเขาก็รู้ว่าเพื่อนร่วมทีมหลายคนกำลังต่อสู้กันอย่างขมขื่น ชื่อที่เขาเรียกหาอาเธน่ากำลังถูกชาร์ไป่ไล่ล่าตามฆ่า มันกระชากฉีกทึ้งเสื้อผ้าของเธอ ทำให้ตัวเธอมีแต่รอยเปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยเลือด เธอกำลังวิกฤตอย่างถึงที่สุด

  “หยู หยูหาน …… ลูกของเรา” มือขวาของหนิงเสวี่ยค่อย ๆ ลูบหน้าท้องของเธอ

  “อืม อืม ลูกของเรา” หยูหานกอดหนิงเสวี่ยในขณะที่น้ำตาไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง

  หยูหานรู้ดีว่าเขาทำหน้าที่ได้แย่มากและหลาย ๆ อย่างก็ไม่เป็นที่ยอมรับของคนอื่น ๆ แต่หนิงเสวี่ยก็ติดตามเขามาตลอดเพราะหนิงเสวี่ยมีลูกน้อยอยู่ในท้อง อาจเป็นเพราะเซลล์ดัดแปลงเด็กคนนี้จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยเป็นเวลากว่าเก้าเดือนและไม่รู้ว่าจะคลอดเมื่อไหร่ ที่หยูหานอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นวีรบุรุษก็เพื่อหนิงเสวี่ย แม้เขาจะไม่สามารถเป็นได้ แต่เขาก็อยากจะเป็นฮีโร่ให้ได้ แต่อา …… แต่อา …… !

  ไป๋อี้หยุดอยู่ที่เดิม เลือดจากดวงตาของเขาไหลลงอาบแก้มของเขาโดยทิ้งรอยน้ำตาสีแดงไว้

  ลูกน้อย!

  หนิงเสวี่ยตั้งท้องเด็กน้อยจริง ๆ และนั่นต้องเป็นลูกของหยูหานแน่ นั่นคือเหตุผลที่หนิงเสวี่ยไม่เคยคิดจะแยกออกมาจากหยูหานสินะ

  ไป๋อี้มองไปยังใบหน้าที่ซีดจางของหนิงเสวี่ยและไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกของเขาออกมาอย่างไร ความเมตตาและความอ่อนโยนที่ฝังอยู่ในหัวใจของเขาค่อย ๆ ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ในอดีตพวกเขาต่างก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ไป๋อี้หวนนึกถึงฉากที่สดใสของคนหนุ่มสาวเหล่านี้ในช่วงเวลาที่มหาวิทยาลัยไวกาโต

  แต่ตอนนี้ …… ยังต้องมีอีกกี่ชีวิตที่ต้องสังเวยชีวิตในเงื้อมมือของกันและกัน

       ไป๋อี้มองมือของเขาและหลับตา

  “อ๊ากกกกกกกกก ……!” ทันใดนั้นหยูหานก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและคำรามเสียงดังลั่น เสียงของเขาเสียดแทงถึงหัวใจ เห็นได้ชัดว่าความเจ็บปวดนั้นรุนแรงมาก คลื่นเสียงที่รุนแรงได้สั่นสะเทือนในอากาศโดยรอบและสะท้านถึงหัวใจของทุกคน ทั้งสองฝ่ายที่ยังคงอยู่ในการต่อสู้ก็มองตามเสียงและเห็นหยูหานนั่งอยู่บนพื้นโดยโอบหนิงเสวี่ยไว้ในอ้อมแขน

  ฆ่า ฆ่าพวกมัน!

  กลุ่มคนของหยูหานทุกคนมีดวงตาสีแดงประกายออกมา การแสดงออกของพวกเขาค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่ง หยูหานและคนอื่น ๆ มาที่เวลลิงตันเพื่อตามหาดอกไม้มรณะเพื่อให้จิตวิญญาณสงบ อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าคนอื่น ๆ อาศัยความสามารถในการสะกดจิตของไป๋อี้ ซึ่งสามารถประสานร่างกายและจิตวิญญาณได้ หลังจากได้รับการกระตุ้นอย่างมาก กลุ่มของหยูหานก็กำลังจะตกอยู่ในสภาวะดุร้ายขั้นรุนแรง

  หยูหานลุกขึ้นอย่างช้า ๆ เขาสะบัดตัวเรียกสติแล้วเงยหน้าขึ้นมองไปที่ไป๋อี้ด้วยสายตาที่ดุดัน อาฆาตและสายตาสังหาร

Author Glory Forever