มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 3 ตอนที่ 63 กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง

        หลังจากได้คำตอบเหยียนจิ่งจื้อก็ออกไป ความจริงแล้วคนที่ตามอยู่ด้านหลังก็มีไม่มาก แค่จินเป้ยน่าและบอดี้การ์ดอีกสองคน ต่อมาเวลาพนักงานของตึกเซียงจางนึกถึงเหตุการณ์นี้ก็จะคิดถึงคำที่ว่า “ ยิ่งใหญ่เกรียงไกร”

        บรรยากาศของเหยียนจิ่งจื้อเพียงคนเดียวก็สามารถจัดการกับกลุ่มคนได้ทีเดียวเรียบ

        หลังจากออกจากเซียงจางและกลับมาขึ้นรถ เหยียนจิ่งจื้อก็เริ่มได้รับข่าวจากทุกทาง ข้อสรุปที่ได้ก็คือ หาเนี่ยเซิงเสี่ยวไม่เจอราวกับเธอหายตัวไปในอากาศ

        สุดท้ายเขาก็ได้ข่าวจากคนที่อยู่สายการบินว่า เมื่อสองชั่วโมงก่อนของวันนี้ มีเครื่องบินส่วนตัวบินขึ้นจากสนามบินตะวันตกเฉียงเหนือ เจ้าของเครื่องบินลำนั้นนามสกุลจ้าว

        ตอนที่ฟังคำพูดนี้เหยียนจิ่งจื้อกำลังถือโทรศัพท์เครื่องใหม่ ข้างในยังใส่เบอร์เดิม จินเป้ยน่าบอกว่าโทรศัพท์เครื่องเก่าถูกปาจนใช้ไม่ได้แล้ว โทรศัพท์เครื่องใหม่ใส่ซิมการ์ดเข้าไปแล้ว กลัวว่าถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นคุณเนี่ยอาจจะโทรกลับมา

        คนที่มารายงานบอกว่าบนเครื่องบินมีสี่คน หนึ่งคือกัปตัน อีกหนึ่งผู้ชาย หนึ่งผู้หญิงและยังเด็กอีกหนึ่งคน

        จินเป้ยน่ามองเหยียนจิ่งจื้อปาโทรศัพท์ที่เตรียมเอาไว้ให้เขาโยนออกไปนอกหน้าต่าง และดูท่าว่าจะใช้พลังทั้งหมดในการปา และมันดันไปโดนก้อนหินพอดี จนได้ยินเสียงหน้าจอกระแทกกับพื้นดังเพล้ง แตกกระจาย

        ถึงมันจะเป็นถนนใหญ่เธอก็ยอมวิ่งลงไปเก็บ แต่เมื่อเก็บเสร็จเธอก็พบว่ารถได้ออกไปแล้ว

        ท่านประธานไปทั้งแบบนี้เลย! ทิ้งให้เธออยู่บนเส้นทางเปลี่ยวคนเดียว จู่ๆ จินเป้ยน่าก็รู้สึกว่าเนี่ยเซิงเสี่ยวก็ไม่ได้น่ารักเท่าไรแล้ว

        หลังจากเนี่ยเซิงเสี่ยวมาถึงปารีสก็จามอยู่หลายครั้ง ตอนที่ส่งเหนี่ยวเหนี่ยวเข้าโรงพยาบาลที่ดีที่สุดแล้วเธอก็มองไปยังไฟห้องฉุกเฉินที่สว่างขึ้น เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจยาวของหยางอวี้แม่ของจ้าวหยวนฟางดังจากด้านหลัง เธอถึงได้หันกลับไปพูดขอบคุณหญิงวัยกลางคน “ขอบคุณศาสตราจารย์หยางมากนะคะ ถ้าหากไม่ได้ศาสตราจารย์ทำเรื่องเอาไว้ก่อน เกรงว่าเหนี่ยวเหนี่ยวคงไม่มีทางเข้ารับการผ่าตัดได้ทันเวลา”

        หยางอวี้ตบบ่าของเธอ “ทำเหมือนเราเป็นคนแปลกหน้ากันไปได้ เรียกฉันว่าอะไรนะ?”

