มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 1 บทที่ 4 แหงนมอง

        ราตรีกลางทุ่งหญ้านั้นช่างยาวนาน

        เด็กหนุ่มนั่งเฝ้าหีบใบน้อยไว้ ทอดสายตามองเกลียวคลื่นระยิบระยับจากแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์

        น้องสาวของเขาจากไปแล้ว ทว่าเขากลับเก็บเด็กน้อยอีกคนมาได้ ซ้ำยังหน้าตาพริ้มเพรา ทว่าสภาพของนางก็ไม่ต่างน้องสาวของตนนัก หน้าดำอมโรคอย่างที่พ่อบ้านเคยพูดไว้ว่า ใบหน้าหมองคล้ำไปหมดเช่นนี้คงอยู่ได้อีกไม่นาน ก็จริงดังคำว่า น้องสาวของเขาก็จากไปจริงๆ

        เขาอยากจะผนึกหีบนี้แล้วส่งนางลอยกลับไปในแม่น้ำเสีย เพราะลำพังเขาเองยังแทบจะเอาชีวิตไม่รอด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเลี้ยงเด็กใกล้ตายอีกคน ทว่าเมื่อเขาลงมือปิดฝาหีบจริงๆ กลับมีเสียง ร้อง “แง” น้อยๆ แว่วขึ้นมา เสียวแผ่วเบาของนางฟังคล้ายกับเสียงแมว

        เมื่อได้ยินเสียงนั้น มือของเด็กหนุ่มก็พลันชะงักงัน

        หีบน้อยบัดนี้เหลือเพียงช่องว่างเล็กๆ เมื่อมองผ่านช่องว่างนั้นเห็นเป็นดวงตาคู่เล็กคู่หนึ่ง ดวงตาคู่น้อยดำสนิทเป็นประกายราวกับห้วงน้ำในทะเลสาบ ตาคู่นั้นใสเสียจนเด็กหนุ่มเห็นเงาสะท้อนของตนในดวงตานาง

        ดวงตาคู่น้อยนั้นเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา

        เด็กหนุ่มเมื่อเห็นท่าทางของทารกน้อยนั้นช่างคล้ายกับน้องสาวของตนก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงนาง น้ำตากลั้นไว้ค่อยๆ ไหลอาบแก้ม เขาพลันกระชากฝาหีบให้เปิดออก แล้วตระกองทารกน้อยขึ้นจากกล่อง เมื่อเห็นเจ้าก้อนแป้งนุ่มนิ่มในมือดิ้นขลุกขลักไปมา เขาจึงอุ้มนางขึ้นกอดแนบอก พลันเจ้าก้อนแป้งก็ยิ้มน้อยๆ ให้กับตน เด็กหนุ่มมองแสงอาทิตย์อัสดงอาบไล้ใบหน้าเล็กๆ นี้ 

        เขานำผ้าอ้อมของน้องสาวที่ตนไม่อาจตัดใจทิ้งได้มาห่อตัวนางอย่างคล่องแคล่ว แล้วอุ้มนางขึ้นมาผูกติดกับหลังเหมือนที่ตนเคยแบกน้องสาว จากนั้นจึงหันไปจัดการกับหีบใบเดิม เขาเริ่มมัดเชือกพันธนาการมันอีกครั้ง สุดท้ายจึงนำมันกลับไปลอยในแม่น้ำ หีบน้อยเมื่อโดนเด็กหนุ่มออกแรงผลักออกไป ไม่นานก็ค่อยๆ จมดิ่งลงสู่ก้นแม่น้ำอีกครั้ง

        เมื่อทุกอย่างผ่านไป แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงเหมือนดั่งวันวาน เกลียวคลื่นยังสาดซัดกระทบชายฝั่ง ชะล้างทุกร่องรอยที่เคยเกิดขึ้น สาดซัดครั้งแล้วครั้งเล่า รอยเท้าบนผืนทรายของเด็กหนุ่มไม่นานก็ถูกเกลียวคลื่นชะล้างจนผืนทรายกลับมาเรียบขาวดังเดิม

        เด็กหนุ่มแหงนมองฟ้า แล้วเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง

        ทารกน้อยบนหลัง และแสงอาทิตย์อัสดงช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับเขา เขาไม่เหลียวกลับมามองจึงมิได้สังเกตว่า แสงอาทิตย์ที่สาดลงบนตัวนางนั้นราวกับถูกนางดูดกลืนเข้าไปก็ไม่ปาน แต่กระนั้นทารกน้อยก็ยังคงซุกหน้าบนแผ่นหลังของเด็กหนุ่ม หลับใหลต่ออย่างมีความสุข

