มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 5 บทที่ 135 พบกันโดยบังเอิญ

         แม้มีแพรผ้าขาวปกคลุมใบหน้า ทว่าเมื่อมู่ชิงเฉิงเดินในตลาดใหญ่ของซางไห่ กลับยังคงดึงดูดสายตาผู้คนไว้ไม่รู้มากเท่าไร หลินโม่ที่กำลังจับมือดุจหยกนั้นกลายเป็นเป้าหมายของสายตาริษยานับไม่ถ้วน

        ข้าไม่ได้ออกมาข้างนอกเองนานแล้ว

        หลังจากออกมา มู่ชิงเฉิงเปลี่ยนไปกลายเป็นคนละคนอย่างไรอย่างนั้น ไม่คงความเรียบหรูอ่อนโยนดังก่อนหน้าอีกต่อไป กลายเป็นคนกระฉับกระเฉงขึ้น โดยเฉพาะยามยกยิ้ม ดวงตาจะโค้งเหมือนดวงจันทร์เสี้ยว พร้อมเสียงหัวเราะใสดุจกระดิ่งเงิน น่าฟังเกินใคร

        เจ้าแอบออกมาจากหอเศษดาราหรือ?” จู่ๆ หลินโม่ก็ถามขึ้น

        เจ้ารู้ได้อย่างไร?” มู่ชิงเฉิงมองหลินโม่อย่างตกตะลึง

        เพราะก่อนหน้านั้นข้าเองก็เคยแอบหนีมาเช่นกันน่ะสิ” หลินโม่หัวเราะ อีกทั้งการแอบหนีออกมาก็มิได้มีแค่ครั้งสองครั้ง บ่อยครั้งที่ดื้อรั้นจนทำผิดก็ถูกพ่อบุญธรรมหลินอี้ป๋อกักบริเวณ คราแรกที่แอบหนีออกมาก็มีสภาพเช่นนี้เหมือนกัน

        เอ๋? เจ้าก็เคยหนีออกมา? รีบบอกมานะ ก่อนหน้านี้เจ้าหนีมาอย่างไร?” มู่ชิงเฉิงกะพริบตาปริบๆ มองหลินโม่ด้วยความแปลกใจ

        จากนั้น หลินโม่จึงเล่าเรื่องวัยเด็กที่ตนดื้อรั้นจนโดนกักบริเวณ พร้อมคิดหาสารพัดวิธีแอบหนีให้มู่ชิงเฉิงฟัง โดยเฉพาะตอนที่หนีออกมาได้แล้วเจอเรื่องน่าสนใจอะไรบ้าง ทำเอามู่ชิงเฉิงสนใจจนเอ่ยถามไม่หยุด

        ไม่รู้ว่าท่านพ่อเป็นอย่างไรกันบ้าง…” หลินโม่ลอบถอนหายใจ

        แม้ตระกูลหลินจะปฏิบัติกับเขาอย่างธรรมดา ทว่าพ่อเลี้ยงหลินอี้ป๋อกลับปฏิบัติกับหลินโม่ไม่เลวเลย อีกทั้งคนตระกูลหลินบางคนก็มีสัมพันธ์อันดีกับเขา

        ในที่สุดหลินโม่ก็ล่วงรู้สถานะบุตรบุญธรรมของตน ทว่าเขาก็เติบโตมาในตระกูลหลิน วัยเด็กของเขาใช้ไปกับตระกูลหลิน มันเป็นช่วงเวลาที่ไร้ซึ่งความกังวลที่สุดในชีวิต ดังนั้น ชั่วเวลานั้นหลินโม่จะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต

        ครั้นรู้สึกถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยของหลินโม่ มู่ชิงเฉิงจึงจับแขนชายหนุ่ม หลินโม่หันกลับมาพอดีกับที่มู่ชิงเฉิงเงยหน้าขึ้น ทั้งสองสบตากันพลันหัวเราะอย่างรู้ใจกันและกัน และไม่เอ่ยถึงเรื่องน่าเจ็บปวดอีกต่อไป

        นี่ก็เวลามืดค่ำแล้ว ข้าจะไปส่งเจ้ากลับเอง” หลินโม่มองสีท้องฟ้าพลางเอ่ย

        อืม!

