มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 4 ตอนที่ 92 สิ่งที่เรียกว่าโลกใต้ดิน

            บรรยากาศในตอนนี้ทั้งเงียบและหนักหน่วง ฉินหว่านเอ๋อไม่คิดเลยว่าการตายของหม่าผิงไห่จะเป็นการโจมตีตำรวจครั้งใหญ่ถึงขนาดนี้ เอาตามจริงคนร้ายทำแบบนี้เท่ากับไม่เห็นตำรวจอยู่ในสายตาเลย ไม่งั้นคงไม่ทำเรื่องที่เป็นการท้าทายแบบนี้หรอก

            “ผมขอประกาศให้ยกเลิกทีม” เฉินเวยพูดขึ้นมากะทันหัน ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้นที่ตกใจ คนอื่นๆ ก็หันไปมองผู้บัญชาการเฉินด้วยสีหน้ามึนงงเช่นกัน

            เฉินเวยรู้สึกโมโหกับการทำพลาดครั้งนี้ของตนมาก ตอนแรกตนคาดเดากำลังของตำรวจเมืองเหอตงไว้อย่างคร่าวๆ แล้ว แต่ไม่อาจไม่ยอมรับได้เลยว่าตนเดาพลาดไป แล้วตนก็ดูถูกอาชญากรระดับเอสคลาสเกินไป ถ้ารู้แบบนี้ตนน่าจะไปขอร้องพวกผู้ใหญ่ให้ส่งยอดฝีมือจริงๆ มาช่วยเหลือ

            ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉินหว่านเอ๋อคงจะนึกสงสัยในการตัดสินใจนี้ของผู้บัญชาการเฉิน แต่ตอนนี้เธอเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายดี บางทีผู้บัญชาการและซูยวิ๋นอาจจะพูดถูกก็ได้ ด้วยความสามารถของตำรวจในตอนนี้ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของคนร้ายได้เลย

            “คดีนี้ไม่ใช่คดีที่เราจะควบคุมได้อีกต่อไปแล้ว” การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดนี้ของเฉินเวยก็เพื่อไม่ให้เกิดการเสียสละที่อาจจะเกิด ตนจึงต้องตัดสินใจยกเลิกทีมเฉพาะนี้ซะ “เสี่ยวฉิน ตามผมไปที่ห้องทำงานหน่อย”

            ตำรวจที่เหลือลงมือเก็บกวาดหลักฐานต่อ ส่วนเฉินเวยและฉินหว่านเอ๋อเดินกลับไปยังห้องทำงานของผู้บัญชาการ

            แม้เฉินเวยจะมีสีหน้าเงียบขรึม แต่ในใจไม่ได้รู้สึกสงบเลยแม้แต่นิดเดียว “เสี่ยวฉิน ผมเข้าใจนิสัยของคนคุณดี คุณไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ ไม่งั้นคุณคงไม่เห็นแก๊งต่างๆ ในเมืองเหอตงเป็นศัตรูหรอก แต่เรื่องนี้มันไม่เหมือนเรื่องนั้น ผมอยากให้คุณปล่อยเรื่องนี้ไป ตั้งแต่ตอนที่คุณพาตัวหม่าผิงไห่มาที่นี่ผมก็มั่นใจแล้วว่าข้างตัวคุณมีคนคอยช่วยเหลืออยู่ ผมหวังว่าคุณจะบอกกับคนที่ช่วยเหลือคุณว่าไม่ต้องให้เขามายุ่งเรื่องนี้แล้ว”

            “ค่ะ ฉันทราบแล้ว” หญิงสาวพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง แต่ซูยวิ๋นเข้ามายุ่งแล้วนี่สิ และตอนนี้หมอนั่นก็ทำให้ซูยวิ๋นและโฉวเหยียนได้รับบาดเจ็บแล้ว แบบนี้จะให้ชายหนุ่มปล่อยไปได้ยังไง

            เมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาวตรงหน้าดูลำบากใจจึงส่งยิ้มให้อ่อนๆ “ถึงแม้ผมจะยกเลิกทีมไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะปล่อยเรื่องนี้ไปหรือปล่อยให้คนร้ายใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกได้สบายๆ หรอกนะ สำหรับการจัดการคนร้ายคนนี้ผมจะขอผู้ใหญ่ให้ส่งกองกำลังพิเศษมาช่วยเหลือ”

