มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 3 บทที่ 76 ปะทะกัน

บทที่ 76 ปะทะกัน

      โรงงานร้างเขตเมืองฝั่งตะวันออก

      ทรุดโทรม แห้งแล้ง

      พงหญ้ารกชัฏ

      พอลงจากรถแท็กซี่มาได้ เย่จื่อเฉินก็มายืนอยู่หน้าประตูโรงงานร้าง พร้อมกดโทรหาเบอร์ที่ไม่มีชื่อนั้น

      “ฉันถึงแล้ว พวกแกอยู่ที่ไหน?”

      “คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเร็วขนาดนี้ เข้ามาเลย เดี๋ยวถึงเวลานายก็เจอพวกฉันเอง

      แก๊ก

      เมื่อผลักประตูเหล็กที่ผุพัง เสียงเสียดหูก็บาดลึกเข้ามาในโสตประสาท กลิ่นเหม็นอับก็เข้ามาปะทะจมูก

      แสงสว่างส่องลอดผ่านช่องประตูเข้าไปข้างใน

      ตรงบริเวณประตูทางเข้ามีผู้ชายผมยาวระเบิดหูเรียงเป็นแนวยาวคนหนึ่งนั่งอยู่ ผู้ชายที่ใส่เสื้อแจ็กเกตมีหนามกางเกงหนังกำลังนั่งไขว่ห้างสูบบุหรี่อยู่ เมื่อเห็นเย่จื่อเฉินเขาก็โยนบุหรี่ลงกับพื้น

      “มาแล้วเหรอ?”

      “เพื่อนฉันอยู่ไหน?”

      เย่จื่อเฉินขมวดคิ้วมุ่น ชายหนุ่มตบมือส่งสัญญาณ ผู้ชายสองคนจึงหามไป๋อี่กับคังเผิงเดินออกมาจากมุมมืดของโรงงาน

      ร่างของทั้งคู่เต็มไปด้วยเลือด คอตกหายใจรวยริน

      กรอด

      “ไอ้เวรเอ๊ย…”

      แกรก

      จังหวะที่เย่จื่อเฉินกำลังเงื้อหมัดขึ้น ปลายกระบอกปืนดำขลับก็ได้ชี้มาทางเขา

      “อย่าวู่วามแบบนั้นสิ ไม่อย่างนั้นแกจะเป็นอันตรายเอาได้นะ

      ชายหนุ่มกวักมือเรียกลูกน้องสองสามคนนั้น พวกมันจึงได้ยกปืนขึ้นทันที

      “ปล่อยเพื่อนฉันไป คนที่พวกแกตามหามันคือฉัน

      เย่จื่อเฉินยังคงรักษาความนิ่งสงบเอาไว้ ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองผู้ชายคนนั้นเขม็ง แต่ในใจกลับคอยสื่อสารกับหลิวฉิงอยู่ตลอดเวลา

      ชายหนุ่มพอได้ฟังก็เลิกคิ้วขึ้น เขาหัวเราะเบาๆ แล้วจุดบุหรี่ให้ตัวเอง ก่อนจะเป่าควันบุหรี่ใส่เย่จื่อเฉิน

      “จะปล่อยเพื่อนแกไปก็ได้ แต่ก่อนอื่นฉันต้องได้เห็นแกตายก่อน คนอย่างฉันชินกับการที่ให้คนสั่งเสียก่อนจะตาย และแกก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

      “ฉันอยากรู้ว่าใครจ้างแกมาฆ่าฉัน

      เย่จื่อเฉินจ้องมองผู้ชายคนนั้น แต่สายตาก็คอยสังเกตท่าทีของหลิวฉิงอยู่

      “เรื่องนี้ต้องขอโทษด้วยนะ ที่พวกฉันบอกไม่ได้

      ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ

      “แบบนี้นี่เอง…”

      เย่จื่อประสานมือเข้าด้วยกัน ก่อนจะก้มหน้าลงทำทีเป็นยอมรับชะตากรรม

      และในทันทีที่ชายหนุ่มลดความระมัดระวังลง เขาก็ยกกำปั้นขึ้นชกชายคนนั้นทันที

      “ไปตายซะไอ้เวร

      หมัดที่แฝงไว้ด้วยความโกรธเกรี้ยวทำเอาชายหนุ่มคนนั้นลอยเคว้งกลางอากาศก่อนกระแทกลงกับพื้นเต็มแรง พวกนักเลงที่อยู่รอบๆ ยกปืนขึ้นมาเล็งไปที่เย่จื่อเฉิน

      แต่ว่า

      ปืนดันใช้การไม่ได้

      “ใช้ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”

      เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วมองนักเลงสองสามคนนั้น ก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบ

      “หลิวฉิง ทำได้เยี่ยมมาก

      หันไปยกนิ้วให้กับหลิวฉิงที่ลอยอยู่กลางอากาศ หลังจากที่เย่จื่อเฉินจัดการอันธพาลกลุ่มนั้นได้อยู่หมัดแล้ว ก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของผู้ชายที่เห็นในตอนแรก

      “แกรู้ไหม ว่าแกทำให้ฉันโมโหขึ้นมาจริงๆ แล้ว?”

