มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 4 ตอนที่ 109 : วิถีก่อนฟ้า

        อะไรคือวิถีก่อนฟ้า ตามการคาดเดาของเหล่ายอดยุทธ์ มันก็คืออักขระไร้ที่สิ้นสุดที่เกิดขึ้นก่อนที่จะสร้างโลก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ฟ้าดินสร้างขึ้นมา พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือวิถีฟ้าดิน

        ทว่าของสิ่งนี้นั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่มีเสียงดังขึ้นมาก็จะพลันทำให้สงครามนองเลือดขึ้น เหล่ายอดยุทธ์โบราณต่างหลั่งไหลกันมาเพื่อเข้าร่วม

        เพราะมันคืออักขระที่เกิดขึ้นมาด้วยฟ้าดิน คล้ายคลึงกับเต๋า ซึ่งเป็นอักขระที่เหมาะสมในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก

        ชิงอี้จวิ้นรู้ดี ว่ากันว่าในฟ้าดินนี้มีวิถีเต๋าล้ำค่าอยู่ ซึ่งเป็นสมบัติที่ฟ้าดินให้กำเนิดขึ้นมา ทว่ามันก็เป็นแค่เรื่องเล่าเท่านั้น

        อีกทั้งยังมีวิถีที่น่ากลัวอย่างวิถีนิรันดร์ วิถีนี้เองก็เป็นอักขระที่เกิดขึ้นจากฟ้าดินเช่นเดียวกัน ถ้าหากฝึกฝนจนถึงขั้นสมบูรณ์ก็จะมีชีวิตยืนยาวเป็นอมตะไม่มีวันตาย

        เรียกอีกอย่างก็คือวิถีอมตะ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สิ่งที่กล่าวออกมานั้นก็เป็นแค่เรื่องเล่า จริงหรือไม่นั้นไม่มีใครรู้ ทว่าของสิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีอยู่ ทว่าได้หายสาบสูญไปตามกาลเวลา

        ชิงอี้จวิ้นแทบจะเป็นบ้า ภายในก้อนหินมีแผ่นหินอยู่อย่างนั้นหรือ หรือว่าของที่อยู่ข้างในนั้นจะเป็นอักขระฟ้าดินที่กล่าวขานกัน

        ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แล้วเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ทั่วทั้งแคว้นชิงจะต้องเกิดสงครามนองเลือดขึ้น เหล่ายอดยุทธ์จะต้องมารวมตัวกันเพื่อแย่งของสิ่งนี้

        แผ่นหินส่องแสงหลากสีประกายระยิบระยับ ราวกับทำมาจากหยกสวรรค์ห้าสี แสงหมอกสวรรค์สว่างจ้าละลานตา ไม่รู้ว่าสิ่งที่ถูกบันทึกเอาไว้ข้างในนั้นคืออะไร

        เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นหู หน้าของเต้าหลิงก็พลันเปลี่ยนสี ก่อนที่จะรีบสวมใส่ชุดคลุมดำ ในเวลาเดียวกัน ก็กระทืบเท้าลงพื้นพลางพุ่งทะยานออกไป ฝ่ามือคว้าไปที่แผ่นหินหลากสีนั่น

        “บัดซบ นั่นมันของล้ำค่าของข้า ไสหัวไปซะ!” ชิงอี้จวิ้นแผดเสียงคำราม ฝ่ามือของเขาทะลวงฝ่าอากาศ ปรากฏแสงดาราเส้นหนึ่งพุ่งไปที่หัวของเต้าหลิง ในเวลาเดียวกันฝ่ามือก็ยื่นออกไปคว้าแผ่นหินห้าสี

        ภายในมือของเต้าหลิงปรากฏพัดล้ำค่าห้าสีขึ้น พัดล้ำค่าโบกสะบัด พลังทำลายล้างพลันแผ่ซ่านออกมา

        เขาไม่ได้เดินไปข้างหน้า สายตาของเขาจับต้องที่ฝ่ามือของชิงอี้จวิ้นที่เข้าไปใกล้แผ่นหิน ในตอนนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงอะไรไม่ชอบมาพากล เป็นความรู้สึกหนาวเย็นชวนขนลุก