        ในวินาทีนี้เนี่ยเซิงเสี่ยวรู้สึกซาบซึ้งน้ำใจเธอ และก็ไม่รู้ว่าเธอมองตัวเองเป็นอย่างไร จึงลองเปลี่ยนคำเรียกว่า “คุณป้า”

        หยางอวี้ได้ยินก็เงียบไป ก่อนจะฝืนพยักหน้ารับด้วยความพอใจ “วางใจเถอะ เด็กคนนั้นไม่มีทางเป็นอะไร หมอที่ทำการผ่าตัดเป็นเพื่อนกับสามีฉัน เขารับผิดชอบต่องานดีแถมยังเชี่ยวชาญด้วย ลูกของเธอจะต้องกลับมายืนมาวิ่งเล่นได้อย่างแข็งแรงแน่นอน”

        เนี่ยเซิงเสี่ยวเมื่อได้รับการปลอบใจก็เบาใจลงไม่น้อย เมื่อเบาใจลงก็กดโทรออกหาเหยียนจิ่งจื้ออีกครั้ง ความจริงแล้วถ้าหากตอนนั้นเธอมีความกล้ามากพอสักหน่อย แล้วดึงเขาออกมาจากงานแถลงข่าวพร้อมบอกเขาว่าลูกชายอาการแย่แล้ว เขาจะยังมีใจแถลงข่าวอะไรพวกนี้อยู่ได้อย่างไร

        แต่เธอรู้สึกว่าตัวเองก็แย่มากจริงๆ พอคิดจะให้ลูกชายมาผ่าตัดที่ปารีสก็มาโดยที่ไม่ได้บอกใครเลยสักคน

        เนี่ยเซิงเสี่ยวเดินไปตรงหน้าจ้าวหยวนฟางแล้วแบมือ “หยวนฟาง ขอยืมโทรศัพท์ของนายหน่อยสิ”

        จ้าวหยวนฟางมองไปที่เธอด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจ “ออกนอกประเทศแล้ว โทรไม่ได้”

        “นายใช้แบบโทรได้ทั่วโลกไม่ใช่หรือ?” เนี่ยเซิงเสี่ยวยังยืนยันที่จะเอา

        จ้าวหยวนฟางทำอะไรไม่ได้ มองไปที่เธออย่างไม่ยินยอม จากนั้นก็ล้วงโทรศัพท์ออกมา “เซิงเสี่ยว…” ในแววตามีความรู้สึกยุ่งยากแฝงอยู่ เนี่ยเซิงเสี่ยวรู้ว่ามันคืออะไร ดังนั้นจึงรับโทรศัพท์มาโดยไม่มองหน้าเขา

        แต่หยางอวี้ที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นการกระทำของพวกเขากลับมองว่าเป็นความสนิทสนมใกล้ชิด ทั้งสองคนเริ่มที่จะใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวกันแล้วล่ะ เธอหัวเราะ เรื่องดีๆ กำลังใกล้เข้ามาแล้ว ย้อนกลับมาคิด ได้หลานชายมาฟรีๆ นั่นก็เป็นเรื่องไม่เลวนะ

        เนี่ยเซิงเสี่ยวโทรไปหาเบอร์ของเหยียนจิ่งจื้อก็พบกับประโยคเดิม

        ขอโทษค่ะ หมายเลยที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง!

        เธอเองก็อยากจะโยนโทรศัพท์ทิ้ง แต่ว่านี่คือโทรศัพท์ของจ้าวหยวนฟาง จะโยนทิ้งไม่ได้ สีหน้าของเนี่ยเซิงเสี่ยวในตอนนี้ค่อนข้างหงุดหงิด ตอนนี้ลูกชายนอนอยู่บนเตียงคนไข้ที่ต่างประเทศ แต่โทรศัพท์ของเขากลับติดต่อไม่ได้ เธอกัดริมฝีปากล่างจนขาว และคิดว่าเขาช่างไม่น่าให้อภัยจริงๆ

        จนกระทั่งในตอนนี้ที่เธอกำลังคิดว่า ถ้าหากเธอถามคำถามนี้กับเขา : ระหว่างชื่อเสียงของเฉินตงกับชีวิตของเหนี่ยวเหนี่ยวนายจะเลือกอะไร?

