มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 1 ตอนที่ 28 การต่อสู้แห่งความตาย

        บอดี้การ์ดทั้งห้าจ้องมองมาที่จ้าวเถี่ยจู้พร้อมทั้งหายใจเข้าออกอย่างแรง จ้าวเถี่ยจู้ส่งแรงลงไปที่เท้าจนพื้นยุบตัวแล้วกระโดดไปยืนอยู่ด้านหน้าบอดี้การ์ดคนหนึ่ง เขาโจมตีทีละคนอย่างว่องไว ต้องทำแบบนี้เท่านั้นเขาถึงจะชนะได้

        บอดี้การ์ดคนอื่นๆ เห็นเขาลงมือก็พุ่งเข้าใส่เขาทันที เขาวิ่งออกจากตรงนั้นแล้วส่งแรงไปที่มือขวาก่อนซัดไปที่บอดี้การ์ดที่อยู่ตรงข้าม อีกฝ่ายใช้แขนทั้งสองข้างยกขึ้นมาเตรียมจะป้องกันแต่ไม่ทัน 

        บอดี้การ์ดคนนั้นโดนซัดจนกระเด็นไปไกลหลายเมตรแล้วตกลงพื้น แต่ไม่นานก็ลุกขึ้นมาด้วยแขนข้างหนึ่งที่ห้อยต่องแต่ง แขนหักซะแล้ว ทันใดนั้นบอดี้การ์ดอีกสี่คนก็ใช้ทั้งหมัดและเท้าโจมตีเขาพร้อมๆ กัน เขารีบรวบรวมแรงให้กระจายไปตามตัวเพื่อหลบการโจมตีในครั้งนี้ แต่คู่ต่อสู้ของเขาฝีมือไม่ธรรมดา เขาจึงหลบหมัดและเท้าจากคนได้แค่คนเดียวเท่านั้น สามหมัดและเท้าที่เหลือโดนเขาเข้าไปเต็มๆ ทำให้อวัยวะภายในของเขาบาดเจ็บ

        เขาพ่นเลือดที่ไหลออกมาลงบนพื้น จากนั้นจึงพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วกระโดดข้ามพวกบอดี้การ์ดเหล่านั้นเพื่อไปหาหลีเทียนเฟิง แต่บอดี้การ์ดพวกนั้นอยู่ใกล้หลีเทียนเฟิงมากกว่าจึงวิ่งไปขวางไว้ที่ด้านหน้าของหลีเทียนเฟิงได้ทันท่วงที

        เขายังคงพุ่งตัวไปไม่หยุด โดยมีบอดี้การ์ดสามคนยืนคอยท่าอยู่ และที่ด้านหลังมีบอดี้การ์ดแขนหักและแขนปกติอีกสองคนคอยคุ้มครองหลีเทียนเฟิงๆ เอาไว้

        ทั้งเขาและบอดี้การ์ดทั้งสามพุ่งเข้าหากันจนเดินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงปะทะเมื่อสักครู่ทำให้เขากระเด็นออกมาพร้อมทั้งกระอักเลือดออกมาอีกรอบ ส่วนบอดี้การ์ดทั้งสามก็กระเด็นจนตกลงบนพื้นเช่นเดียวกัน โดยสองในสามคนนั้นแขนถึงกับสั่นไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นยืน ถึงแม้ว่าจะพยายามลุกอยู่หลายรอบก็ตาม

        จ้าวเถี่ยจู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปะทะเมื่อสักครู่ กระดูกของเขาหักอยู่หลายที่ แต่ความเจ็บเหล่านี้ถ้าเทียบกับความแค้นในใจเขาแล้วล่ะก็ มันไม่มีผลอะไรทั้งนั้นแหละ เขาควบคุมการหายใจของตน กดความเจ็บปวดลงไปแล้วเริ่มเคลื่อนไหวด้วยความว่องไวอีกครั้ง