            มู่ชิงเฉิงพยักหน้าเบาๆ  สายตาฉายแววตัดใจไม่ลงเล็กน้อย แต่ก็ยังตามหลินโม่ไปยังหอเศษดาราพร้อมกันอยู่ดี

        ระหว่างที่ทั้งสองเดินทางก็พูดคุยหัวเราะกันอยู่เสมอ ก่อนจะเดินอ้อมทางเลี้ยวบนถนนใหญ่ไป

        เวลานั้น บนถนนทางตรงมีชายชราตนหนึ่งพร้อมเด็กสาว ทั้งสองอยู่ในชุดเก่าๆ โทรมเกินบรรยายพร้อมมีบาดแผลตามตัวอย่างเห็นได้ชัด เด็กสาวเบะปาก ดวงตารื้นน้ำตา ท่าทางดูไม่ยินยอมอะไรทั้งสิ้น

        ลุงสาม ไหนบอกว่าจะเข้าไปหาพี่ใหญ่ ไยท่านถึงได้เปลี่ยนใจอีก” หลินเสวียนเอ๋อร์เอ่ยอย่างไม่พึงใจ

        ใบหน้าของหลินอี้เสียนเดี๋ยวซีดเดี๋ยวแดง ไม่รู้ควรจะเอ่ยปากเช่นไร

        เมื่อเดินถึงหน้าประตูใหญ่ของตระกูลเชียนเย่ เขาก็หยุดฝีเท้าพลางคิดได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตระกูลเซียวเป็นตระกูลเก่าแก่ของซางไห่ แม้แต่ผู้คุมระดับบำเพ็ญยังสูงกว่าเขาทั้งสิ้น ไหนเลยจะเข้าพบประมุขตระกูลเก่าแก่ได้ง่ายและราบรื่นเช่นนี้

        หลินอี้เสียนผู้ซึ่งขี้สงสัยโดยสันดาน ทั้งนิสัยยังขี้ขลาดไปบ้าง ท้ายสุดจึงปล่อยมือจากความคิดนี้ไป

        เด็กดี อย่าโวยวายเลย เรารีบคิดหาวิธีอื่นกันเถอะ” หลินอี้เสียนปลอบใจหลินเสวียนเอ๋อร์พลางลากนางเดินไปเบื้องหน้า

        ไม่! ข้าอยากเจอพี่ใหญ่” หลินเสวียนเอ๋อร์ไม่ยอมทันที

        ยัยหนูนี่นะ ไฉนถึงดื้อเช่นนี้หลินอี้เสียนทำหน้าขรึม

        ลุงสาม ดูสิข้างหน้านั่นใคร” หลินเสวียนเอ๋อร์ชี้ไปด้านหน้าพร้อมสีหน้าแปลกใจ

        หลินอี้เสียนเผลอหันตามไป คิ้วพลันขมวดเป็นปมเสียไม่ได้ ตรงนั้นมีคนอะไรที่ไหนกัน ทันใดนั้นก็รู้สึกคลายที่ฝ่ามือ เสียงกรีดร้องย่ำแย่ดังขึ้นในใจทันที หลินเสวียนเอ๋อร์หลุดออกจากมือและวิ่งหนีไปแล้ว

        ยัยหนู เจ้าอย่าวิ่งไปเรื่อย…” หลินอี้เสียนรีบตะโกนยั้ง

        ยังไม่ทันสิ้นเสียง เด็กสาวก็วิ่งชนใส่ชายหนุ่มคนหนึ่ง ชั่ววินาทีที่ชุดแพรสีขาวทองเปื้อนด้วยคราบเลือดและฝุ่นแดง ชายคนนั้นก้มมองชุดที่เปรอะเปื้อนคราบเลือดก่อนจะชะงักค้างและมีสีหน้าเคร่งขรึมลงในเวลาต่อมา

        ขอทานจากไหนกัน กล้าทำชุดนายน้อยผู้นี้สกปรก” ชายหนุ่มคว้าหมับเข้าข้อมือหลินเสวียนเอ๋อร์

        อ๊า…เจ็บนะ… หลินเสวียนเอ๋อร์ตะโกนด้วยความเจ็บ

        เมื่อเห็นใบหน้าหลินเสวียนเอ๋อร์ที่น่ารักงดงามและรวมถึงส่วนเว้าโค้งของร่างกาย ชายหนุ่มตาสว่างวูบทันใด ก่อนจะเลียมุมปากอย่างลืมตัว

        นายน้อยท่านนี้ ขออภัยจริงๆ ขอรับ เด็กน้อยไม่รู้ความ ขอนายน้อยโปรดอย่างถือสา ประเดี๋ยวชุดนี้พวกเราจะชดใช้ให้” หลินอี้เสียนรีบวิ่งเข้ามาอ้อนวอนขอร้องชายหนุ่ม

        ชดใช้? เจ้าจะชดใช้อย่างไร?

