มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 13 ตอนที่ 374 : ตราโอสถ

        ถึงแม้ว่างานหลอมโอสถจะจบลงแล้ว ทว่าภายในหุบเขาโอสถนั้นยังคงคึกคักอยู่ ผลที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นั้นเหนือจากที่ผู้คนคาดหมายเอาไว้มาก อีกทั้งนักปรุงโอสถอัจฉริยะที่ประจักษ์ขึ้นทำให้ผู้คนอดที่จะใจสั่นไม่ได้

        เหล่าตัวแทนของขุมพลังอำนาจขนาดใหญ่ต่างก็เดินออกมา เพื่อที่จะชักชวนเหล่านักปรุงโอสถอย่างสุดกำลัง เพราะคนเหล่านี้เป็นไปได้สูงว่าจะกลายเป็นปรมาจารย์นักปรุงโอสถในภายภาคหน้า

        และเด็กหนุ่มชุดขาวนั้นได้กลายเป็นที่ต้องการไปโดยอย่างมิต้องสงสัย มีหญิงสาวหลายคนที่หาญกล้าเดินเข้าไปทักทาย สายตาที่เร่าร้อนของพวกนางจับจ้องไปที่เขาเหมือนกับจะกลืนกินร่างของเขาเข้าไปเสียอย่างนั้น

        เต้าหลิงที่รับมือกับพวกเขา ทำให้เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย จนเขาอดที่จะยิ้มเจื่อนๆ แล้วกล่าวออกมาว่า “หากพวกเขารู้ว่าข้านั้นเป็นใคร เดาว่าคงจะหลีกหนีขยับไปไกลหลายสิบลี้”

        “ศิษย์น้อง หากไปที่วิหารยุทธ์ก็สำรวมหน่อยละ อย่าไปก่อเรื่องวุ่นวาย”

        เด็กอ้วนเดินเข้ามาพลางเอามือไพล่หลังแล้วกล่าวออกมาอย่างน่าเกรงขาม ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆ อึ้งไปตามๆ กัน คนผู้นี้นะหรือเป็นศิษย์พี่ของนักปรุงโอสถอัจฉริยะผู้นี้?

        กลุ่มคนที่เริ่มกรูกันเข้ามา เด็กอ้วนก็พูดนู่นพูดนี่ไม่หยุด เขาพูดจีบปากจีบคอกับหญิงสาวทั้งยังยื่นมือออกไปลูบไล้ฝ่ามือของเด็กสาวคนหนึ่ง ก่อนที่จะฉีกยิ้มแล้วหัวเราะออกมา

        สีหน้าของกู่ไท่พลันบิดเบี้ยว หากว่าตัวตนของอัจฉริยะนักปรุงโอสถนั้นถูกเปิดเผย เดาว่าเด็กอ้วนคงจะเป็นคนแรกที่โดนถลกหนัง

        “เจ้าดำเจ้าจะพึ่งพาได้หรือไม่?” เต้าหลิงรับมือกับหญิงสาวไปพลาง พลางส่งเสียงผ่านจิตไปหาเสือดำ

        “ข้าพึ่งพาไม่ได้ตั้งแต่เมื่อไร? ข้าได้จัดการเรื่องนี้กับมังกรตาเดียวแล้ว เจ้าถ่วงเวลาเอาไว้อีกสักประเดี๋ยว แล้วเดี๋ยวออกเดินทางไปพร้อมกัน”

        เสือดำยืดอกพลางแผดเสียงคำราม กล่าวประหนึ่งว่ามังกรตาเดียวเป็นทาสรับใช้ของมัน

        เต้าหลิงถึงกับหมดคำพูด ในขณะนั้นคนของหุบเขาโอสถก็เดินเข้ามาเพื่อเชิญชวนให้ไปพูดคุยกับผู้อาวุโสของหุบเขาโอสถ

        “ท่านผู้อาวุโส ยอดปรมาจารย์นักปรุงโอสถ!” เต้าหลิงสูดลมหายใจเข้าลึก พลางเดินตามพวกเขาไปยังแท่นสูงโดยไม่ลังเล

        เมื่อเห็นดังนั้น ผู้คนก็ถอยหลังไปอย่างโดยดี สถานที่ของหุบเขาโอสถในดินแดนลึกลับนั้นยิ่งใหญ่มาก ทั้งผู้อาวุโสนั้นยังเป็นคนที่คอยชี้แนะเหล่านักปรุงโอสถ จึงไม่มีใครที่จะกล้าขัดขวางพวกเขา