        นัยน์ตาของชิงอี้จวิ้นแดงก่ำ เขาได้สูญเสียสติไปแล้ว เขาเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้แผ่นหินพลางยื่นมือออกไปหยิบมันอย่างไม่ลังเล

        เมื่อฝ่ามือสัมผัสกับแผ่นหิน ทันใดนั้น ร่างกายของเขาก็พลันแข็งทื่อ ขนทั่วร่างลุกชันขึ้น เขาสัมผัสได้ถึงภัยอันตรายที่ออกมาจากแผ่นหิน

        แผ่นหินห้าสีที่นิ่งสงบพลันเปลี่ยนแปลงไป หมอกสวรรค์ที่เคยปลดปล่อยออกมาก็ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นพลังงานสีดำ แต่ละเส้นพลังงานอัดแน่นไปด้วยพลังสังหารที่ทำให้ผู้คนต้องใจสั่น

        ถึงแม้พลังสังหารนี้จะไม่ชัดเจนเท่าไรนัก ทว่ามันกลับทำให้ห้วงมิติบิดเบี้ยว

        และกฎของภายในโลกใบเล็กนี้ ก็ไม่อาจยับยั้งพลังอานุภาพของพลังสังหารนี้ได้

        เต้าหลิงถึงกับขนหัวลุก พลังสังหารนี้น่ากลัวมากเกินไปแล้ว เขารู้สึกได้ถึงความตายที่กำลังจะเข้ามาเยือน หรือว่านี่จะเป็นสิ่งชั่วร้ายของฟ้าดิน

        “ข้าเข้าใจแล้ว นั่นจะต้องเป็นพลังของหินสวรรค์ที่ดอกบัวเขียวดูดกลืนเข้าไป ทำให้แผ่นหินเกิดขึ้นมาก่อนกำหนด มันยังไม่ได้เติบโตโดยสมบูรณ์ ดังนั้น มันจึงเกิดโทสะขึ้น เป็นไปได้ว่าจะเป็นพลังสังหารก่อนฟ้าที่เล่าขานกัน”

        หน้าของเต้าหลิงพลันเปลี่ยนสีด้วยความตกตะลึง ของสิ่งนี้มีอยู่ในคัมภีร์โบราณ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก เมื่อใดที่แสงสังหารก่อนฟ้าปรากฏขึ้นมา ฟ้าดินก็จะถูกทำลาย

        น้ำเต้าครั้งก่อนที่งานประมูล มียอดยุทธ์เล่าเรื่องของมันออกมา เต้าหลิงที่ได้ฟังเรื่องราวนั้นทำให้เขาได้รู้ว่าน้ำเต้าก็คือสมบัติล้ำค่าที่สามารถปลดปล่อยพลังสังหารก่อนฟ้าออกมาได้

        ด้วยพลังอานุภาพของพลังสังหารนี้ ถึงแม้จะเป็นยอดยุทธ์ที่แข็งแกร่ง แต่เมื่อเจอมันจุดจบก็คือความตาย มันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาๆ จะสามารถรับมือได้

        ชิงอี้จวิ้นตกใจเป็นอย่างมาก พลังสังหารที่ระเบิดออกมาเป็นระลอกๆ นั้น ทำให้ชุดเกราะสงครามสีเงินของเขาเริ่มปริแตกออก

        “แย่ละสิ” ชิงอี้จวิ้นแผดเสียงคำราม แสงดวงดาราเปล่งออกมาทั่วทั้งร่าง ทว่านั่นก็ไม่เป็นผล แสงดวงดาราเหล่านั้นไม่อาจจะต่อต้านพลังอานุภาพของพลังสังหารก่อนฟ้าได้ ฝ่ามือของเขาถูกฟันเลือดไหลนองทั่วพื้นดิน

        “อ๊ากก” ชิงอี้จวิ้นนอนขดอยู่บนพื้นพลางแผดเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขารู้สึกเหมือนกับร่างกายถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ พลังสังหารนี้น่ากลัวมาก มันสามารถบดขยี้ร่างของมนุษย์ให้ตายทั้งเป็น อวัยวะภายในของเขาเริ่มฉีกขาดออกจากกัน

        “ไม่ดีแล้ว!”