        บอดี้การ์ดที่ตอนนี้เหลืออยู่แค่คนเดียวมองอีกฝ่ายเดี๋ยวไปปรากฏตรงนั้นทีตรงนี้ทีอย่างหวาดกลัว ตอนนี้ความเร็วของจ้าวเถี่ยจู้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว

        ทันใดนั้นจ้าวเถี่ยจู้ก็ปรากฏตัวห่างจากเขาไปไม่กี่เมตร เขาจึงโจมตีอีกฝ่ายทันที แต่กลับถูกอีกฝ่ายใช้ฝ่ามือซัดเข้ามาที่หน้าจนลอยไปไกลแล้วตกลงบนพื้นอย่างหมดสภาพ ถ้าเพียงแต่ตอนที่ล่องหน จ้าวเถี่ยจู้ออกแรงที่มีทั้งหมดก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้มากขึ้น เขาคิดพร้อมทั้งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเลือกให้หน้าของเขาล่องหนเพียงที่เดียว แรงในร่างกายของเขาจะได้สมดุล

        เหลืออีกแค่คนเดียวแล้ว จ้าวเถี่ยจู้มองไปที่บอดี้การ์ดสองคนที่ยังยืนคุ้มครองหลีเทียนเฟิงอยู่ ขณะนั้นเองเลือดก็ค่อยๆ ไหลออกมาจากปากเขา เขาใช้มือเช็ดออกแล้วเดินตรงไปข้างหน้าช้าๆ

        บอดี้การ์ดคนที่แขนไม่ได้หักมองคนที่เดินเข้ามาหาตนอย่างยินดีและรู้ว่าอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บหนักอยู่พอสมควร ไม่คิดเลยว่าตนจะมีโอกาสได้จัดการกับโม่วอิ่ง รอให้คืนนี้ผ่านไปก่อนเถอะ ชื่อของเขาจะกลายเป็นที่จดจำ 

        จ้าวเถี่ยจู้มองบอดี้การ์ดหยิบกริชขึ้นมา เพราะอีกฝ่ายถนัดการใช้กริชเป็นที่สุดแล้ววิ่งเข้าใส่เขา

        เขามองบอดี้การ์ดที่พุ่งเข้ามาหา ตอนนี้สายตาของเขาเริ่มจะเลือนราง เพราะได้รับบาดเจ็บภายในจนกระอักเลือด ร่างกายจึงหลุดออกจากควบคุมของตัวเอง

        เขาขยับตัวหลบเพียงนิดเดียว แต่กริชในมือบอดี้การ์ดก็ยังเฉียดหน้าอกเขาไปอยู่ดี รอยแผลปรากฏขึ้นมาพร้อมทั้งมีเลือดไหลออกมาอีกด้วย

        เขามองแผลของตนอย่างเจ็บปวด นี่เขาไม่สามารถแก้แค้นได้งั้นเหรอ ซือหรู สติของเขาล่องลอยไปไกล

        เขาเหินไปในอากาศออกจากตรงนั้นพร้อมกับมีกริชคาอยู่ที่ท้อง แล้วค่อยๆ เหินลงมาที่พื้น

        บอดี้การ์ดคนนั้นยิ้มอย่างดีใจแล้วหันไปหาหลีเทียนเฟิง “คุณชายหลี โม่งอิ่งถูกผมฆ่าตายแล้ว คุณปลอดภัยแล้ว

        ระวัง” ทันใดนั้นหลีเทียนเฟิงก็ตะโกนขึ้นมา

        บอดี้การ์ดคนนั้นหันกลับไปก็เห็นจ้าวเถี่ยจู้ที่มายืนอยู่ด้านหลังตนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

        แก!!!” บอดี้การ์ดคนนั้นร้องอย่างตกใจราวกับเจอผีก็ไม่ปาน กริชยังคาอยู่ที่ท้องแล้วทำไมถึงยังยืนอยู่ได้

