มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 6 ตอนที่ 168 : โลกใต้ปฐพี

        กันหลิงต้องเสียพลังไปมากเพื่อทำลายผนึกนี้ เห็นได้ชัดว่าของที่อยู่ข้างในนั้นจะต้องล้ำค่ามากเป็นอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นจอมยุทธ์โบราณคงไม่ผนึกที่นี่ไว้แข็งแกร่งขนาดนี้แน่

        สายตาของกันเหยากวาดมองพื้นที่เล็กๆ ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกตะลึง ความกว้างของมันราวๆ ยี่สิบสองตารางเมตรเท่านั้น ทั้งที่พื้นยังเต็มไปด้วยฝุ่น เศษหินแตกกระจายเต็มทั่วบริเวณ

        เต้าหลิงโบกฝ่ามือไปมาตรงหน้าของนาง ฝ่ามือเล็กจับแขนที่แข็งแรงของเขาเอาไว้ ใบหน้าสวยเริ่มกลายเป็นสีแดงก่ำ ก่อนจะออกแรงบีบฝ่ามือเล็กนั้นแล้วแผดเสียงคำรามลั่นว่า “บอกข้ามาเดี๋ยวนี้ เจ้าแอบย่องเข้ามาเอาของล้ำค่าไปใช่หรือไม่!”

        เด็กสาวขบฟันกรอดด้วยความโกรธพลางเม้มริมฝีปากแดงสด ท่าทีของนางเหมือนกับจะกลืนกินเขาเข้าไปทั้งร่างอย่างไรอย่างนั้น

        “อย่ามาใส่ร้ายข้าสิ เจ้าลองดูรอบๆ ข้างในนั้นเหมือนกับคลังสมบัติอย่างนั้นหรือ ดูอย่างไรก็เหมือนกับถ้ำของจอมยุทธ์พเนจร” เต้าหลิงยักไหล่แล้วฉีกยิ้ม “เหมือนว่าพวกเราจะมาเสียเที่ยวเสียแล้วสิ”

        หัวใจที่ร้อนรุ่มของกันเหยาค่อยๆ สงบลง ทว่านางยังคงมองเต้าหลิงด้วยสายตาที่ดูไม่ดีเท่าไรนัก “ทำไมข้าต้องเชื่อคำพูดของเจ้า? เจ้าโลภมากเสียขนาดนั้น จะต้องแอบย่องเข้ามาเอาของล้ำค่าข้างในนี้ไปแน่ๆ บอกข้ามาเสียว่าเจ้าเอาอะไรไป?

        “ข้าไม่ได้เอาอะไรไปจริงๆ มีแค่ซากโครงกระดูกเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดอยู่แล้ว” เต้าหลิงแกะฝ่ามือเล็กที่บีบแขนของเขาออกพลางกล่าว

        “ในที่สุดเจ้าก็ยอมรับแล้วสินะว่าแอบเข้ามา แล้วยังจะมาหลอกข้าอีก!” กันเหยากระทืบฝีเท้าลงพื้นด้วยโทสะ พลังมหาศาลกวาดออกไปรอบๆ กระดูกสีทองที่ใกล้จะสลายลงไปทุกทีไม่อาจทนรับพลังความโกรธของเด็กสาวได้ ทันใดนั้นมันก็แตกสลายกลายเป็นฝุ่นผง

        หัวใจของเต้าหลิงสั่นไหว ในขณะที่กำลังจะแก้ตัวนั้นดวงตาของเขาก็หรี่ลงเล็กน้อย สายตาจับจ้องไปยังแท่นอักขระที่โครงกระดูกนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างบน ในตอนนั้นเองเขาสัมผัสได้ว่าเส้นอักขระนั้นกำลังขับเคลื่อน จึงรีบแผดเสียงคำราม “แย่ละสิ มีอะไรบางอย่างผิดปกติ รีบถอยเร็ว!”

