มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 2 บทที่ 47 สดุดีมหาราชา

        พลังของ ศพระเบิดรุนแรงมาก แม้แต่อัศวินเกราะดำ หมายเลขสองก็ป้องกันไม่ทันถูกเศษกระดูกเสียบทะลุที่แขนซ้าย หยดเลือดขนาดเท่าหัวแม่มือไหลไม่หยุด และแม้จะรวมพลังไว้บนร่างก็กันไว้ไม่อยู่ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้ใบหน้าเขาก็บิดเบี้ยว ถ้าไม่ได้สวมหน้ากากสีดำไว้ เกรงว่าเหล่าทหารคงได้เห็นใบหน้าที่ซีดเผือกด้วยความเจ็บปวดของเขาแน่

        เขาสับสน ทำไมจู่ๆ ศพพวกนี้ถึงได้ระเบิดออกมา ขบวนทัพก็วุ่นวายขึ้น

        อีกด้าน ซุนเฟยพุ่งเข้ามาโดยไม่รั้งรอ

        เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็เปลี่ยนจาก โหมดเนโครแมนเซอร์เป็น โหมดคนเถื่อนทันที

        พละกำลังมหาศาลก็กลับคืนมา ซุนเฟยคำรามออกมาเสียงดัง ทันใดนั้นพื้นที่เขาเหยียบอยู่ก็เกิดเสียงดังตูม พื้นสะพานหินแข็งๆ ที่อยู่ใต้เท้าเขาก็มีเศษหินกระเด็นออกมา เขาเปิดใช้ทักษะ กระโดดของคนเถื่อน

        หวือ!

        ราวกับว่าภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่านถูกยกขึ้นจากพื้น แสงอาทิตย์สะท้อนเบื้องหลังของซุนเฟยจนเกิดเงาสีดำขนาดใหญ่ กระโดดลอยขึ้นไปกลางอากาศไม่ต่ำกว่าห้าเมตร ราวกับเป็นขนนกที่ไร้น้ำหนัก สามารถลอยข้ามดงหอกมังกรที่เหมือนกับเม่นเหล็กและโล่ที่สูงกว่าสามเมตรได้อย่างง่าย แล้วตกไปอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารเกราะดำที่อยู่หลังโล่

        หาที่ตาย!”

        อัศวินเกราะดำ หมายเลขสอง เห็นศัตรูลอยข้ามโล่เข้ามาโดยที่ไร้อาวุธในมือ ในใจก็เต้นโครมครามอย่างดีใจ เขารู้ดีว่านี่คือโอกาสดี เขาไม่สนบาดแผลที่แขน เร่งโคจรคลื่นพลังอย่างบ้าคลั่งแล้วกระโดดเข้าไป ในมือถือกระบี่ฟันไปทางซุนเฟย

        เขาพยายามใช้กระบวนท่ากระบี่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตนสังหารผู้ชายที่มีพลังแข็งแกร่งคนนี้ให้สิ้นซาก

        อัศวินเกราะดำ หมายเลขสอง มั่นใจมากว่าหากปะทะกันกลางอากาศ คลื่นพลังและความว่องไวของตนเองเหนือกว่าฝ่ายศัตรูมาก ยิ่งไปกว่านั้นศัตรูยังไม่มีอาวุธในมือและยังสวมชุดอัศวินเกราะหนักอีก…พริบตาที่กระโดดขึ้นมา เขามั่นใจว่าอย่างน้อยๆ ด้วยกระบวนท่ากระบี่ของตนเอง สามารถทะลวงชุดเกราะหนักของอีกฝ่ายแล้วแทงทะลุขั้วหัวใจอีกฝ่ายได้

        แต่…

        ไสหัวไป!”

        ซุนเฟยที่ลอยกลางอากาศตะคอกเสียงดัง ก่อนจะเตะกระบี่ที่แทงมาทางตน

        ความตกใจแล่นในดวงตาของอัศวินเกราะดำ หมายเลขสอง เขาจับการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายไม่ได้และเขารู้สึกเหมือนมีฟ้าผ่าจนความเจ็บแปล๊บแล่นไปทั่วร่าง กระบี่ที่ถูกเตะก็หลุดจากมือเขา กระบี่นั่นราวกับฟางข้าวที่ลอยอยู่ท่ามกลางพายุลอยขึ้นลงกลางอากาศ

        ปึก!