        อาภรณ์ของนายน้อยกัวราคาทองพันชั่ง เจ้าจะเอาอะไรมาชดใช้?” หนุ่มสาวที่เหลือเดินเข้ามา พวกเขาแต่งเนื้อประดาตัวด้วยชุดหรูหรา ทั้งยังมีบางคนที่ปลดปล่อยพลังเจินหยวนเข้มข้นสุดขีดอย่างลืมตัว

        หลินอี้เสียนหน้าซีดไปทันใด บรรดาหนุ่มสาวพวกนี้การบำเพ็ญที่ด้อยที่สุดคือระดับหลอมปราณขั้นท้ายทั้งนั้น กระทั่งบางคนอาจบรรลุถึงระดับสร้างฐานรากแล้ว แม้นตัวเขามาอีกสิบคนก็ไม่มีทางต่อกรกับคนกลุ่มนี้ได้แม้แต่น้อย

        นายน้อยกัว เด็กน้อยไม่รู้ความจริงๆ โปรดทุกท่านอย่าได้ถือสานางเลย” หลินอี้เสียนทำได้เพียงร้องวิงวอนอย่างลำบาก

        พวกเจ้าไม่มีเงินติดตัว นายน้อยก็จะไม่คิดบัญชีพวกเจ้าก็แล้วกัน เงินไม่ต้องจ่ายก็ได้” นายน้อยกัวหรี่ตากล่าว

        ขอบคุณนายน้อยกัว” หลินอี้เสียนมองด้วยความดีใจสุดขีดพลางรีบก้มขอบคุณนับครั้งไม่ถ้วน

        เงินไม่ต้องจ่าย แต่นางต้องเป็นค่าชดใช้ เจ้าไสหัวไปได้แล้ว” นายน้อยกัวโบกมือกว้าง

        ลุงสาม ข้าไม่อยากไปกับเขา…”  หลินเสวียนเอ๋อร์เอ่ยด้วยน้ำตา

        นายน้อยกัว…

        หลินอี้เสียนกำลังจะเอ่ยปาก ทันใดนั้นพลันมีฝ่าเท้าของชายหนุ่มคนหนึ่งถีบเข้ามา กระแทกอกเขาอย่างหนักหน่วงรุนแรง ทำเขากระเด็นไปกลิ้งบนพื้นหลายตลบถึงหยุดลง

        ความเจ็บปวดแล่นพล่าน หลินอี้เสียนอยากลุกขึ้นมา ทว่าแรงฝ่าเท้านั่นหนักเกินไป ถีบรุนแรงจนเขาแทบยืนทรงตัวไม่ได้

        ลุงสาม…

        หลินเสวียนเอ๋อร์ตะโกน ทว่ากลับถูกนายน้อยกัวและคนอื่นลากตัวไปข้างหน้า

        เสวียน…เสวียนเอ๋อร์…

        หลินอี้เสียนที่นอนบนพื้นพยายามจะยืนขึ้นอย่างสุดแรง ทว่าเพราะฝืนใช้แรงมากไป เลือดที่คั่งค้างในคอจึงกระอักออกมากองโต เขายื่นมือไปแต่อย่างไรก็มิอาจไขว่คว้าเอื้อมถึง จึงทำได้เพียงมองหลินเสวียนเอ๋อร์ถูกลากไปต่อหน้าต่อตา

        เมื่อได้ยินเสียง เหล่าผู้ฝึกตนจึงรีบทยอยเข้ามาดูเรื่องบันเทิง ครั้นเห็นฉากนี้สายตาที่มองชายชราก็เต็มไปด้วยความเห็นใจ

        เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในซางไห่ได้ทุกวัน ไม่มีใครยื่นมือยุ่งเรื่องแบบนี้ อย่างไรเสียหนุ่มสาวกลุ่มนั้นก็เป็นทายาทตระกูลใหญ่ต่างๆ ที่ฐานะไม่ธรรมดา หากเข้ายุ่งแล้วยั่วโทสะขึ้นมานั่นเท่ากับแกว่งเท้าหาเสี้ยนซะเอง