        ดวงตาของจ้าวเถี่ยจู้มีแต่ความเย็นชาขณะที่ยื่นมือออกไปจับคอของอีกฝ่าย เขาออกแรงเพียงนิดเดียว คอของอีกฝ่ายก็หักทันที เขาดึงกริชที่คาอยู่ที่ท้องออก เลือดค่อยๆ ทะลักออกมาจากปากแผล แต่ที่น่าตกใจก็คือเพียงไม่กี่วิ เลือดก็หยุดไหลโดยปริยาย

        ใบหน้าที่ล่องหนของเขาไม่ได้ล่องหนอีกต่อไปแล้ว หลีเทียนเฟิงเมื่อเห็นใบหน้าเขาจึงร้องออกมาอย่างคาดไม่ถึง “แกเองเหรอ!!”

        สีหน้าของเขาไร้อารมณ์ขณะเดินไปหาอีกฝ่ายช้าๆ บอดี้การ์ดที่แขนหักเดินออกมายืนบังด้านหน้าหลีเทียนเฟิงไว้

        แต่เพียงแค่สัมผัสถูกตัวจ้าวเถี่ยจู้เท่านั้น บอดี้การ์ดที่แขนหักก็ต้องกระเด็นลอยไปไกลแล้วตกลงบนพื้นอย่างหมดสภาพ

        เขาเดินอย่างช้าๆ ตรงไปเรื่อยๆ หลีเทียนเฟิงเมื่อเห็นดังนั้นก็ร้องด้วยความตกใจแล้ววิ่งไปที่เฮลิคอปเตอร์ แต่เขาก็รีบตามไปดักหน้าเอาไว้ได้ทัน

        อย่าฆ่าฉันเลย” หลีเทียนเฟิงพูดขอร้องพร้อมทั้งก้าวถอยหลังช้าๆ แล้วล้มลงบนพื้นราวกับมีอะไรเกี่ยวขาเขาไว้ “ตอนนั้นเป็นความผิดฉันเอง ฉันรู้ตัวว่าผิดแล้ว อย่าฆ่าฉันเลยนะ พ่อของผมคือผู้นำของสกุลหลี ถ้านายฆ่าฉัน นายไม่มีทางรอดแน่

        เขาทรุดตัวนั่งลงตรงหน้าหลีเทียนเฟิงราวกับไม่ได้ยินประโยคที่อีกฝ่ายพูด จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือซัดเข้าที่หน้าอกของอีกฝ่าย

        ร่างของหลีเทียนเฟิงจมลงไปในดิน แล้วก็กระอักเลือดออกมา

        ทันใดนั้นดาบเล่มหนึ่งก็ลอยผ่านคอของเขาอย่างเฉียดฉิวแล้วปักลงมาที่ด้านหน้าเขา ทำให้เขาต้องถอยตัวหลบ ชายวัยรุ่นแววตาร้ายกาจคนหนึ่งปรากฏตัวที่ด้านหน้าของหลีเทียนเฟิง หลีเทียนเฟิงกลั้นความเจ็บที่หน้าอกของตนเอาไว้แล้วลุกขึ้นเดินไปหลบหลังชายวัยรุ่นที่มาใหม่ เทียนเต้า ฆ่ามัน!”

        นายคือโม่วอิ่งสินะ” ชายวัยรุ่นดึงดาบขึ้นมาจากพื้นขณะถาม

        เขาไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่มองหน้าของอีกฝ่าย

        นายนี่ทำไมไม่มีมารยาทเลย” ชายที่ชื่อเทียนเต้าเลิกคิ้ว

        เขากระอักเลือดออกมาอีกรอบ แววตาก็เคร่งขรึมขึ้น แล้วทันใดนั้นเขาก็ขยับไปอยู่ที่ด้านหน้าอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

        เทียนเต้าใช้ดาบรับฝ่ามือเขาเอาไว้พร้อมทั้งถอยหลังไปหลายก้าว เขาทำให้อีกฝ่ายถอยหลังไปหลายก้าวเพื่อที่จะซัดฝ่ามือใส่หลีเทียนเฟิง แล้วตามมาด้วยเสียงเหมือนมีสิ่งของอะไรทะลุสักอย่าง