        เขาจะลังเลไหมนะ

        เมื่อย้อนกลับมาคิดอีกที ถ้าหากเขาลังเลจริงๆ เช่นนั้นก็ไม่ต้องนับเขาเป็นพ่อแล้ว

        ถึงแม้ในใจจะโกรธ แต่ก็รู้ว่ามาที่ปารีสทันทีเลยมันไม่ถูกต้อง เมื่อคิดว่าโทรหาเหยียนจิ่งจื้อไม่ได้ก็โทรไปบอกถงซินแล้วกัน

        เธอคิดแล้วก็โทรออกไป เดิมทีเธอจำเบอร์ของถงซินไม่ได้ แต่ว่ายัยเด็กแสบหัวดื้อมาก บังคับให้เธอจำ พอเธอลืมก็จะไปพูดนั่นนี่กับเหนี่ยวเหนี่ยวว่า ความจริงแล้วพ่อนายหล่อมากบ้างล่ะ แม่นายมันเป็นหญิงใจร้ายบ้างล่ะ สุดท้ายก็เลยต้องจำมันให้ได้อย่างช่วยไม่ได้

        โทรศัพท์ดังอยู่สองครั้ง และไม่ได้ทำให้เธอผิดหวังเหมือนเบอร์ของเหยียนจิ่งจื้อเมื่อปลายสายรับสาย

        “ซินซิน ตอนนี้ฉันอยู่ต่างประเทศ…” พอพูดจบก็พบอะไรแปลกๆ “นั่นใครคะ?”

        “แค่ก…คุณเนี่ยใช่ไหม ตอนนี้ถงซินเธอ อืม กำลังอาบน้ำ”

        เนี่ยเซิงเสี่ยวได้ยินเข้าก็ตกใจ ถ้าหากฟังไม่ผิดมันคือเสียงของหวงเทา!

        ถงซินก็กำลังอาบน้ำอยู่!

        หวงเทาถาม “ถ้าหากคุณเนี่ยมีอะไรจะพูดกับเธอ ผมจะเอาไปบอกเธอให้” เขายังเคารพเนี่ยเซิงเสี่ยวอยู่มาก เหตุผลหลักๆ เลยเป็นเพราะเหยียนจิ่งจื้อ นั่นเป็นอะไรที่ต้องเคารพ

        “อ่อ ไม่ ไม่ต้องหรอก พวกคุณทำธุระกันเถอะ ฉันไม่มีอะไรแล้ว วางสายแล้วนะ” เนี่ยเซิงเสี่ยวรีบวางสายอย่างรวดเร็ว แล้วส่งโทรศัพท์คืนให้จ้าวหยวนฟางด้วยใบหน้าแดงๆ

        จ้าวหยวนฟางรู้ว่าเธอโทรไปหาเพื่อนสนิท เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอแล้วก็อยากจะหัวเราะ สีชมพูบนใบหน้าของเธอเยอะมาก ไม่เหมือนกับสีหน้าขาวซีดตอนร้อนรนเลยสักนิด ที่แท้หลังจากเธอถูกแหย่แล้วจะมีสีหน้าแบบนี้นี่เอง ใจของเขากระตุก “เป็นอะไร?”

        “ไม่ ไม่มีอะไร” เนี่ยเซิงเสี่ยวหันหน้าหนี คนอื่นไม่เข้าใจถงซินแต่เธอกลับเข้าใจ โดยเฉพาะงานอดิเรกแปลกๆ ของถง

ซินเธอเข้าใจดีเลยล่ะ ถงซินเคยบอกเธอว่า “ถ้าหากฉันเตรียมตัวจะยกตัวเองให้กับผู้ชายคนหนึ่ง ฉันก็จะอาบน้ำต่อหน้าเขาเป็นการยั่วยวน”

        เธอในตอนนี้ ไม่ใช่กำลังอาบน้ำต่อหน้าหวงเทาหรือ?