        เสวียนเอ๋อร์…

        หลินอี้เสวียนน้ำตาไหลพรากเป็นทาง ใช้เรี่ยวแรงที่มีทุบพื้นพลางโทษตัวเองที่ไร้ประโยชน์ ปกป้องไม่ได้แม้แต่หลินเสวียนเอ๋อร์

        ไม่ไกลตา หลินโม่ที่กำลังเดินบนทางอีกเส้นพลันยั้งฝีเท้าลง

        เป็นอะไรหรือ?” มู่ชิงเฉิงมองชายหนุ่มอย่างฉงนใจ

        เมื่อครู่เหมือนข้าจะได้ยินชื่อคุ้นหู…” หลินโม่ขมวดคิ้วแน่นพลางตั้งใจฟัง ทว่าก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆ ดังมาจึงส่ายหัวอย่างปลดปลง “คงหูฝาดไป

        เอ๋? ตรงนั้นมีคนมุงมากมาย เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเปล่า?” นิ้วเรียวมู่ชิงเฉิงชี้ไปยังถนนอีกเส้น คนมากมายรวมตัวอยู่เต็มบริเวณล้อมวงเข้ามุงด้วยกัน

        ไม่รู้สิ เราไปต่อกันเถอะ” หลินโม่บอกมู่ชิงเฉิง เขาเป็นพวกไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นมาตั้งแต่เด็กแล้ว

        เสวียนเอ๋อร์…ลุงสามมันไร้ประโยชน์…ปกป้องเจ้าไม่ได้…” เสียงตำหนิกล่าวโทษตัวเองแหบแห้งดังขึ้นใจกลางวง มันเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดและเจ็บปวดเสียใจ

        หลินโม่ที่กำลังจะหันกลับชะงักเท้าไปทันที ก่อนจะเร่งฝีเท้าพุ่งไปอย่างรวดเร็ว พลังเจินหยวนระดับกำเนิดแตกฉานซ่านเซ็นทั่วร่าง ทำให้ผู้คนที่ขวางทางนั้นถอยหลีกไปเป็นแถว

        จู่ๆ หลินอี้เสียนที่หมอบราบบนพื้นพลันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังเจินหยวนมหาศาลโถมเข้ามา เขาหันไปอย่างลืมตัว วินาทีที่เห็นชายหนุ่มพุ่งตัวลงมาเบื้องหน้าก็สะท้านแข็งทื่อไปทั้งตัว

        ลุงสาม ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?” หลินโม่เอนกายลงสอดมือพยุงแขนหลินอี้เสียนเพื่อพยุงกายเขาขึ้น

        หลินโม่?

        หลินอี้เสียนมองหลิมโม่อย่างตื่นตะลึง ดวงตาเบิกค้างเท่าไข่ห่าน โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังเจินหยวนระดับกำเนิดมหาศาลที่หลินโม่ไม่ทันเก็บอำพรางแล้ว เขาก็ยิ่งไม่เชื่อสายตาตัวเอง

        กะพริบตาปริบๆ  หลินอี้เสียนขยี้ตาตัวเองครู่หนึ่งถึงตระหนักได้ว่าตนมิได้ฝันไป

        เร็วเข้า ช่วยเสวียนเอ๋อร์ที นางถูกพาตัวไป” หลินอี้เสียนละล่ำละลักตะโกน

        ชิงเฉิง เจ้าช่วยข้าดูแลลุงสามที เดี๋ยวข้าจะกลับมา” เมื่อพูดจบ หลินโม่พลันเคลื่อนไหว ชั่วพริบตาก็หายไปจากตรงนั้น

        ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?” มู่ชิงเฉิงเดินเข้ามาพลางประคองหลินอี้เสียน

        แม้อยู่ใต้แพรผ้าขาว ทว่าดวงตาดุจประกายดาวที่เผยให้เห็นคู่นั้นทำให้หลินอี้เสียนตะลึงค้างไป เขาถอยไปหนึ่งก้าวอย่างลืมตัว หญิงสาวเบื้องหน้างดงามดุจเทพตกสวรรค์ เขากลัวว่าคราบสกปรกบนตัวของตนจะเปรอะเปื้อนกายหญิงสาวเข้า

Author Glory Forever