      ปึก!

      เย่จื่อเฉินยกเท้าขึ้นเหยียบลงบนแขนของอีกฝ่ายที่จับปืนเอาไว้ เย่จื่อเฉินแย่งปืนมาจ่อไปที่ขมับของชายคนนั้น

      “บอกมา ตกลงว่าใครใช้ให้แกทำแบบนี้!”

      เย่จื่อเฉินแทบจะตวาดออกมาดังลั่น จะทำอะไรเขาก็ได้ แต่ไป๋อี่กับคังเผิงเป็นผู้บริสุทธิ์

      พวกนี้เป็นแค่รูมเมทของเขา แต่พวกเขากลับต้องมารับเคราะห์ที่ไม่ได้ก่อแบบนี้

      “บอกมา!”

      เย่จื่อเฉินชกท้องผู้ชายคนนั้นเต็มแรง ก่อนจะกดปืนลงกับหน้าผากชายหนุ่ม

      “ถ้าไม่บอกฉันยิงแกแน่

      “เหอะ

      จู่ๆ ชายหนุ่มที่โดนเย่จื่อเฉินกดไว้กับพื้นก็แสยะยิ้มขึ้นมา เลือดไหลออกมาจากปาก ในตอนนั้นเองเขาก็พูดขึ้น

      “ไอ้หนู ฉันมีอุดมการณ์นะ ฉันไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของคนที่จ้างฉันได้ แกลั่นไกเถอะ

      “แกเชื่อไหมว่าฉันยิงแกได้จริงๆ

      “ฉันเชื่อ ยิงสิ

      ชายหนุ่มหลับตาลงช้าๆ ราวกับว่าไม่ได้ใส่ใจกับความเป็นความตาย

      มือของเย่จื่อเฉินที่จับปืนอยู่ค่อยๆ สั่นขึ้นมา

      เขาจะกล้าลั่นไกได้ยังไง

      ทันใดนั้น ก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของเย่จื่อเฉิน เขาโยนปืนลงบนพื้น ในตอนนั้นผู้ชายคนนี้ก็ได้ลืมตาขึ้นมา มุมปากเหยียดยิ้ม

      “ทำไม ไม่กล้าเหรอ?”

      “หึหึให้แกตายง่ายๆ มันก็เอาเปรียบแกเกินไปหน่อย

      ยกนิ้วชี้ข้างขวากดลงไปที่เอวของผู้ชายคนนั้นเต็มแรง

      “ค่อยๆ สัมผัสมันไปช้าๆ พอถึงตอนนั้นค่อยตัดสินใจบอกฉันก็ได้

      เมื่อโยนผู้ชายคนนั้นไปไว้ด้านข้างแล้ว เย่จื่อเฉินก็วิ่งเข้าไปหาไป๋อี่กับคังเผิง

      ไม่รู้ว่าก่อนที่เขาจะมาถึงสองคนนี้โดนทารุณอะไรไปแล้วบ้าง ทั่วใบหน้ามีแต่คราบเลือดเต็มไปหมด

      “ไป๋อี่ คังเผิง!”

      เย่จื่อเฉินเขย่าไล่ทั้งคู่อย่างแรงจนหัวสั่นหัวคลอน เนิ่นนาน พวกเขาถึงได้ลืมตาขึ้นมาช้าๆ

      “เย่จื่อ…”

      “กินเข้าไป

      ล้วงเอายาวิเศษจากในวีแชทออกมาแบ่งเป็นสองชุดแล้วกรอกใส่ปากของไป๋อี่กับคังเผิง ทันทีที่ยาวิเศษเข้าปาก สีหน้าของทั้งคู่ที่หายใจรวยรินก็ค่อยๆ ขึ้นสีเลือดฝาด

      ในขณะเดียวกันผู้ชายที่จับไป๋อี่และคังเผิงมานั้น

      ตั้งแต่ทีแรกมาจนถึงตอนนี้เขาไม่เคยเห็นเย่จื่อเฉินอยู่ในสายตาเลย ต่อให้เขาจะเป็นฝ่ายเริ่ม ต่อให้เขาต้องอยู่ใกล้กับความตายขนาดไหนเขากลับไม่เคยกลัว