        เลือดไหลออกมาจากกลางฝ่ามือของอัศวินเกราะดำ หมายเลขสอง ด้วยแรงเตะนั่นทำให้มือของเขาฉีก

        แต่ฝันร้ายยังไม่จบ

        ไม่รอให้เขาร่วงลงถึงพื้น ซุนเฟยก็ง้างเท้าเตะอีกครั้ง

        ลูกเตะนี้เตะเข้าไปที่กลางอกของอัศวินเกราะดำ หมายเลขสอง เสียงกระดูกหักดังกร๊อบขึ้นมา หน้าอกของเขายุบลงไปกลายเป็นรอยฝ่าเท้าอย่างน่ากลัว ด้วยแรงเตะนี้ทำให้ร่างเขาร่วงลงสู่พื้นเร็วกว่าเดิมในชั่วพริบตา ร่างของเขาชนเข้ากับร่างของเหล่าทหารเกราะดำด้านล่างอย่างแรง ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวน กลุ่มคนก็พากันล้มลงเหมือนโดมิโน…

        อัศวินเกราะดำ หมายเลขสอง ที่โดนลูกเตะนี้ อวัยวะภายในทั้งหมดแตกเป็นก้อนเลือด กระฉูดออกมาทันทีไม่มีโอกาสรอดแม้แต่น้อย ร่างของเขานอนกองกับพื้นไร้ซึ่งเสียงร้องใดๆ เขาตายในทันที

        ดวงตาของเขาเบิกโพลง ในดวงตายังแสดงอาการไม่อยากจะเชื่อ เขายังคิดไม่ออกว่าทำไมนักรบระดับหนึ่งดาวอย่างเขา เพียงถูกลูกเตะเบาๆ ไร้ซึ่งคลื่นพลังใดๆ ของเจ้าคนกักขฬะนี้เข้า ถูกสังหารตายอย่างง่ายดายเหมือนลูกไก่ถูกเหยียบตาย

        แน่นอนว่า หากอัศวินเกราะดำ หมายเลขสอง รู้ก่อนหน้านี้ว่าคนที่ตัวเองกระโดดลอยขึ้นไปขวางกลางอากาศเป็น ‘สัตว์ร้าย’ คนนั้นที่มีพลังสังหารอัศวินเกราะดำนักรบระดับหนึ่งดาวสองคนติดๆ กันเมื่อวาน เกรงว่าปฏิกิริยาแรกที่เขาจะทำคงเป็นหันหลังวิ่งหางจุกตูดและคงไม่โลภอยากจะสร้างผลงานแน่ๆ

        น่าเสียดายที่ชีวิตไม่เคยให้ทุกคนมีโอกาสครั้งที่สอง

        ตอนนั้นคนเถื่อนของซุนเฟยอยู่ในเลเวล 5 ก็สามารถสังหารนักรบหนึ่งดาวได้ในชั่วพริบตา จนตอนนี้เลื่อนเลเวลมาถึงเลเวล 12 แล้วอัศวินเกราะดำ หมายเลขสอง นับเป็นตัวอะไร แค่เขาโบกมือทีเดียวก็สามารถสังหารได้แล้ว

        เมื่อเห็นผู้บัญชาการทหารของตัวเองถูกเตะตายคาที่ เหล่าทหารเกราะดำก็ชุลมุน ซุนเฟยร่อนลงพื้นอย่างมั่นคนกลางกลุ่มทหารเกราะดำ สองมือก็ปรากฏแสงสีขาว แล้วขวานยักษ์คนเถื่อนก็ปรากฏในมือเขาอีกครั้ง

        ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง!

        เขาหมุนกายสามร้อยหกสิบองศาอย่างรวดเร็วจนเกิดพายุขวานขึ้น ข้าศึกและอาวุธชุดเกราะที่อยู่รอบๆ ก็ถูกขวานฟันเละ เลือดกระเด็นไปทั่ว ซุนเฟยหันกายบุกเข้าประชิดพลโล่อย่างรวดเร็วและใช้ขวานจามไปหลายครั้ง เสียงดังปึกๆๆ ใบขวานสะท้อนแสงอาทิตย์จนเป็นแสงสีเงิน หอกมังกรและโล่เหล็กที่ประคองไว้ก็ถูกฟันเละเป็นชิ้นๆ โล่ที่ทำจากเหล็กถึงสามชั้นก็ถูกคมขวานของซุนเฟยผ่าเป็นสองส่วน เศษเหล็กบ้างปลิวว่อนตกอยู่ข้างกาย บ้างก็ร่วงลงในแม่น้ำจูลี่

        ในสายตาของคนส่วนใหญ่ต่างคิดว่าขบวนทัพโล่หอกมังกรเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งและยากที่จะทำลายได้ ซึ่งตอนนี้มันก็ถูกทำลายลงเหมือนขนมปังนุ่มๆ ที่ถูกฉีกไม่ปาน ไม่คาดเลยว่าขบวนทัพที่น่าภาคภูมิใจจะถูกซุนเฟยทะลวงได้ง่ายดายอีกครั้งและถูกทุบด้วยพลังมหาศาลจนฉีกขาด

        ราวกับเป็นสาวงามที่ถูกอันธพาลลวนลามแก้เสื้อผ้า มันไม่ง่ายเลยที่จะดิ้นรนขัดขืนยื้อแย่งเสื้อผ้ามาสวม ภายใต้การจู่โจมของอันธพาลร้ายซุนเฟย สาวงามอย่างพวกเขาคงได้แต่เปลือยกายอย่างไร้ทางสู้

        บุกเข้าไป กวาดล้างพวกมันซะ!”

        ซุนเฟยใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนโหมดของคนเถื่อนและเนโครแมนเซอร์ ทำลายขบวนทัพโล่หอกมังกรที่ทหารเกราะดำตั้งขึ้นมาครั้งที่สองเพียงไม่กี่สิบวินาที การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เหล่าข้าศึกกำลังตกตะลึง เขาก็หันหลังส่งสัญญาณเรียกเหล่านักรบที่อยู่ห่างออกไป เมื่อครู่นี้เขาสั่งให้เหล่านักรบดื่มน้ำที่ผสม น้ำยาฟื้นฟูความแข็งแกร่งเพื่อฟื้นฟูพลังที่เหล่านักรบใช้ในการต่อสู้

        ครืน!!!

        เหล่านักรบทั้งยี่สิบกว่านายวิ่งเข้ามาด้วยชุดเกราะที่หนักกว่าหกสิบเจ็ดสิบจิน (สามสิบกิโลกรัม) ทำให้เกิดเสียงสะเทือนเลือนลั่นราวกับเป็นทหารม้าเกราะหนักกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามา ถ้าทุกคนรู้สึกไม่ผิด เหมือนกับว่าสะพานหินที่พวกเขายืนอยู่มันสั่นสะเทือนและพร้อมจะถล่มลงไปได้ทุกเมื่อ

        เลือดที่ปกคลุมอยู่บนชุดเกราะทั้งยี่สิบกว่าคน ยิ่งทำให้พวกเขาเหมือนปีศาจกระหายเลือดที่มาจากนรก

        เสียงครืนดังขึ้น

        เพียงช่วงเวลาสั้นๆ มหกรรมการนองเลือดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง แขนขาที่หักก็ปลิวว่อนไปทั่ว

        เหล่านักรบพุ่งเข้าไปกลางขบวนทัพทหารเกราะดำที่กำลังวุ่นวาย อาวุธหนักในมือก็เริ่มฟาดฟัน ทหารเกราะดำเหมือนว่าวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเพราะถูกพวกเขาปัดกระเด็นออกจากสะพานจนร่วงลงแม่น้ำและถูกกระแสน้ำเชียวกรากกลืนกิน…

        ซุนเฟยเห็นแบบนี้ก็ไม่ล่าช้าอีกต่อไป ขวานยักษ์ในมือของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคียวมัจจุราช ทุกที่ที่เขาผ่านก็จะว่างเปล่าเหมือนเป็นไม้กวาดกวาดหิมะ กวาดทำความสะอาดเหล่าทหารเกราะดำที่ยืนเต็มบนสะพานให้หมด

        ครั้งนี้ซุนเฟยเพิ่มความเร็วในการจู่โจม

        เพื่อรุดหน้าให้เร็วกว่าเดิม เขาไม่สนใจเหล่านักรบที่อยู่ด้านหลังของเขา เขายังคงระเบิดพลังของคนเถื่อนเลเวล 12 พุ่งเข้าไปทำลายขบวนทัพของทหารเกราะดำ เพียงเสี้ยววินาทีก็สังหารข้าศึกทุกคนที่อยู่ในสายตาจนหมด ส่วนปลาที่หลุดหนีรอดออกจากแหไปได้ก็มอบให้เหล่านักรบด้านหลังเขาจัดการ

        แบบนี้ยิ่งทำให้ความเร็วในการรุดหน้ายิ่งเร็วมากกว่าเดิม

        แต่เหล่านักรบที่อยู่ด้านหลังเขาต้องรับแรงกดดันมหาศาล

        ทหารเกราะดำต่างเป็นทหารมืออาชีพที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี มีประสบการณ์ในการรบนับร้อยครั้ง ทั้งมีบางส่วนที่เป็นยอดฝีมือและสามารถรวบรวมคลื่นพลังได้ ในการต่อสู้ แม้ว่าดาบกระบี่ไม่มีพลังที่สามารถเจาะชุดเกราะเหล็กของเขาได้ และชุดเกราะของเขาก็มีรอยกระบี่ดาบนับไม่ถ้วน แต่แรงกระแทกรุนแรงก็สามารถทำให้ร่างของเขาชาหนึบและสั่นไหวได้ ในไม่ช้า นักรบบางส่วนก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่พวกเขาก็รู้ว่าตอนนี้พวกเขาจะถอยหลังไม่ได้ พวกเขาไม่ได้หวังว่าจะได้สังหารข้าศึกได้มากมาย แต่แค่อยากจะติดตามแผ่นหลังขององค์ราชาอเล็กซานเดอร์เท่านั้น พวกเขาไม่สนใจว่าจะได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด พวกเขากัดฟันแน่นแล้วยืนหยัดสู้