        หลีเทียนเฟิงมองมือที่สอดเข้ามาที่ท้องของตนอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง อีกฝ่ายหมุนมือเพียงนิดก็ดึงลำไส้ของตนออกมา ฝ่ามืออีกข้างซัดเข้าที่ใบหน้าของเขา แล้วหัวของเขาก็ระเบิดทันที

        เทียนเต้ามองอย่างโมโหสุดขีดแล้วถือดาบตรงเข้ามาหาจ้าวเถี่ยจู้ อีกฝ่ายขยับตัวถอยหลังหลบ ระหว่างนั้นก็กระอักเลือดออกมาอีกรอบ ร่างกายก็พลันอ่อนยวบแล้วล้มลงไปกองกับพื้นทันที

        เทียนเต้าเดินตรงเข้าไปหาอีกฝ่าย ไม่พูดอะไรทั้งนั้นก็ยกดาบขึ้นมาเตรียมจะแทงอีกฝ่าย ทันใดนั้นก็มีมือขาวๆ มือหนึ่งซัดเข้าที่ดาบของเขา แรงจากอีกฝ่ายทำให้ทั้งเขาและดาบกระเด็นลอยไปไกล เขาใช้ดาบพยุงตัวลุกขึ้นแล้วมองไปที่อีกฝ่าย แต่กลับเห็นเพียงแสงสว่างที่ส่องออกมาจากตัวอีกฝ่ายเท่านั้น

        ดาบปีศาจ เทียนเต้า” คนที่มาใหม่พูดด้วยน้ำเสียงไม่ดังนัก “เห็นแก่ฝูถู จงไปซะ

        คุณคือ?” เทียนเต้ามองอีกฝ่ายอย่างสงสัย ท่าทางแบบนี้ ลักษณะแบบนี้ เขาเคยเห็นแต่ในตัวของอาจารย์เขา ฝูถู เท่านั้น

        ไปซะ” คนที่มาใหม่พูดจบก็ย่อตัวลง อุ้มจ้าวเถี่ยจู้ที่สลบขึ้นมา “ถ้าเป็นไปได้ ฉันไม่อยากเห็นพลังในร่างกายคุณตื่นขึ้นมาเลย” พูดจบก็อุ้มจ้าวเถี่ยจู้แล้วเดินจากไป เพียงแค่พริบตาก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว

        เมื่อเทียนเต้าได้สติ ทั้งสองคนก็ไม่อยู่แล้ว เขาจึงได้แต่พึมพำกับตัวเอง “มีคนแปลกๆ โผล่ขึ้นมาอีกแล้ว เป็นสาวสวยเสียด้วย ฮ่าๆ น่าสนใจๆ” เขาไม่มองไปที่หลีเทียนเฟิงเลยแม่แต่น้อยก็เดินหันหลังจากไปทันที

        สำนักงานใหญ่ของสกุลหลีที่ยุโรป

        ตายแล้ว?” พ่อของหลีเทียนเฟิงพูดเสียงเบา

        ครับ

        ตายยังไง

        โดนฝ่ามือซัดจนหัวระเบิดครับ

        พ่อของหลีเทียนเฟิงหรือคือผู้นำสกุลหลีในปัจจุบัน หลีหลงป้า ที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นหันไปสั่งงาน “นำร่างของเฟิงเอ่อร์กลับมา แล้วสั่งลงไป ประกาศจับโม่วอิ่งทั้งเป็นและตาย โดยมีหุ้นสกุลหลีเป็นรางวัล ออกไปได้แล้ว

        เมื่อคนของหลีหลงป้าออกไปแล้ว เขาเดินไปซัดโต๊ะทำงานอย่างแรงจนมันพังไม่เหลือชิ้นดี โม่วอิ่ง ฉันจะทำให้แกอยู่เหมือนตายทั้งเป็น!!

Author Glory Forever