      จนกระทั่งเย่จื่อเฉินกดนิ้วเข้าที่เอวของเขา

      เขารู้สึกแค่เพียงว่าร่างกายของเขาเหมือนกับโดนควักออกไป บริเวณท้องน้อยก็เจ็บแปลบเหมือนกับโดนมีดกรีด

      สักพักหนึ่ง เขาก็รู้สึกว่าร่างกายส่วนล่างของเขาค่อยๆ สูญเสียความรู้สึก เมื่อเขาก้มมอง สิ่งที่เห็นกลับเป็นรอยเลือด

      “แกทำอะไรฉัน…”

      ชายคนนั้นตะโกนขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว เย่จื่อเฉินจึงได้เดินเข้าไปย่อตัวลงตรงหน้าเขาแล้วหัวเราะเบาๆ

      “คิดได้แล้วเหรอบอกฉันมา ตกลงว่าใครให้แกทำแบบนี้!”

      “ฉันบอกไม่…”

      “ได้ ถ้าอย่างนั้นแกก็สัมผัสมันไปช้าๆ ก็แล้วกัน!”

      เย่จื่อเฉินไหวไหล่แล้วยืดตัวขึ้นยืน แต่แล้วจู่ๆ ผู้ชายคนนั้นก็เปิดปากพูดขึ้น

      “ฉันบอกแล้วคุณชายฟู่สั่งให้พวกฉันทำแบบนี้ เขาบอกว่านี่แค่เริ่มต้น เขาจะทำให้คนที่อยู่รอบตัวนายมีอันเป็นไปทุกคน

      ตุบ

      กระทืบเท้าลงบนร่างของผู้ชายคนนั้นเต็มแรง ตาของเย่จื่อเฉินเบิกกว้าง

      “ฟู่เฉิงหมิง

      โทรแจ้งผู้การหลิวให้มาเก็บกวาดสนามรบ พร้อมกับนำไป๋อี่และคังเผิงไปส่งโรงพยาบาล

      เย่จื่อเฉินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงทางเดินนอกห้องผู้ป่วย ดวงตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยสีเลือดแดงก่ำ

      ไม่ว่าก่อนหน้านี้ฟู่เฉิงหมิงจะเล่นสกปรกอะไรกับเขา เขารับได้หมด แต่ครั้งนี้มันถึงขีดจำกัดของเขาแล้วจริงๆ

      เย่จื่อเฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนจะกรอกเสียงเข้มลงไปในสาย

      “บอกพิกัดของฟู่เฉิงหมิงมา

      ภายในสโมสรธุรกิจไฮโซแห่งหนึ่ง

      “บัดซบ เรื่องเล็กๆ แค่นี้ก็จัดการไม่ได้

      ทันทีที่วางสายโทรศัพท์ ใบหน้าของฟู่เฉิงหมิงก็บึ้งตึงทันที

      “คุณชายฟู่…”

      “ไปไปไปไสหัวไปให้หมด

      ฟู่เฉิงหมิงที่นั่งอยู่บนโซฟาหัวเสียขึ้นมาทันที ปัดเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะลงกับพื้นจนหมด

      เด็กนั่งดริ๊งก์ในห้องพากันตกใจอยู่ไม่น้อย ก่อนวิ่งแตกตื่นออกไปนอกห้อง

      “ไร้ประโยชน์กันทั้งนั้น

      เมื่อเด็กนั่งดริ๊งก์ออกไปกันหมดแล้ว ฟู่เฉิงหมิงก็ระบายอารมณ์โกรธอยู่ภายในห้องไม่หยุด แต่ทันใดนั้น ประตูห้องกลับถูกคนถีบเข้ามาเต็มแรง

      เย่จื่อเฉินยืนจังก้าอยู่หน้าประตูห้อง เขามองฟู่เฉิงหมิงที่อยู่ในห้องด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย

      “คุณชายฟู่ หาเจอง่ายจริงๆ

      น้ำเสียงเยือกเย็นราวกับเสียงกระซิบของสัตว์ร้ายจากนรก ในตอนนี้อากาศที่เดิมทีร้อนอบอ้าวก็ได้เปลี่ยนเยือกเย็น

     ฟู่เฉิงหมิงก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าตกใจกลัว เขาอาศัยเงินในมือกับคนในการทำตัวกร่างอวดดี

      โดยเฉพาะเมื่อเห็นสายตาเยือกเย็นคู่นั้นของเย่จื่อเฉินที่ยืนจ้องอยู่

      “นายจะทำอะไร?”

      “หึหึ…”  เย่จื่อเฉินก็แสยะยิ้มขึ้น ก่อนจะปิดประตูห้องเต็มแรง

      “นายคิดว่าไงล่ะ?”

 

Author Glory Forever