            “กองกำลังพิเศษ?” หญิงสาวตาโตอย่างแปลกใจ

            “ใช่” ตนยิ้ม “ด้วยตำแหน่งของคุณจึงยังไม่รู้พวกหน่วยงานลับพวกนี้ แต่ผมเชื่อในจรรยาบรรณในอาชีพของคุณ และผมก็เชื่อด้วยว่าคุณเป็นตำรวจที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดี ทำให้ผมเชื่อว่าสักวันคุณอาจจะได้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งเดียวกับผม หรือบางทีอาจจะสูงกว่าผมในไม่ช้านี้แน่ เพราะฉะนั้นผมสามารถบอกเรื่องนี้กับคุณได้ ไม่มีปัญหา”

            หญิงสาวมีสีหน้ามึนงง “กองกำลังพิเศษแตกต่างจากตำรวจหน่วยพิเศษเหรอคะ”

            ตนพยักหน้า “คนพวกนั้นคือยอดฝีมือที่แท้จริง คนในตำรวจหน่วยพิเศษยังยากเลยที่จะมีคุณสมบัติพอเข้าไปในกองกำลังพิเศษนี้”

            หญิงสาวอ้าปากค้างก่อนจะถามอย่างสงสัย “งั้นตกลงคือหน่วยงานไหนกันแน่คะ”

            ตนส่ายหน้า “ที่ผมรู้มีแค่นี้แหละ ส่วนรายละเอียดระดับนั้นผมยังรู้ไม่ได้ ถ้าคุณอยากรู้ละก็ตั้งใจทำงานให้ดี ผมเชื่อว่าสักวันคุณจะต้องรู้มากกว่าที่ผมรู้แน่ คุณอายุยังน้อยอนาคตยังอีกไกล”

            “ผู้บัญชาการคะ พวกเขาจะจับตัวชื่อเซียได้จริงๆ เหรอคะ” หญิงสาวถามอย่างไม่แน่ใจ ด้วยไม่เชื่อใจกองกำลังพิเศษเท่าใดนัก

            เมื่อได้ยินประโยคนี้ตนถึงกับต้องมองหญิงสาวด้วยแววตาเคร่งขรึม น้ำเสียงที่ใช้ก็ดูจริงจังกว่าตอนแรก “คุณรู้สมญานามของเขาได้ยังไง!”

            ตั้งแต่มีประกาศจับจนถึงทุกครั้งที่ประชุมพวกผู้ใหญ่และตนไม่เคยเปิดเผยชื่อชื่อเซียขึ้นมาเลยสักครั้ง เพราะนี่เป็นชื่อเรียกในโลกใต้ดิน และคนคนนี้ก็ไม่ได้เหมือนกับกงโยวตาเหยี่ยวอาชญากรตัวเล็กๆ แบบครั้งที่แล้ว คนคนนี้มีความลึกลับกว่ามาก ชื่อชื่อเซียจึงมีแต่ตำรวจระดับสูงเท่านั้นที่รู้ ไม่เคยประกาศออกไป

            ถ้าเกิดเผยชื่อชื่อเซียออกไปมีแต่จะทำให้โลกใต้ดินวุ่นวาย

            เรื่องราวในโลกใต้ดินไม่ใช่เรื่องที่ตำรวจจะเข้าไปยุ่งได้ ตนเพิ่งจะรู้เรื่องโลกใต้ดินก็เมื่อห้าปีก่อนตอนที่ได้เป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจของเมืองนี้เอง

            ในวงการตำรวจของเมืองนี้ชื่อชื่อเซียจึงมีแค่ตนเท่านั้นที่รู้ แล้วหญิงสาวตรงหน้ารู้ได้ยังไง!

            หญิงสาวเองก็มีท่าทีตื่นตกใจ เพราะซูยวิ๋นและโฉวเหยียนมักจะเรียกห่าวข่ายด้วยชื่อนี้ เธอจึงพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว

            “เสี่ยวฉิน พ่อครัวที่อยู่ในร้านอาหารตุ๋นยาจีนเป็นคนบอกชื่อนี้กับคุณใช่ไหม” ตนถามอย่างอดไม่อยู่

            หญิงสาวอึ้ง “ผู้บัญชาการเฉิน คุณส่งคนไปสืบเรื่องของฉัน?”