        “ฮึ ไม้นี้ใช้กับข้าไม่ได้ผลหรอก รีบบอกข้ามาเสียว่าความจริงแล้วเกิดอะไรขึ้น!” กันเหยามองเขม่นไปที่เขา นางจะติดกับลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้ของเขาได้อย่างไร

        เส้นอักขระแต่ละเส้นแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง คลื่นอักขระสีดำถูกปลดปล่อยออกมา ยากนักที่จะสัมผัสได้ พวกมันเริ่มผสานรวมเข้าด้วยกันเป็นกลุ่มก้อนก่อนจะก่อร่างเป็นแผนภาพอันหนึ่ง

        เต้าหลิงเบิกตาทั้งสองกว้าง ความรู้สึกหนาวเย็นปรากฏขึ้นภายในร่าง เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร?

        “ฮึ แสดงละครเก่งดีนี่ ลูกไม้ตื้นๆ แบบนี้ตอนเด็กข้าก็เคยทำ!” กันเหยาแค่นเสียงหัวเราะ มองเด็กหนุ่มที่ยืนตกตะลึงอยู่

        ในตอนนั้นเองทั่วทั้งพื้นดินก็สั่นไหว อักขระประหลาดที่อยู่เบื้องหน้าแต่ละเส้นเริ่มปริแตกออกจากกันด้วยความเร็วที่น่ากลัว

        ตูม!

        พื้นดินพลันทรุดตัวถล่มลงไป ภูเขาสั่นไหว รอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ไม่รู้ว่าความยาวของมันนั้นยาวทอดออกไปไกลเท่าไร

        กันเหยาตกใจเป็นอย่างมาก ขาข้างนึงของนางตกลงไปในรอยแยก ใบหน้าของนางเปลี่ยนสี สัมผัสได้ถึงพลังที่หนักหน่วงกดทับร่างทำให้นางไม่สามารถปีนขึ้นไปได้

        “รีบจับข้า เร็ว!” กันเหยากล่าวด้วยความตื่นตระหนก นางรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตกลงไป

        เต้าหลิงรีบคว้าข้อมือของนางเอาไว้ ในขณะที่เขากำลังจะดึงร่างของนางขึ้นมานั้น แรงกดดันมหาศาลก็ระเบิดขึ้นมาจากข้างล่าง มันได้กดทับหลังของเขาเข้าอย่างจัง

        เต้าหลิงแค่นเสียงผ่านลำคอออกมา เลือดลมทั่วร่างเดือดพล่าน ทว่าถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อาจต้านทานมันได้ไหว แล้วพวกเขาทั้งสองคนก็ร่วงตกลงไปข้างล่าง

        ภาพที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก คลื่นพลังกระจายออกไปไกลลิบ ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของผู้คน มีรอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ซึ่งรอยแตกออกนั้นเหมือนดั่งประตูปฐพีที่เปิดออก!

        เส้นแสงสว่างแต่ละเส้นพุ่งขึ้นมาจากรอยแตก มันทะลวงขึ้นไปบนท้องฟ้า ก้อนเมฆพลันสลายหายไปราวกับแสงอรุณที่ส่องแสงสว่างจ้าละลานตา

        สายตาของผู้คนจับจ้องไปยังรอยแตกที่เกิดขึ้นอย่างใจหาย ข้างในนั้นเหมือนกับมีวังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ แสงล้ำค่าถูกปลดปล่อยออกมา สว่างเสียจนผู้คนลืมตาไม่ขึ้น

        อีกทั้งวังสวรรค์นั้นยังมีขนาดใหญ่เป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าเป็นวังสวรรค์ที่อยู่ใต้ปฐพี ทั่วทั้งพื้นที่ปกคลุมไปด้วยพลังอานุภาพ เมื่อมันปรากฏขึ้นมาทำให้มองเห็นเส้นทางแห่งแสงทอดยาวไกลออกไปสุดสายตา

        ผู้คนที่สังเกตเห็นดังนั้นก็รีบกระโดดลงไปข้างล่างด้วยความตื่นเต้น ทว่าโชคร้าย ด้วยแรงกดดันที่รุนแรงจนถึงขีดสุดได้บีบอัดร่างของพวกเขาจนระเบิดแตกออก