        บัดนี้เด็กหนุ่มต้องการหางานใหม่เพื่อเลี้ยงชีพ เพราะตอนนี้นอกจากจะต้องเลี้ยงตัวเองแล้ว ยังต้องเลี้ยงน้องสาวอีกคนด้วย น้องสาว…ใช่แล้ว น้องสาวของเขา

        เมื่อคิดได้ดังนั้นเด็กหนุ่มก็ยืดอก กระชับผ้าผูกเอวให้แน่นขึ้นเพื่อบรรเทาความหิวของตน

        หลังจากเดินทางออกจากแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ไม่ต้องแบกหีบไม้หนักๆ อีกแล้ว ซ้ำยังไม่ต้องเดินอ้อม ดังนั้นเมื่อฟ้าเพิ่งจะมืด เขาก็มาถึงทางเข้าตลาดแล้ว เขาจำได้ว่าตลาดแห่งนี้มีนมแพะขาย

        เขาเจอเหรียญเงินอยู่ในหีบของน้องสาวสี่เหรียญ เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดหีบไม้ของนางนั้นก็เป็นหีบไม้เนื้อดี เสื้อผ้าที่นางสวมใส่ก็ล้วนประณีต ไฉนในหีบกลับมีเพียงเหรียญเงินเก่าๆ เพียงสี่เหรียญกับมีดหนึ่งเล่ม

        แต่ถึงอย่างไรมีเหรียญเงินสี่เหรียญนี้ก็ยังดีกว่าไม่มี เพียงรอให้ผ่านคืนนี้ไปก่อน อย่างน้อยก็ยังพอจะซื้อนมแพะให้นางได้

        เด็กหนุ่มนั้นความจำดีมาก ไม่นานก็พบกับร้านขายนมแพะจริงๆ หลังจากต่อรองราคากัน ไม่นานเขาก็ได้นมแพะมากระบอกหนึ่ง แล้วจึงเตรียมหาที่ทางเพื่อพักป้อนนมให้กับน้องสาว ทุ่งหญ้ายามราตรีนั้นอุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็ว เขาจำเป็นจะต้องหากระท่อมหลบหนาวสักแห่ง

        ไม่คาดคิดว่าเพียงแค่หมุนกายก็จะได้เจอกับกลุ่มคนที่คุ้นเคย คนงานของตระกูลต้าปาซือนั่นเอง 

        “หน็อย ไอ้ลู่ เจ้าเด็กสารเลวนี่เอง เจอตัวมันแล้ว”

        “แกนี่อาจหาญนักนะ กล้าขโมยเงินพ่อบ้าน วันนี้แกได้ตายอยู่ตรงนี้แน่”

        “ไอ้ลู่ ทองของจวนต้าปาซือที่หายไป ก็เป็นแกสินะที่แอบขโมย วันนี้แกยอมกลับไปพวกข้าเสียดีๆ เถิด”

        เขาได้ยินดังนั้นก็พลันออกวิ่งดุจติดปีกทันที กระนั้นเขาก็ยังไม่ลืมที่จะถือนมแพะมาด้วย

        เขาขโมยมาแค่เงินของพ่อบ้าน แต่ฟังจากคำคนพวกนี้ก็รู้ได้ว่าต้องการจะโบ้ยความผิดเรื่องทองของตระกูลต้าปาซือที่หายไปให้กับเขาเช่นกัน หากเขายอมกลับไป ไม่แน่ว่าอาจถูกตีจนตาย กระทั่งน้องสาวก็อาจจะติดร่างแหไปด้วย ยิ่งคิดเช่นนี้ก็ยิ่งวิ่งเร็วขึ้นอย่างไม่คิดชีวิต แต่พวกคนงานที่ตามมาก็มีกันมากมายเหลือเกิน ระยะห่างก็จวนจะจับเขาได้อยู่รอมร่อ เห็นทีจะไม่ได้การแล้ว หากเขายังวิ่งวนไปวนมาในตลาดเช่นนี้ ช้าเร็วก็ย่อมถูกจับได้

        เมื่อมองไปทางทุ่งหญ้าที่แสนมืดมิดทางด้านข้าง เขาก็ตัดสินใจกัดฟันกระโดดข้ามรั้ว แล้ววิ่งไปในมุมมืดของทุ่งหญ้าทันที