            ตนไม่ได้ปฏิเสธ “ใช่ แต่ผมไม่ได้มีจุดประสงค์ไม่ดีอะไรนะ ทั้งหมดก็เพื่อเรื่องงานเท่านั้น หวังว่าคุณจะเข้าใจ”

            เธอได้แต่ยิ้มแห้งๆ ถึงว่าทำไมซูยวิ๋นถึงพูดอยู่ตลอดว่าไม่ชอบทำงานร่วมกับตำรวจ ดูท่าคงจะรู้นานแล้วว่ามีตำรวจมาสืบเรื่องของเธอ หมอนี่นี่จริงๆ เลย ทำไมไม่บอกเธอสักคำนะ

            เสี่ยวฉิน ผมหวังว่าคุณจะไม่ถือสา” ตนพูดต่อ “ผมบอกได้เลยว่าคนที่รู้ชื่อชื่อเซียนี้มีแต่พวกยอดฝีมือในโลกใต้ดินเท่านั้น คนพวกนี้เป็นคนที่อันตรายมาก ผมไม่อยากให้คุณจะไม่เข้าไปยุ่ง หรือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับคุณ”

        หญิงสาวยิ้มอ่อนๆ “ผู้บัญชาการเฉิน ฉันไม่เคยคิดเลยจริงๆ นั่นแหละค่ะว่าคุณจะส่งคนไปสืบเรื่องของฉัน ฉันยังรับไม่ได้ แต่ฉันอยากจะถามคุณข้อหนึ่ง โลกใต้ดินที่คุณว่าหมายถึงอะไรคะ ฉันฟังแล้วไม่เข้าใจเลย”

        ตนขมวดคิ้ว ด้วยตำแหน่งของหญิงสาวคงจะไม่เคยสัมผัสกับเรื่องพวกนี้ แต่เพราะข้างตัวหญิงสาวมียอดฝีมือจากโลกใต้ดินอยู่ใกล้ๆ ตนจึงตัดสินใจที่จะอธิบายให้ฟัง “มันคือโลกอีกด้านหนึ่งกับโลกของเรา ในโลกใต้ดินไม่มีกฎหมายหรือข้อบังคับใดๆ มีแต่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก! เป็นโลกที่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด! หรือเรียกว่าเป็นโลกของพวกยอดฝีมือ!”

        “ยอดฝีมือ?” เธอเลิกคิ้ว “ผู้บัญชาการเฉินคะ ทำไมยิ่งฟังฉันก็ยิ่งไม่เข้าใจคะ คนแบบไหนกันถึงจะเรียกว่าเป็นยอดฝีมือ”

        ตนสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะพูด “แบบชื่อเซียก็เรียกว่ายอดฝีมือ พวกยอดฝีมือจะมีกำลังมากกว่าพวกเราๆ พวกเขาสามารถทุบหินหักต้นไม้ได้ มีกำลังเกินกว่าที่พวกเราจะจินตนาการได้ อ่อ กงโยวที่คุณจับได้ก่อนหน้านี้ก็เป็นยอดฝีมือในโลกใต้ดินเหมือนกัน”

        หญิงสาวยิ้มแหะๆ “ผู้บัญชาการเฉิน งั้นก็หมายความว่าตอนนั้นคุณก็แน่ใจแล้วใช่ไหมคะว่าการจับกงโยวได้ไม่ใช่ฝีมือของฉัน”

        “ใช่” ตนพยักหน้า “ถ้าคุณแค่คนเดียวทลายแก๊งซื่อหลางและองค์กรเตาฝู่ได้ อันนั้นผมคิดว่าเป็นคุณที่โชคดีได้ แต่ถ้าบอกว่าอาศัยคุณแค่คนเดียวจับยอดฝีมือในโลกใต้ดินได้ ผมว่าอันนั้นมันน่าเหลือเชื่อเกินไป”