        ชายหญิงที่ร่วงตกลงไปก่อนหน้านี้ ร่างของพวกเขาได้ตกไปบนพื้นหยกเงา ในตอนนั้นเด็กสาวก็แผดเสียงร้องออกมา “เจ็บๆ โอ๊ย ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว”

        “ไม่เจ็บเสียหน่อย นิ่มจะตาย” เต้าหลิงกล่าว เขาได้กลิ่นหอมเย้ายวนเหมือนดั่งลอยอยู่กลางสายน้ำ

        ได้ยินดังนั้นกันเหยาจึงโกรธมาก นางกวาดสายตามองออกไปรอบๆ เพื่อหาเต้าหลิง เมื่อไม่พบเขานางก็อึ้งไป ทว่าในตอนนั้นเองนางสัมผัสได้ถึงความร้อนที่อยู่ตรงหน้าอก นางจึงมองไปยังหน้าอกของตนด้วยความฉงน

        หลังจากนั้นสามลมหายใจ ท่ามกลางวังที่เงียบสงบก็มีเสียงร้องของเด็กสาวดังขึ้นมา

        เต้าหลิงที่ได้ยินเสียงนั้นตกใจจนสะดุ้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและอับอายของกันเหยา แล้วถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “เจ้าจะร้องทำบ้าอะไร?

        เขาใช้มือยันตัวเพื่อลุกขึ้นยืน ทว่าใครเล่าจะรู้ ในตอนนั้นฝ่ามือของเขาได้จับหมับเข้ากับอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่มเต็มไม้เต็มมือ เมื่อรู้สึกได้เช่นนั้นเขาจึงลองบีบไปหนึ่งที

        “เจ้าๆๆๆๆ!” กันเหยาเบิกดวงตาคู่สวยกว้าง นางเอาแต่พูดคำว่าเจ้าออกมาไม่หยุด ใบหน้าขาวเนียนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำ

        “หวา!” เต้าหลิงที่เห็นแล้วว่าตนได้จับอะไรที่ไม่ควรจับก็แผดเสียงร้องดัง ทว่าในขณะที่กำลังจะผละมือออกไปนั้นเขากลับบีบเข้าอีกหนึ่งทีอย่างอดไม่ได้

        กันเหยารีบลุกยืนขึ้นอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า ไล่ตามเต้าหลิงที่วิ่งไปข้างหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมยาวสีดำปลิวไสวไปตามลม ชุดสีเขียวถูกลมต้านทำให้รัดรูปจนมองเห็นเรือนร่างของนางได้อย่างชัดเจน ดูแล้วงดงามเป็นอย่างยิ่ง

        “เจ้า หยุดอยู่ตรงนั้นเดี๋ยวนี้นะ!” กันเหยาขบฟันกรอด สายตาจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มที่วิ่งเร็วเหมือนกับกระต่าย ถ้านางจับเขาได้ นางจะทุบเขาให้ตายเสีย

        “ที่นี่ดูเหมือนจะมีของล้ำค่าอยู่ รีบไปหาของล้ำค่ากันเถอะ ยังจะมีเรื่องไหนที่สำคัญไปกว่านี้อีกนะ?” เต้าหลิงหันกลับมาพลางหัวเราะ ก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

        “เจ้าบัดซบ!” ฝ่ามือเรียวสวยของกันเหยากำแน่น ฟันขาวสวยขบริมฝีปากแดงสด นางไม่พอใจกับประโยคที่เขากล่าวเป็นอย่างยิ่ง ของล้ำค่าสำคัญยิ่งกว่าร่างกายของผู้หญิงอีกอย่างนั้นหรือ?

        ตั้งแต่นางโตมาจนขนาดนี้ ไม่เคยมีชายใดที่ได้สัมผัสนางแม้แต่ปลายเล็บ! ทว่าเมื่อครู่เต้าหลิงที่จับหน้าอกของนางทำให้กันเหยารับไม่ได้เป็นอย่างมาก

        เส้นทางสีทองนี้ทอดออกไปไกลลิบ เต้าหลิงทะยานไปอย่างรวดเร็ว อดจะใจสั่นไม่ได้ เหตุใดที่นี่ถึงได้ซ่อนอยู่ใต้พื้นปฐพี?

