มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 1 ตอนที่ 23 พี่เถี่ยจู้ พี่นี่ลามกจริงๆ เลย

        จ้าวเถี่ยจู้ไม่รู้เรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาของหลีหลิงเอ่อร์ และเขาก็ไม่คิดที่จะถามด้วย เขาได้แต่ประคองหลีหลิงเอ่อร์ไปเรียกรถแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน เมื่อกลับถึงบ้าน หลีหลิงเอ่อร์ก็ไม่พูดอะไรออกมาสักคำได้แต่เดินไปหยิบเสื้อผ้าแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ

        เขากลับมาที่ห้องของตน ถอดเสื้อผ้าที่เปียกออก สะบัดผมที่เปียกเล็กน้อยแล้วหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดผมให้แห้ง เฉาจื่ออี๋ไม่อยู่บ้านอีกเช่นเคย เขาไม่รู้ว่าเธอออกไปไหนทุกวัน ส่วนซูเหยียนหนีก็ออกไปทำงานแล้ว เขาเข้าไปทำกับข้าวไม่กี่อย่างในครัว เมื่อทำเสร็จ หลีหลิงเอ่อร์ก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จพอดี เขาจึงเรียกเธอให้มาทานข้าว หลีหลิงเอ่อร์ที่ตอนนี้กลับมาร่าเริงเป็นปกติแล้ว ทานปีกไก่น้ำโค้กที่เขาทำเข้าไปคำหนึ่งก็พูดชมด้วยรอยยิ้ม “กับข้าวฝีมือพี่เถี่ยจู้เนี่ยใช้ได้เหมือนกันนะคะ

        ก็พอได้ๆ” เขาตอบอย่างถ่อมตัว

        เมื่อทานเสร็จ หลีหลิงเอ่อร์จึงลุกขึ้นแล้วกลับเข้าห้องไป ส่วนเขาเมื่อล้างจานเสร็จก็ขึ้นไปอาบน้ำแล้วเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่ในห้อง ผ่านไปแล้วอีกหนึ่งวัน

        เช้าวันต่อมา ท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใส่ เฉาจื่ออี๋ตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อทำกับข้าวให้กับคนในบ้าน พอเธอทำเสร็จก็ถือกระดาษวาดภาพออกไปฝึกวาดภาพข้างนอก ส่วนซูเหยียนหนีเมื่อสวมเครื่องแบบตำรวจเรียบร้อยก็ออกไปทำงาน จ้าวเถี่ยจู้และหลีหลิงเอ่อร์ก็เรียกรถแท็กซี่เพื่อไปมหาลัย

        วันนี้เป็นวันที่ทุกคนจะต้องไปฝึกทหาร ห้องเรียนจึงเต็มไปด้วยนักศึกษาที่พากันมาแต่เช้า ขาดเพียงคนเดียวเท่านั้นก็คือกัวจิ้ง ซึ่งภายในห้องมีชุดทหารวางเตรียมไว้ให้แล้ว 

        เมื่อเช้ามีคนนำชุดทหารมาวางไว้ให้แล้ว ฟั่นเจี้ยน ขึ้นมาเอาไปแจกหน่อยไป” อาจารย์หลินต๋าสั่งฟั่นเจี้ยน

        ฟั่นเจี้ยนยิ้มอย่างยินดีกับคำสั่งแล้วเดินไปหน้าห้องเพื่อหยิบชุดทหารไปแจกจ่ายให้ทุกคนโดยดูจากใบรายชื่อที่มีไซส์ของแต่ละคนเขียนอยู่

        ทุกคนกลับหอไปเปลี่ยนชุดได้ ส่วนคนที่อยู่ข้างนอกให้ไปเปลี่ยนในห้องน้ำแทนเมื่อแจกครบอาจารย์หลินต๋าก็พูดขึ้นมาอีกรอบ

        จ้าวเถี่ยจู้และหลีหลิงเอ่อร์ต่างก็หยิบชุดของตัวเองแล้วเดินไปเปลี่ยนในห้องน้ำ

        หลังจากเสร็จเขาก็เดินมารอหลีหลิงเอ่อร์ตรงทางเดิน ไม่นานหญิงสาวที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยก็เดินออกมายืนอยู่ตรงหน้าเขา เขามองสำรวจพบว่าความสวยของหลีหลิงเอ่อร์ในตอนนี้มีความกล้าหาญแฝงอยู่ด้วย ต่างแตกจากที่ผ่านๆ มา