        ส่วนพวกคนงานที่ไล่ตามมาเมื่อครู่ก็แทบจะจับตัวเด็กหนุ่มได้อยู่แล้วเชียว ไม่คาดคิดว่าเพียงพริบตาจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นจึงพากันยืนอออยู่ริมรั้ว มองเงาของเด็กหนุ่มที่ค่อยๆ หายลับไปในความมืด  

        “จะไล่ตามมันต่อหรือไม่”

        “ท่านพ่อบ้านบอกให้เราฆ่ามันเสียก็สิ้นเรื่องแล้ว นี่มันถึงกับเซ่อซ่าวิ่งเข้าไปในทุ่งหญ้าในคืนฤดูหนาว ถึงอย่างไรมันก็ต้องตาย พวกเราแค่เฝ้าตรงนี้ไม่ให้มันแอบวิ่งกลับมาก็พอ”

        อาลู่นั้นวิ่งเร็วมาก เขาพบว่าบริเวณริมทุ่งหญ้าจะอับแสงกว่ากลางทุ่ง เพราะยิ่งเขาวิ่งเข้ามาลึกเท่าใด ทุ่งหญ้าก็ยิ่งสว่างขึ้นเท่านั้น ซ้ำดวงจันทร์กลางทุ่งหญ้านั้นดูจะกลมกว่าที่อื่นเสียอีก ในที่สุดเขาก็หยุดวิ่ง เขาวิ่งมาไกลจนได้ยินเพียงเสียงหายใจของตนเอง แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตนอยู่ที่ใด 

        อาลู่เริ่มหวั่นใจ เขารู้ดีว่าทุ่งหญ้านั้นไม่อาจเข้ามาตอนกลางคืน ในวันปกติที่เขาเคยต้อนแกะมานั้นก็ล้วนมีคนอื่นมาเป็นกลุ่ม ซ้ำยังกลับก่อนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า

        “เอิ๊ก” เด็กน้อยบนหลังส่งเสียงเบาๆ ทำให้สติของเขาแจ่มชัดขึ้นทันใด ตอนนี้ไม่ใช่เวลามากลัว บนหลังเขายังแบกน้องสาวไว้อีกคน

        พระจันทร์กลางนภาวันนี้ดูจะสว่างเป็นพิเศษ

        อาลู่หาเนินดินเล็กๆ ไว้หลบลม แล้วจึงเร่งเก็บหญ้ามาสุมไว้ จากนั้นจึงใช้หินเหล็กไฟกะเทาะกันเพื่อจุดไฟ เมื่อกองหญ้าตรงหน้าเริ่มมีไฟลุกโชน ก็เกิดเสียงเปาะแปะจากประกายไฟที่กำลังแผดเผา

        เด็กหนุ่มค่อยๆ นั่งลงบนพื้น บัดนี้รู้สึกเพียงว่าตนนั้นทั้งเหนื่อยทั้งกระหาย ซ้ำยังปวดเมื่อยไปทั้งกาย

        เขาค่อยๆ วางห่อผ้าอ้อมน้อยลงอย่างเบามือ ใต้แสงจันทร์ เด็กน้อยนอนลงอย่างว่าง่ายไม่งอแงสักนิด อาลู่หยิบกระบอกนมแพะออกมา คิดในใจว่ากระบอกนี่ช่างแข็งแรงเสียจริง นมแพะไม่มีกระฉอกออกมาแม้แต่หยดเดียว

        จากนั้นเขาจึงดึงฝาที่ปิดอยู่ออก แล้วค่อยๆ จ่อปลายกระบอกไม้ไปที่ปากของทารกน้อย แล้วนั่งดูนมแพะค่อยๆ ไหลเข้าปากนางทีละนิด เห็นลำคอน้อยๆ ค่อยๆ ขยับกลืนนมแพะอึกๆ อย่างเอร็ดอร่อย อาจเป็นเพราะนางหิวมาก ทำให้ดื่มไวเกินไปจนสำลัก นมแพะเลอะใบหน้าเล็กๆ เป็นวง อาลู่กุลีกุจอรีบเช็ดหน้าน้องสาวด้วยความตกใจ จากนั้นจึงลองเอามือจุ่มนมแพะขึ้นมาชิม พบว่ารสชาติของขมแพะนั้นคาวเล็กน้อย ผสมรสเค็มๆ แต่ก็หวานด้วยเช่นกัน