        ไม่นานนักก็มีแสงสว่างประกายสะท้อนออกมาจากแววตาของเต้าหลิง ด้านหน้าเส้นทางสีทองนั้นมีวังวิหารปรากฏอยู่ แต่ละวิหารดูศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขามเหมือนกับวิหารสวรรค์ของเทพปฐพี

        “คงไม่ใช่ว่าที่นี่เป็นวิหารสืบทอดหรอกนะ?” เต้าหลิงอึ้งไป พื้นที่ภายในนี้กว้างใหญ่จนไม่อาจจะพรรณนาได้ วังวิหารหลายแห่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของเขา

        ในขณะที่เต้าหลิงครุ่นคิดอยู่นั้นก็รู้สึกได้ว่ามีกลิ่นหอมพัดเข้ามาจากข้างหลัง จากนั้นฝ่ามือเล็กๆ ของกันเหยาได้ยื่นมาจับคอของเขาเอาไว้

        “ไม่เอาน่า รีบไปดูข้างหน้าเถอะ จะต้องมีของล้ำค่าอยู่แน่” เต้าหลิงยิ้มเจื่อนๆ “อีกอย่าง เมื่อครู่ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าก็แค่อยากจะช่วยเจ้าเฉยๆ ทว่าไม่ระวังไปสัมผัสตัวของเจ้าเข้า จะโทษข้าทั้งหมดไม่ได้นะ”

        “ของล้ำค่า ของล้ำค่า ของล้ำค่า เจ้ารู้จักแต่ของล้ำค่าหรืออย่างไร!” กันเหยาขบฟันกรอด กล่าวออกไปด้วยความโกรธ

        “ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ไม่เช่นนั้นเจ้าก็มาจับของข้าคืนเสียสิ เจ้าคิดว่าอย่างไร?” เต้าหลิงเอามือลูบคาง สายตาจับจ้องนางที่มีท่าทีโกรธเกรี้ยว

        “เจ้า สกปรก ไร้ยางอาย!” กันเหยาบีบฝ่ามือเล็กแน่นด้วยโทสะ

        “เอาล่ะๆ เนื้อของเจ้าก็เยอะดี รีบเข้าไปดูข้างในกันเถอะ ของล้ำค่าในนั้นจะต้องไม่ธรรมดาแน่” เต้าหลิงเลียริมฝีปากพลางกล่าว มองไปยังวิหารที่อยู่เบื้องหน้า

        “บัดซบ!” กันเหยาถูฟันไปมา นางมองแผ่นหลังของเขาก่อนจะอ้าปากกระโดดงับคอของเต้าหลิงเหมือนกับแม่เสือ

        “โอ๊ย” ร่างทั้งร่างของเต้าหลิงสั่นเทา มุมปากของเขาพลันบิดเบี้ยวแล้วแผดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด

        กันเหยากัดเขาเข้าไปหนึ่งทีเพื่อปลดปล่อยอารมณ์โทสะที่อัดอั้นอยู่ในใจ มุมปากของนางมีเลือดไหลออกมา นางแลบลิ้นเลียคราบเลือด ดูแล้วเหมือนกับปีศาจน้อย

        “เจ้าเป็นหมาหรืออย่างไร!” เต้าหลิงลูบคอของตนที่มีรอยฟันพลางแผดเสียงคำรามด้วยใบหน้าดำมืดเป็นเส้น

        “นี่ข้าแค่สั่งสอนเจ้านะ!” กันเหยากล่าว “ให้เจ้าได้รู้เสียบ้างว่าผู้หญิงไม่ใช่จะรังแกได้ง่ายๆ!”

        เต้าหลิงขี้เกียจต่อปากต่อคำกับนาง ฝีเท้าของเขาก้าวออกไป ทว่าในตอนที่ยกขาขึ้นนั้นร่างทั้งร่างก็พลันเย็นยะเยือกขึ้น

        สายตาเย็นชาคู่หนึ่งมองมาที่เขา คลื่นพลังที่น่ากลัวแผ่ซ่าน เหมือนกับเทพสวรรค์โบยบินกำลังมองมดตัวหนึ่งอย่างไม่แยแส

Author Bunnyb