        แล้วทำไมตอนนั้นคุณถึงไม่เปิดโปงฉันละคะ ยังจะมอบรางวัลให้ฉันอีก” เธอถามอย่างสงสัย

        ตนตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เพราะผมรู้ว่าคนที่ช่วยคุณไม่ได้มีจุดประสงค์ไม่ดี ผมก็เลยอยากให้เขาคอยช่วยคุณอยู่ลับๆ แบบนี้ก็จะถือว่าเป็นการช่วยทางตำรวจไปด้วย ตอนแรกผมยังไม่แน่ใจว่าเขาเป็นคนในโลกใต้ดินหรือเปล่า เพราะฉายาของกงโยวมีหลายคนที่รู้ ไม่แน่ว่าคนเก่งๆ ที่แฝงตัวอยู่ในหมู่คนธรรมดาแบบพวกเรายังรับมือกับเขาได้เลย”

        เธอชูนิ้วโป้งขึ้นมา “เพราะงี้คุณก็เลยไม่เปิดโปงฉันสินะคะ หึๆ งั้นครั้งนี้ทำไมคุณถึงมั่นใจว่าไม่ใช่คนเก่งๆ ที่แฝงตัวอยู่ในหมู่คนธรรมดา แต่เป็นยอดฝีมือในโลกใต้ดินละคะ”

        เพราะมีแต่คนที่รู้ว่ามีโลกใต้ดินอยู่เท่านั้นที่รู้น่ะสิ” ตนตอบออกไปอย่างรวดเร็ว

        …..” เธอนิ่งพูดไม่ออก

        ตนมองหญิงสาวตรงหน้าอยู่นานถึงค่อยพูดต่อ “เสี่ยวฉิน ผมไม่อยากให้คุณมีอันตราย”

        ผู้บัญชาการเฉิน คุณวางใจได้เลยค่ะ คนที่อยู่รอบตัวฉันทุกคนมีแต่คนดีทั้งนั้น” เธอพูดอย่างหนักแน่น “ถ้าคุณมีแรงที่จะไปสืบเรื่องของพวกเขาฉันว่าคุณเอาแรงไปคิดรับมือกับชื่อเซียดีกว่าค่ะ”

        ตนอึ้งไป นานกว่าจะพูดออกมา “ผมไม่ได้ไม่หวังดีนะ ผมแค่ไม่อยากให้คุณเป็นอันตราย เพราะคุณคือความหวังของวงการตำรวจของเมืองเหอตงเรา”

        เธอเม้มปากแน่น “ขอบคุณค่ะผู้บัญชาการเฉิน แต่ฉันรับไม่ได้กับการส่งคนไปตามสืบเพราะความสงสัย ในเมื่อทีมเฉพาะกิจถูกยกเลิกไปแล้ว ฉันว่าฉันคงต้องกลับไปทำหน้าที่เดิมของฉันแล้วละคะ และฉันขอเอาหัวฉันเป็นประกันได้เลยว่าคนรอบตัวฉันไม่ได้ร้ายแบบที่คุณว่ามา”

        พูดจบเธอก็เดินออกจากสำนักงานตำรวจเลยทันที ในใจของเธอตอนนี้กำลังสับสนอย่างมาก ถึงแม้เธอจะพยายามบอกกับตัวเองว่ารับไม่ได้กับคำพูดของเฉินเวย แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงตัวเธอก็ไม่ยอมฟัง หรือว่าซูยวิ๋นจะเป็นคนในโลกใต้ดินจริงๆ เป็นคนที่มาจากโลกที่ไม่มีกฎระเบียบ โลกที่ปลาใหญ่กินปลาน้อยจริงๆ?

        ตอนนี้เธอรู้สึกสับสนมากเหลือเกิน ตอนที่กลับไปถึงร้านอาหารตุ๋นยาจีนเธออยากจะถามโฉวเหยียนเหลือเกิน แต่เมื่อเห็นสภาพอ่อนแอของอีกฝ่ายเธอกลับพูดไม่ออก

        ทำไมเที่ยงวันนี้ถึงมีเวลาว่างกลับมาที่นี่ได้ล่ะ” หร่วนชิงซวงส่งยิ้มให้ “ได้หยุดเหรอ”