        เนี่ยเซิงเสี่ยวมองไปยังตัวอักษรที่เขียนว่าห้องฉุกเฉินตรงหน้าก็คิดไปว่า ช่างมันเถอะ อย่าไปรบกวนช่วงเวลาความสุขของคนอื่นเลย

        และหวงเทาที่ไปยังมองโทรศัพท์ที่ถูกวางสายไปด้วยความประหลาดใจ พลางคิดว่าปลายสายวางสายไปแบบนี้คงจะไม่มีเรื่องใหญ่อะไร แต่ก็ต้องบอกกับถงซิน จึงเดินเข้าไปใกล้ห้องน้ำ

        “ถงซิน เมื่อครู่คุณเนี่ยโทรมา” พูดจบก็รอคำตอบจากคนด้านใน

        แต่รออยู่นานก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร นอกจากเสียงน้ำไหล ข้างในเงียบฉี่เหมือนไม่มีใครอยู่

        เมื่อครู่จู่ๆ เธอก็นัดเขาออกมา บอกว่าหิวแล้ว เขาก็พาเธอไปกินอาหารตะวันตก และเธอก็ช่างไม่ซื่อสัตย์มากๆ กินไปได้ครึ่งหนึ่งก็มาอยากกินของในจานของเขา จากนั้นก็ต้องป้อนเธอไปคำหนึ่งป้อนตัวเองคำหนึ่ง จากนั้นทุกคนในร้านอาหารตะวันตกก็เห็นผู้ชายร่างสูงหน้านิ่งตักอาหารป้อนเธอจนแก้มป่อง ในตอนนั้นภาพลักษณ์ของเขาก็ถูกเธอทำลายจนหมดสิ้น

        ถงซินยังพูดออกมาได้อย่างมีเหตุผล “คุณจะเก็บภาพลักษณ์เอาไว้ทำไม โปรยเสน่ห์ใส่คนอื่น?”

        หวงเทาครุ่นคิด ก่อนจะคิดว่า ช่างมันเถอะ ภาพลักษณ์ไม่มีแล้วก็ช่างมัน มีถงซินตัววุ่นมาจีบเขาคนเดียวก็พอแล้ว ถ้ามีมากกว่านี้เขาคงประสาทเสียแล้ว

        จากนั้นก็ไปดูหนังรักกัน ในตอนที่หนังเริ่มได้ไม่นานหวงเทาก็เริ่มนั่งไม่ติด ให้ถงซินเอาตั๋วมาให้เขาดู “นี่มันหนังรักหรือว่าหนังอีโรติกกัน?”

        ถงซินหัวเราะด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ เหมือนกับโจรที่จะเด็ดดอกไม้จากกอหญ้าขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะยกดอกไม้ให้ไปเจอกับลม หวงเทารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเหมือนกับดอกไม้ดอกนั้น ที่สะบัดตัวไปตามลม เขายกมือขึ้นมาปิดสายตาวิบวับของเธอไว้ แล้วทำตามการกระทำของพระเอกในหนังโดยการเข้าไปจูบจมูกของเธอ “เธอจงใจ?”

        ถงซินต่อให้ถูกตีให้ตายก็ไม่ยอมรับ “ฉันมันสาวบริสุทธิ์ คุณไม่เชื่อหรือ ถ้าอย่างนั้นพวกเราออกกันไปตอนนี้เลย” พูดแล้วก็ลุกขึ้นยืน

        แต่หวงเทากลับไม่ยอม บรรยากาศดีแบบนี้  บางอย่างในใจของเขาเริ่มจะสั่นไหวแล้ว จะออกไปตอนนี้น่ะหรือ? ล้อเล่นอะไรอยู่ เขาเป็นถึงผู้บังคับบัญชาหวงของบริษัทเฉินตงเชียวนะ

Author Glory Forever