        หน้าของเต้าหลิงเปลี่ยนสี ในขณะเดียวกัน พลังสังหารเหมือนกับรู้ว่าใครที่ทำลายมัน พลังสังหารก่อนฟ้าแต่ละเส้นพลังพุ่งเข้าใส่ร่างของเต้าหลิงในทันที

        “ฮ่าๆๆ เจ้าจบเห่แน่ ฮ่าๆๆ ไปตายซะ นี่ละคือจุดจบที่มาแย่งชิงของของข้า” ชิงอี้จวิ้นคำรามลั่นด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข ในตอนนั้นเอง เขากะว่าจะใช้จังหวะนั้นช่วงชิงแผ่นหินมา

        พลังสังหารทั้งหมดที่เพ่งเล็งมาที่เขา ทำให้ขนหัวของเขาลุกชันขึ้น

        “ดอกบัวเขียว ให้ตายสิ” เต้าหลิงร้องคำรามขึ้นมาในใจ ถ้าถูกพลังสังหารก่อนฟ้าโจมตีเข้าละก็ได้สลายกลายเป็นหมอกเลือดแน่

        วิ้งง แสงหมอกสวรรค์สว่างจ้าเส้นหนึ่งระเบิดออกมาท่ามกลางความโกลาหล ทะลวงฝ่าร่างของเต้าหลิง ก่อนที่จะห่อหุ้มพลังสังหารก่อนฟ้าแต่ละเส้นเอาไว้ แล้วลากกลับเข้าไปในความโกลาหลเพื่อที่จะดูดกลืนพลังสังหารนั่น

        “อะไรกัน นี่มันเป็นไปได้ยังไง” ชิงอี้จวิ้นเบิกตากว้างจนตาแทบจะถลนออกมา พลางแผดเสียงคำรามดังกึกก้อง “เจ้า เจ้าจัดการพลังสังหารนั่นได้ยังไง!”

        ชิงอี้จวิ้นรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของชุดสงครามของเขา ที่มีพลังการป้องกันที่น่ากลัวถึงขีดสุด อีกทั้งมันยังเป็นของล้ำค่าโบราณ ทว่าถึงอย่างนั้นมันก็ไม่อาจจะต้านทานพลังสังหารก่อนฟ้าได้ เห็นได้ชัดว่าพลังสังหารก่อนฟ้านั้นน่ากลัวมากขนาดไหน

        ทว่าเต้าหลิงสามารถเก็บพลังสังหารที่น่ากลัวขนาดนั้นลงไปได้ ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็น ความโลภเกิดขึ้นมาในจิตใจ อีกฝ่ายจะต้องมีของล้ำค่าที่สุดยอดมากอยู่แน่

        พลังสังหารก่อนฟ้าที่ไหลแล่นเข้ามา ทำให้ความโกลาหลที่อยู่ภายในร่างสั่นไหว ก่อนที่มันจะกลั่นหลอมพลังสังหารนั้นลงไป ทว่าน่าเสียดายที่ไม่มีพลังโกลาหลออกมา

        “เจ้านี่สามารถดูดซับพลังสังหารได้ด้วยอย่างนั้นหรือ นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว หรือว่ามันจะสร้างโลกขึ้นมา” ใบหน้าของเต้าหลิงพลันบิดเบี้ยว เขาแผดเสียงหลงขึ้นมาในใจ

        เขาพุ่งทะยานออกไปคว้าแผ่นหินห้าสีอย่างไม่ลังเล กระทืบเท้าลงพื้น ร่างกระโดดลอยขึ้นฟ้า