        ข้างกองไฟ หนึ่งเด็กชาย หนึ่งทารก

        ใต้ดวงดารา หนึ่งทุ่งหญ้ากว้าง หนึ่งกองไฟ

        ทารกน้อยหลังจากดื่มนมแพะไปครึ่งกระบอกก็หยุดดื่ม แล้วเปลี่ยนไปนอนแผ่อย่างมีความสุข มือน้อยๆ จับนิ้วเท้าเล่นไปมา อาลู่เมื่อเห็นนมแพะที่เหลือก็ได้แต่กลืนน้ำลาย ก่อนจะตัดใจปิดฝากลับดังเดิม

        เขาหิวเหลือเกิน

        ทันใดนั้นทางกอหญ้าก็มีเสียงสวบสาบดังมา อาลู่รีบเอาน้องสาวมาหลบหลังตน แล้วลุกขึ้นแอบดู ในมือถือก้อนหินเตรียมพร้อม ก่อนจะทุบออกไปเต็มแรง จึงพบว่าใต้ก้อนหินแท้จริงแล้วคืองูตัวหนึ่งที่กำลังดิ้นทุรนทุราย หลังจากดิ้นขลุกขลักอยู่พักหนึ่งจึงแน่นิ่งไป อาลู่เมื่อรอจนแน่ใจว่างูไม่มีความเคลื่อนไหวแล้ว จึงเดินไปดู แล้วหยิบงูขึ้นมาด้วยท่าทางเบิกบาน เขาคิดในใจว่าวันนี้มีอาหารเย็นแล้ว

        เริ่มจากตัดหัวงูที่ถูกทุบจนแหลกออก จากนั้นจึงเริ่มถลกหนังมันด้วยมีดสีดำเล่มน้อย มีดเล่มเล็กนี่ไม่น่าเชื่อว่าจะคมขนาดนี้ จากนั้นจึงผ่าปล้องไม้แล้ววางเนื้อลงไป แล้วย่างไฟ ขณะที่เนื้อใกล้สุกก็เหลือบไปเห็นต้นเสียนเฉ่า จึงนำมาคั้นน้ำใส่ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ

        อาลู่เฝ้าน้องไปพลาง ย่างเนื้องูไปพลาง ทารกน้อยเมื่อเห็นว่าตนถูกกันออกมาอยู่อีกมุม ร่างน้อยๆ ที่นอนคว่ำอยู่ก็พยายามจะแหงนหน้ามองพี่ชายตนเสียให้ได้ หลังจากพยายามอยู่ครู่หนึ่งจนเริ่มเหนื่อยจึงส่งเสียงอ้อแอ้ทีหนึ่งก่อนจะวางหัวตกลงไปนอนตามเดิม ซ้ำยังพยายามจะพลิกตัวอย่างน่าขัน เด็กหนุ่มเห็นดังนั้นก็หัวเราะด้วยความขบขัน คิดว่าน้องสาวของตนช่างน่ารักเสียจริง

        ผ่านไปเพียงครู่หนึ่ง นางก็พยายามจะแหงนหน้าขึ้นอีกครั้ง

        ประจวบเหมาะกับตอนที่เนื้องูของเขาย่างสุกพอดี เขาออกแรงกัดเนื้อคำโต เนื้อทั้งหอมทั้งอร่อย กินไปก็เห็นทารกน้อยค่อยแหงนหน้าขึ้นสูงอีก เขาจึงกัดเนื้องูออกมาคำหนึ่ง ค่อยๆ เคี้ยวจนละเอียดแล้วป้อนใส่ปากของนาง หลังจากเขาเห็นว่านางกลืนมันลงไปจริงๆ จึงอุ้มนางขึ้นมากอดไว้ในอ้อมแขน จากนั้นจึงผลัดกันกิน เขาป้อนนางคำหนึ่ง ตนเองก็กินคำหนึ่ง เนื้องูหนึ่งตัวแบ่งกันกินสองคน ในใจของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ไม่รู้ว่ามาจากทารกน้อยในอ้อมอก หรือเนื้องูตัวนี้กันแน่

        “บรู๊วว……” เสียงมาหมาป่าแว่วมาไกลๆ

        อาลู่รีบกระชับทารกน้อยเข้าสู่อ้อมกอด พิงเนินดินแล้วแหงนมองฟ้า ดวงดาราดารดาษไปทั่วฟ้า ช่างงดงามหาใดเปรียบ ทารกน้อยในอ้อมอกก็กำลังแหงนมองดวงดาว บัดนี้ดวงตาของนางก็ถูกแต่งแต้มไปด้วยหมู่ดาวเหล่านั้นเช่นกัน

Author Jinovel