        มองอะไร” หลีหลิงเอ่อร์พูดด้วยใบหน้าแดงก่ำ

        เปล่า คิดไม่ถึงว่าหลิงเอ่อร์ใส่ชุดทหารแล้วจะสวยแบบนี้” เขาพูดล้อ

        หลีหลิงเอ่อร์เลิกสนใจเขาทันทีแล้วเดินกลับไปที่ห้องเรียน

        ใช้เวลาไม่นานทุกคนก็เปลี่ยนเป็นชุดทหารหมดแล้วเรียบร้อย อาจารย์หลินต๋าเดินนำผู้ชายในชุดทหารคนหนึ่งเข้ามาในห้อง ที่ไหล่ของชายคนนั้นประดับแถบหนึ่งแถบและดาวสามดวงบอกฐานะกัปตันของตนเอง

        สวัสดีทุกคน ผมชื่อหนิวเหมิง เวลาหนึ่งอาทิตย์ต่อจากนี้ ผมจะเป็นครูฝึกของพวกคุณทุกคน ผมมีกฎอยู่แค่ข้อเดียวเท่านั้น คือห้ามขัดคำสั่งผมอย่างเด็ดขาด” กัปตันคนนั้นพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “สิบนาทีหลังจากนี้ ไปรวมกันที่สนามหญ้า ห้ามไปสายเด็ดขาด ไม่งั้นล่ะก็พวกคุณจะต้องรับผลที่ตามมาเอง” กัปตันคนนั้นพูดจบก็เดินออกจากห้องเรียนไปทันที

        เอาละ พวกเธอไปรวมกันที่สนามหญ้าได้แล้ว วันนี้เป็นวันฝึกวันแรก พวกเธอต้องทำให้ครูฝึกเขาประทับใจในตัวพวกเธอให้ได้ล่ะ” อาจารย์หลินต๋าพูดจบก็เดินออกจากห้องเรียนไปเช่นเดียวกัน   

        จ้าวเถี่ยจู้และหลีหลิงเอ่อร์เดินตามคนอื่นๆ มาที่สนามหญ้าและพบว่าที่สนามหญ้าตอนนี้มีทีมอื่นที่เริ่มฝึกกันไปแล้ว เมื่อเห็นหนิวเหมิงยืนอยู่ที่สนามหญ้าด้วยสีหน้าเย็นชา ทุกคนจึงรีบวิ่งมายืนที่ด้านของเขาทันที

        เรามาเริ่มฝึกท่ายืนพื้นฐานกันก่อนดีกว่า ทุกคน แถวตรง” หนิวเหมิงสั่งเสียงดัง ทุกคนที่เคยยืนคุยกันเงียบเสียงลงแล้วยืนตัวตรงทันที

        อยู่ในท่านี้ครึ่งชั่วโมง” หนิวเหมิงสั่งแล้วทรุดตัวนั่งลงกับพื้นในท่าขัดสมาธิ

        ยืนท่าทหารแบบนี้ครึ่งชั่วโมงเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากลำบากอะไรสำหรับจ้าวเถี่ยจู้ ท่ายืนที่ตรงแนวของเขาทำให้หนิวเหมิงกวาดสายมามองที่เขาอยู่หลายรอบ แต่สำหรับหลีหลิงเอ่อร์นั้น แตกต่างจากเขาลิบลับ เขาดูออกว่าเธอไม่เคยต้องยืนแบบนี้ เพราะเธอยืนได้ไม่ถึงห้านาที ใบหน้าก็เต็มไปด้วยเหงื่อ ร่างกายก็เริ่มไม่มั่นคง

        ยืนดีๆ ห้ามขยับ ถ้าจะขยับต้องรายงานผมก่อน ผมอนุญาตเมื่อไหร่ถึงขยับได้หนิวเหมิงยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

        สีหน้าของทุกคนเริ่มซีดขาว ตอนนี้เป็นเวลาที่พระอาทิตย์กำลังแรงที่สุด แล้วยิ่งเมื่อวานมีฝน อากาศจึงร้อนเป็นพิเศษ

        ยี่สิบนาทีต่อมา เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเป็นลมล้มลงไปที่พื้น หน่วยแพทย์ที่อยู่ข้างสนามรีบเข้ามาดูทันที จากนั้นก็พาหญิงสาวที่เป็นลมใส่เปลนอนแล้วพาไปในร่ม

        สีหน้าของหลีหลิงเอ่อร์ซีดขาวยิ่งกว่าเดิม ร่างของเธอโอนเอนไปนิดหนึ่งก่อนจะกลับมายืนตรงด้วยสีหน้าหนักแน่นเช่นเดิม หนิวเหมิงมองมาที่เธอโดยไม่พูดอะไรออกมา