        ภายในวังวิหารมีชายชราสวมชุดขาวคนหนึ่ง ผมของเขาเป็นสีขาวโพลนดุจหิมะ อายุมากแล้วทว่าดูแล้วกระปรี้กระเปร่ายิ่ง มิเหมือนกับคนแก่

        “ว่ากันว่าผู้อาวุโสมีอายุอยู่มาสองพันปีแล้ว อายุยืนยาวเสียจริงๆ”

        เต้าหลิงเงยหน้ามองไปพลางกล่าวพึมพำขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ สองพันปีนี้น่ากลัวมากจริงๆ เดาว่าขั้นฝึกฝนของเขานั้นจะต้องน่ากลัวมาก ไม่เช่นนั้นอายุไม่น่าจะยืนยาวได้ถึงขนาดนี้

        “นี่คงจะไม่ใช่รูปลักษณ์ที่แท้จริงของเจ้าใช่หรือไม่?”

        คำพูดที่ชายชราอาวุโสกล่าวออกมานั้นทำให้หัวใจของเต้าหลิงสั่นไหว เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้ หรือว่าเขาจะมองรูปลักษณ์ที่แท้จริงของตนออก?

        “เจ้าอย่าได้เป็นกังวลข้าจะไม่ถามไถ่อะไรเจ้า ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเหตุใดเจ้าถึงต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์ อาจจะเพราะหลบหลีกศัตรูหรืออะไรก็ตามแต่ ข้านั้นไม่ได้สนใจ ที่ข้าสนใจก็คือ เจ้าใช่คนของดินแดนลึกลับหรือไม่?”

        ชายชราอาวุโสหรี่ตาลงด้วยความวิตกเล็กน้อย หากอัจฉริยะคนนี้เป็นคนของดินแดนอื่นแล้วละก็ ดินแดนลึกลับคงจะขายขี้หน้ามากเป็นแน่

        “ท่านอาวุโส ข้าคือจอมยุทธ์ของดินแดนลึกลับ” เต้าหลิงสูดลมหายใจเข้าลึกพลางกล่าวออกมา

        ได้ยินดังนั้น ผู้อาวุโสถอนหายใจออกมา อีกฝ่ายไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหก หากว่าเขาเป็นอัจฉริยะของดินแดนอื่นจริงๆ การที่ข้ามดินแดนมายังดินแดนลึกลับก็จะต้องมีคนใหญ่คนโตมาคอยดูแล หากมีความเป็นมาเช่นนั้นจริงๆ นั่นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องโกหกเขาแล้ว

        ใบหน้าของชายชราเผยรอยยิ้มขึ้นมาบางๆ พลางกล่าวออกมาว่า “เช่นนั้นก็ดี ข้าเชื่อเจ้า ครั้งนี้เจ้าที่เป็นผู้ชนะของงานหลอมโอสถครั้งนี้ เหนือจากที่ข้าคาดเอาไว้มากนัก”

        “ไม่หรอกท่านผู้อาวุโส ข้าก็แค่โชคดีเท่านั้น” เต้าหลิงทำมือคารวะ ความจริงแล้วสำหรับเขานั้นด่านที่ห้านั้นเป็นด่านที่ยากยิ่ง เพราะเต้าหลิงเรียนรู้ทฤษฎีวิถีโอสถมาน้อยมากเพราะเขาไม่มีอาจารย์ที่คอยชี้แนะ

        แต่ที่เขาทำสำเร็จได้นั้นก็เป็นเพราะเตาหลอมโอสถทองสัมฤทธิ์ ทั้งเขาตั้งใจมาที่นี่ก็เพื่อผลึกจิต

        “ฮ่าๆๆ หากช่วงชิงอันดับหนึ่งได้มาเพราะโชค เช่นนั้นอัจฉริยะของหุบเขาโอสถก็กลายเป็นขยะแล้วอย่างนั้นสิ?” ชายชราอาวุโสยิ้มพลางกล่าวหยอกล้อ หากภาพที่เกิดขึ้นนั้นแพร่งพรายออกไป เพราะสถานะของเขานั้นสูงมาก มากยิ่งกว่าอู่หวังต้งเสียอีก ส่วนมากเขามักจะมีใบหน้าขึงขัง น้อยครั้งนักที่จะหยอกล้อกับศิษย์

        เต้าหลิงยิ้มออกมาอย่างเคอะเขิน จากนั้นเขาก็กล่าวต่อว่า “ไม่รู้ว่าที่ท่านอาวุโสเรียกข้ามาที่นี่ มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?”