        “บัดซบ หยุดอยู่ตรงนั้น ทิ้งของล้ำค่าเอาไว้ให้ข้าซะ” ชิงอี้จวิ้นแทบคลั่ง ดวงตาของเขาแดงก่ำพลางแผดเสียงคำรามลั่นออกมา

        แขนของเขาแหลกเละจนไม่เป็นชิ้นดี เขาตัดสินใจตัดแขนของตัวเองทิ้งแล้วไล่ตามเต้าหลิงไป

        ของล้ำค่าทั้งหมดได้ถูกคนชุดดำแย่งชิงไป คราวนี้ก็ถูกแย่งชิงแผ่นหินห้าสีไปอีก ทำให้เขาไม่อาจจะยอมรับเรื่องนี้ได้

        เต้าหลิงนั้นว่องไวเป็นอย่างมาก ชิงอี้จวิ้นเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทว่าชุดเกราะสงครามของเขาก็ยังไม่ได้แตกสลาย มีเพียงแค่แขนที่หายไป ถ้าหากว่าต้องสู้กับเขาด้านล่างนี้ ก็ไม่อาจจะประมือกับเขาได้

        ด้านข้างแม่น้ำดารา หลินซือซือรอด้วยความร้อนใจ นี่ก็ผ่านไปสองสามวันแล้ว แต่เต้าหลิงก็ยังไม่ออกมา และนางก็ลงไปข้างล่างไม่ได้เสียด้วย

        “ไม่ต้องรีบร้อน เขาจะต้องไม่เป็นไร ถึงแม้ว่าชิงอี้จวิ้นจะแข็งแกร่ง ทว่าก็ไม่ได้มีความสามารถพอที่จะฆ่าเต้าหลิงได้” วิหคเพลิงเอ่ยเรียบๆ

        ตู้มมม มีเสียงระเบิดดังขึ้นมา พร้อมกับร่างที่พุ่งขึ้นมาจากผืนน้ำ ชั่วพริบตา ร่างเงานั้นก็มาหยุดอยู่ที่ฝั่ง

        เมื่อเห็นร่างเงานั้น หลินซือซือก็ถอนหายใจพลางกล่าวขึ้นมาว่า “ทำไมเจ้าอยู่ข้างล่างนานขนาดนั้น เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ”

        “เป็นยังไงบ้าง ได้ของเหลวดาราสวรรค์มากี่หยด แล้วเจ้ากายดารานั่นขึ้นมาหรือยัง” วิหคเพลิงบินเข้ามาด้วยความตื่นเต้น มันยังคิดที่จะแย่งชิงของจากชิงอี้จวิ้นอยู่

        “ไปเถอะ อย่าเพิ่งถามมาก” เต้าหลิงกล่าว เขาจับข้อมือขาวของหลินซือซือเอาไว้พลางกระโดดขึ้นบนหลังของวิหคเพลิง ก่อนจะกล่าวออกมาอย่างรีบเร่ง “เร็ว ข้ารู้สึกได้ว่ามีคนที่คอยแอบมองข้าอยู่ อีกทั้งพลังก็ยังแข็งแกร่งมากด้วย!”

        เขาสัมผัสได้ถึงสายตาที่มองมา ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สองแล้ว เขามั่นใจได้ว่าไม่ได้รู้สึกไปเองอย่างแน่นอน จะต้องมีคนคอยจับตามองเขาอยู่ เดาว่าไม่น่าจะมีเจตนาที่ดี

        “ว่าไงนะ สามารถซ่อนจากสัมผัสการรับรู้ของข้าได้อย่างนั้นหรือ จะต้องเป็นยอดฝีมือไม่ผิดแน่ พวกเจ้าจับแน่นๆ ล่ะ” วิหคเพลิงแผดเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วฟ้าดิน ปีกทั้งสองกระพือขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

        บนหุบเขาที่ไกลออกไป เด็กหนุ่มนัยน์ตาสีทองจ้องมองร่างเงาที่บินหนีไปพลางกล่าวออกมาเรียบๆ “ไปเถอะ ปลาโตแล้ว ได้เวลาเก็บเกี่ยวผลผลิต”

Author Bunnyb