        ซุนเฟยเห็นสภาพแบบนี้

        ในใจก็หอบเล็กน้อย พลังที่ที่ระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่งและเปลี่ยนขวานยักษ์ในมือให้กลายเป็นพายุคมขวานสีเงินไร้ผู้ต้านทาน ท่ามกลางเสียงกระดูกหักและเสียงโลหะกระทบกันดังติ้งๆๆ ทหารเกราะดำที่อยู่รอบๆ ตัวเองก็ถูกเขาสับเป็นละอองเลือด จากนั้นเขาก็ถือโอกาศเปลี่ยนโหมด

        โหมดคนเถื่อนหายไป

        โหมดพาราดินทำงาน

        เพียงพริบตา พลังศักดิ์สิทธิ์สูงส่งก็ลอยออกมาจากร่างซุนเฟยไปคลุมร่างนักรบตามหลังซุนเฟยมาติดๆ ซุนเฟยกระทืบเท้าก็เกิดวงแหวนสีทองกระจายตัวออกจากร่างกาย ทุกที่ที่กลุ่มแสงผ่านพวกก็รู้สึกว่าบาดแผลบนร่างกายได้รับการรักษาให้หายอย่างรวดเร็ว พลังที่ไหล่ผ่านได้ฟื้นฟูรักษาบาดแผลอย่างไม่น่าเชื่อ ความกล้าและความเชื่อมั่นของพวกเขาตอนนี้ก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง

        ทักษะ ภาวนาของพาลาดินทำงาน

        องค์ราชาทรงพระเจริญ!”

        เพียร์ซเห็นฉากนี้ก็รู้สึกร้อนระอุไปทั่วร่าง เขาตะโกนออกมา ค้อนยักษ์ในมือก็ฟาดออกไป เสียงโลหะแตกดัง ‘ปึง’ เหมือนเสียงพลุ ทหารเกราะดำสี่ห้าคนร้องโหยหวนเหมือนหมูถูกเชือดยามที่ถูกเพียร์ซฟาดจนกระเด็นออกไปและล่วงลงบนสะพาน…

        องค์ราชาทรงพระเจริญ!”

        ดิดิเย ดร็อกบาก็ตะโกนขึ้นมาติดๆ เขาใช้แขนซ้ายของตนจับกระบี่ที่ข้าศึกกำลังแทงเข้ามาแล้วมือขวาก็ฟันมันลงไป เสียงลมกรรโชกดังฟู่ ก่อนจะตัดหัวของข้าศึกลอยขึ้นบนท้องฟ้า…

        องค์ราชาทรงพระเจริญ!!!”

        นักรบอีกยี่สิบคนก็พลันตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนจะกลายเป็นเสือร้ายเข้าโจมตีข้าศึกแล้วรุกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พลังการต่อสู้พุ่งทะยานขึ้น แม้แต่พัศดีโอเลเกร์ผู้ขี้ขลาดที่ตามหลังมาอย่างกระวนกระวายใจ ก็ดูเหมือนว่าจะถูกบรรยากาศแบบนี้พาให้ฮึกเหิมเช่นกัน ในที่สุดเขาก็แสดงพลังนักรบหนึ่งดาวของตัวเองออกมา ทวนในมือตวัดฟันไปที่ทหารเกราะดำสามคน

        สมควรตาย ผู้ชายคนนั้นเป็นอัศวิน!”

        เฮ้ย นั่นวงแหวนแห่งสงคราม…พระเจ้า! วงแหวนแห่งสงคราม บทเพลงแห่งชีวิต’”

         “รีบถอยเร็ว…ให้ยอดฝีมือมาจัดการอัศวินคนนี้…สมควรตาย พวกเขามีอัศวินระดับสูงที่ควบคุม บทเพลงแห่งชีวิตได้ กลยุทธ์คลื่นมนุษย์เอามาใช้กับพวกเขาไม่ได้หรอก…”

        วงแหวนสีทองที่อยู่ใต้เท้าของซุนเฟย ทำให้เหล่าทหารเกราะดำพากันร้องเสียงหลง

        ————————-

Author MEMYARMY