        เปล่า แค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย” ถึงเธอจะกังวลแค่ไหน แต่ก็ไม่ทีทางแสดงออกมาให้อีกฝ่ายรู้ จึงได้แต่ยิ้ม “ฉันไปเปลี่ยนชุดแป็บนะเดี๋ยวลงมาช่วย”

        หร่วนชิงซวงเห็นก็รู้สึกสงสาร “หว่านเอ๋อ ถ้าเหนื่อยละก็ไปพักเถอะ ฉันกับโฉวเหยียนเอาอยู่อยู่แล้ว”

        เธอส่ายหน้า “ให้โฉวเหยียนขึ้นไปพักแทนเถอะ”

        หร่วนชิงซวงเองก็กลุ้มใจมาทั้งเช้า “ใช่ โฉวเหยียน เธอเป็นอะไรไป ดูเหมือนไม่ค่อยมีแรงเลย”

        โฉวเหยียนเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง จึงได้แต่เงียบ

        เมื่อวานคงไปกินอะไรไม่สะอาดเข้าก็เลยท้องเสียมั้ง” เธอพูดหาข้ออ้างแทน “เห็นไม่ค่อยดีมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว วันนี้เธอก็ไปพักเถอะไป”

        โฉวเหยียนหันไปมองคนพูดแก้ตัวแทน ก่อนหน้านี้เธอไม่ค่อยรู้สึกดีกับอีกฝ่ายเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันค่อยๆ ลดลงไปมากแล้ว “หว่านเอ๋อ ฉันไม่เป็นไรหรอก”

            เมื่อฉินหว่านเอ๋อได้ยินการเรียกชื่ออย่างสนิทสนมจากโฉวเหยียนพลันคิดว่า เมื่อคืนเธอไม่ได้ดูแลเสียเปล่าจริงๆ “แน่ใจนะ ถ้าอีกเดี๋ยวเกิดรู้สึกไม่สบายขึ้นมาก็อย่ามาหาว่าพวกเราไม่เตือนให้ดูแลสุขภาพนะ”

            อื้ม” จริงๆ แล้วพิษในตัวโฉวเหยียนถูกซูยวิ๋นถอนออกไปนานแล้ว ที่เธออ่อนแรงเป็นเพราะใช้แรงสู้กับชื่อเซียไปมากต่างหาก

            ทันใดนั้นรถโฟล์คสีแดงก็ขับเข้ามาจอดหน้าร้าน กั๋วกั่วเปิดประตูพร้อมจูงมือซูเสี่ยวหร่านให้ลงมาด้วย จากนั้นก็วิ่งเข้ามาในร้าน ก่อนจะทักทายทุกคน “อิอิ วันนี้มีแขกมาเยี่ยมด้วยน่า!”

            คุณครูซูมาแล้วเหรอคะ! เชิญนั่งเลยค่ะ!” หร่วนชิงซวงดีใจเมื่อเห็นครูประจำชั้นของเด็กหญิงมาที่ร้าน

            ฉินหว่านเอ๋อที่เห็นถึงกับตาโตทันที “เสี่ยวหร่าน เธอถูกกั๋วกั่วหลอกมางั้นเหรอ”

        ซูยวิ๋นที่เดินตามมาเปิดประตูเดินเข้ามาในร้าน “กั๋วกั่วเชิญคุณครูซูมาทานอาหารฝีมือผมต่างหาก”

                    เมื่อเห็นชายหนุ่มเธอก็นิ่งไป เพราะนึกถึงคำพูดของผู้บัญชาการเฉินขึ้นมา จากนั้นก็เดินเข้าไปดึงตัวชายหนุ่มออกไปอีกทาง “นายขึ้นไปอธิบายอะไรให้ฉันฟังหน่อยสิ”

        การกระทำแปลกๆ นี้ทำเอาคนที่เหลือรู้สึกมึนงงไปตามๆ กัน

            แต่คำอธิบายต่อมาของกั๋วกั่วทำเอาคนอื่นอดไม่คล้อยตามไม่ได้ “เฮ้อ อย่าบอกนะว่าพี่หว่านเอ๋อหึงคุณครูซูน่ะ งงจริงๆ เลย คนที่น่าจะหึงควรจะเป็นแม่มากกว่าไหม”

Author Glory Forever