        “แน่นอน” ใบหน้าของชายชราอาวุโสหุบยิ้มลง ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีหน้าขึงขัง

        เต้าหลิงขมวดคิ้วน้อยๆ เขาไม่รู้ว่าเหตุใดผู้อาวุโสถึงเรียกเขามาที่นี่ ตามหลักแล้วถึงแม้ว่าเต้าหลิงจะเป็นผู้ชนะในงานหลอมโอสถ ทว่าในสายตาของผู้อาวุโสนั้น เขาก็เป็นเพียงแค่คนต่ำต้อยเท่านั้น

        ในตอนนั้นเอง ชายชราอาวุโสก็ถอนหายใจพลางกล่าวออกมา “ที่ข้าเรียกเจ้ามาเพราะมีเรื่องอยากจะขอร้อง”

        “ขอร้องข้า?” เต้าหลิงตกใจมากจนสะดุ้ง เขาไม่รู้เลยว่าตนนั้นจะช่วยเหลืออะไรเขาได้

        ชายชราอาวุโสถอนหายใจ “น่าจะราวๆ สองพันปีก่อนได้แล้ว ในปีนั้นข้าได้เป็นผู้ชนะงานหลอมโอสถ พูดได้ว่าในตอนนั้นข้าเฉิดฉายยิ่ง ในดินแดนลึกลับมีเพียงอู่หวังต้งที่จะสามารถประมือกับข้าได้”

        “ที่แท้ท่านผู้อาวุโสก็เคยเป็นผู้ชนะในงานหลอมโอสถมาก่อน” เต้าหลิงเม้มปาก

        “ในตอนนั้นข้าได้เป็นตัวแทนของดินแดนลึกลับที่ถูกเลือกให้ไปยังที่ที่ไกลมากแห่งหนึ่ง” ชายชราอาวุโสกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ดีนัก “ทว่าสุดท้ายแล้วข้าก็แพ้ แพ้ถึงขนาดที่ประตูใหญ่ยังไม่อาจจะเข้าไปได้!”

        “อะไรกัน?” เต้าหลิงร้องเสียงหลงออกมาด้วยความตกตะลึง อย่างผู้อาวุโสนะหรือ?

        “เจ้ามิต้องตกใจไปหรอก ในตอนนั้นเพราะข้าที่ทระนงตนและมั่นใจในตัวเองมากเกินไป ข้าอยากจะเปิดทางของดินแดนลึกลับใหม่อีกครั้ง อยากจะให้อัจฉริยะนักปรุงโอสถของดินแดนลึกลับได้เข้าร่วมงานหลอมโอสถที่ยิ่งใหญ่!”

        ชายชราอาวุโสกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาทั้งตั้งใจและมั่นใจในตัวเองมาก ทว่าน่าเสียดายที่เขาแพ้จนถึงขนาดไม่อาจก้าวเข้าไปประตูไปได้

        “หลังจากนั้นมา นักปรุงโอสถของดินแดนลึกลับก็ได้กลายเป็นเหมือนกับตัวตลก สองพันปีมานี้ไม่มีใครที่สามารถเข้าร่วมงานโอสถได้ ซึ่งนั่นเป็นเพราะความผิดของข้าที่ทำให้ดินแดนลึกลับหมดสิทธิ์ที่จะเข้าร่วม!”

        ชายชราอาวุโสแผดเสียงกล่าวคำรามอย่างสูญเสียการควบคุม เขารู้สึกอับอายและรู้สึกผิดยิ่ง ซึ่งมันเป็นความทุกข์ที่อยู่ภายในใจของเขามาโดยตลอด ทั้งยังมิอาจจะแก้ไขได้

        สองพันปีมานี้ ชายชราอาวุโสไม่เคยก้าวออกจากหุบเขาโอสถแม้แต่ก้าวเดียว ซึ่งมันก็คือบทลงโทษของตัวเขาเอง!

        เต้าหลิงอ้าปากค้าง คนเช่นไหนกันถึงได้ตัดสิทธิ์ของดินแดนลึกลับ? แท้จริงแล้วโลกนี้เป็นแบบไหนกัน? คนที่น่ากลัวแบบไหนเพียงแค่กล่าวออกมาถึงได้ตัดสิทธิ์นักปรุงโอสถของดินแดนลึกลับได้เช่นนี้?

        ชายชราอาวุโสเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างนี้ เรื่องนี้มีหลายคนที่ไม่รู้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีคุณสมบัติที่จะรู้เรื่องนี้ ทั้งมันยังเป็นเรื่องที่ผู้อาวุโสรู้สึกเจ็บปวดยิ่งมาเป็นเวลากว่าสองพันปี

        “เฮ้อ คนแก่ก็เป็นเช่นนี้ ทำสิ่งที่น่าขายหน้าออกไปเสียได้” ชายชราอาวุโสนั่งลง บนใบหน้าชรามีริ้วรอยปรากฏขึ้นมาไม่น้อย

        “ท่านผู้อาวุโสไม่รู้ว่าข้าจะสามารถช่วยเหลืออะไรท่านได้บ้าง?” เต้าหลิงถาม “ถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าท่านนั้นพูดถึงเรื่องอะไร แต่ข้าที่เป็นคนของดินแดนลึกลับ ข้าจะช่วยเหลือดินแดนอย่างสุดกำลังที่ข้ามี ทว่าไม่รู้ว่าข้านั้นจะมีคุณสมบัตินั้นหรือไม่?”

        “เจ้ามี!” ชายชราอาวุโสยืนขึ้นพลางกล่าว “เจ้าอายุยังน้อยนัก เวลาของเจ้ายังมีอีกมาก ข้านั้นแก่มากแล้ว แรงจะขยับร่างกายยังไม่มี ความหวังของดินแดนลึกลับขึ้นอยู่กับเด็กรุ่นหลังอย่างพวกเจ้า ข้าหวังเพียงแค่ว่าก่อนที่จะข้าจะตาย ข้าจะได้เห็นเส้นทางที่ถูกตัดขาดของดินแดนลึกลับเกิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง!”

        “หากมีวันนั้นจริงๆ ข้าจะเป็นคนยืนหยัดเอง” เต้าหลิงแผดเสียงกล่าว

        “หากเจ้ากล่าวเช่นนั้น ข้าก็วางใจ” ชายชราอาวุโสกำหมัดพลางสะบัดแขนเสื้อออกไป จากนั้นก็มีเหรียญตราสีทองสัมฤทธิ์อันหนึ่งลอยออกไป ด้านบนมีคำว่าโอสถประทับอยู่

        เต้าหลิงรับเหรียญตรานั้นเอาไว้ แววตาของเขาฉายแววความประหลาดใจ ในขณะนั้นเขาสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของวิถีโอสถ

        “เจ้าเก็บตราโอสถนี้เอาไว้ให้ดี หวังว่าวันหนึ่ง ในวันที่หุบเขาโอสถส่งเสียงเรียก ในตอนที่ต้องการอัจฉริยะอย่างเจ้า เจ้าจะปรากฏกาย!” ชายชราอาวุโสกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง

        เต้าหลิงกำตราโอสถที่ได้มาเอาไว้ในมือ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกพลางพยักหน้า แล้วเก็บตราโอสถนั้นลงไป ก่อนที่จะบอกลาแล้วเดินจากไป

        “ท่านผู้อาวุโส ตราโอสถนี้ชิ้นที่สามแล้ว ทั้งยังเป็นของที่ท่านบรรพบุรุษช่วงชิงมาด้วยชีวิต ท่านให้มันกับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเช่นนี้ จะคุ้มหรือ?”

        ตานถิงเดินเข้ามาพลางกล่าวอย่างไม่เข้าใจ

        ได้ยินดังนั้น ชายอาวุโสก็กล่าวออกมาว่า “ข้าเชื่อมั่นในตัวของเขา ข้าสัมผัสได้ถึงเจตจำนงที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัว เขามิใช่คนธรรมดา”

        “นี่มัน” ตานถิงอึ้งไป ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา “ทว่าเส้นทางนั้นยากมากเกินไป ถึงแม้จะเป็นเด็กหนุ่มที่สุดยอดชั้นฟ้า ความหวังก็มิสูงนัก”

        “มีบางเรื่องที่จะต้องลองทำ จะต้องมีคนที่นำพาดินแดนลึกลับเข้าไปทำสงคราม!”

        ชายชราอาวุโสหัวเราะก่อนที่จะหายไปจากที่นี่ เหลือเพียงแค่ตานถิงที่ยืนถอนหายใจ

Author Bunnyb