        อีกห้านาทีต่อมา หน้าของหลีหลิงเอ่อร์ไม่มีสีเลือด เหงื่อออกจนเสื้อผ้าเปียก แล้วทันใดนั้นตาเธอก็เลื่อนลอยแล้วเป็นลมล้มลงไป ขณะที่เธอกำลังจะล้มลงไปที่พื้น เขาก็รีบไปยืนข้างหน้าเธอแล้วพยุงตัวเธอไว้

        ใครให้คุณขยับ” หนิวเหมิงลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งเดินตรงมาหาเขา เขาไม่ได้ขยับ แต่กลับมองไปที่อีกฝ่ายด้วยแววตาดุดันแทน หนิวเหมิงสบกับสายตาดุดันของอีกฝ่ายที่มองมา สายตาแบบนี้เป็นสายตาที่จะเห็นได้จากพวกทหารเท่านั้น ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเสียวสันหลังจนเริ่มมีเหงื่อออกมาตามใบหน้า

        จ้าวเถี่ยจู้ไม่ได้สนใจหนิวเหมิงอีกต่อไป เขาอุ้มหลีหลิงเอ่อร์ที่เป็นลมเดินเข้าไปในร่ม แพทย์ที่อยู่ตรงนั้นรีบเข้ามาดูอาการพร้อมทั้งป้อนยาให้ เมื่อเขาเห็นว่าอาการของหญิงสาวดีขึ้นแล้วจึงหันหลังกลับไปยืนในแถวต่อ

        หนิวเหมิงมองมาที่เขาอย่างลังเลแวบหนึ่ง ชายคนนี้ดูผ่านๆ ก็เหมือนกับนักศึกษาใหม่ทั่วไป แต่ทำไมถึงได้มีแววตาแบบนั้น มือของชายคนนี้คงต้องเคยเปื้อนเลือดมาก่อนแน่ๆ และคงจะไม่น้อยเลยด้วย เขาคิดก่อนจะตัดสินใจว่าจะไม่ยุ่งกับชายคนนี้

        สำหรับจ้าวเถี่ยจู้แล้วมาฝึกทหารก็เหมือนไปวิ่งเล่นนั่นแหละ ไม่มีความท้าทายอะไร ฝึกมาจนถึงตอนเย็น คนในคณะเขาเป็นลมไปสิบกว่าคน แต่ชายอ้วนที่ชื่อฟั่นเจี้ยนคนนั้นกลับทนได้ ทำให้เขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ดีขึ้น เมื่อจบการฝึกในวันนี้เขาจึงเดินไปหาหลีหลิงเอ่อร์ที่จุดพักผ่อน “ไม่คิดเลยว่าร่างกายเธอจะอ่อนแอขนาดนี้” เขาพูดจบหลีหลิงเอ่อร์ก็ทำเสียงขึ้นจมูกใส่เขา ไม่ยอมพูดอะไรออกมา จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป

        หลังจากเดินออกมาจากสนาม เขาก็ได้ยินเสียงรถคันหนึ่งดังอยู่ใกล้ๆ เขา หลังจากนั้นรถยี่ห้อออดี้ Q5 ก็ขับมาจอดที่ด้านข้างของหลีหลิงเอ่อร์ ชายหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งเปิดกระจกลงมา เขาคือชายคนที่มารับกัวจิ้งเมื่อวานนี้เอง “นักศึกษา ให้ผมไปส่งไหม” เขาถามหลีหลิงเอ่อร์

        หลีหลิงเอ่อร์มองไปที่ชายคนนั้นนิดหนึ่งอย่างไม่สนใจ ชายคนนั้นเห็นดังนั้นก็ไม่โกรธกลับถามต่อ “ถ้าไม่สนใจก็ไม่เป็นไร ผมชื่อเฉินเจ๋อ เรียนอยู่ปีสามสาขาธุรกิจ ต่อไปถ้ามีปัญหาอะไรไปหาผมได้ตลอดนะ” ชายคนนั้นพูดจบก็มองมาทางเขาที่ยืนข้างๆ หลีหลิงเอ่อร์ ก่อนจะก้มหัวเล็กน้อยอย่างทักทายแล้วจึงขับรถออกไปด้วยสายตาไม่ยอมแพ้

        หลิงเอ่อร์ เธอนี่มีเสน่ห์เหลือเฟือจริงนะ นี่คนที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย

        ก็แน่สิ” หลีหลิงเอ่อร์หันมาตอบเขาด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ

        ไม่ใช่แค่เสน่ห์เท่านั้นนะ อย่างอื่นก็เหลือเฟือด้วย” เขาพูดแล้วมองไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย

        พี่เถี่ยจู้…

        หืม?”

        พี่นี่ลามกจริงๆ เลย

Author Glory Forever