มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 4 ตอนที่ 95 ตอนพิเศษ เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง: ภรรยาสวมแหวนแต่งงานให้ฉันแล้ว

         การแข่งขันเริ่มขึ้นหลังจากปิดรับการสมัครเพียงห้านาที สนามการแข่งขันอยู่ริมทะเลสาบต้าหมิง บ๊ะจ่างถูกจัดวางอยู่บนโต๊ะยาว เจาเยี่ยมองบ๊ะจ่างที่รสชาติมากมายหลากหลายถูกกองสูงอยู่บนโต๊ะแล้วขอเสนอตัวกินแทนกู้หลานอัน แต่กู้หลานอันปฏิเสธพลางดึงหน้ากากออกแล้วไปยืนอยู่หลังโต๊ะยาว

        เมื่อใบหน้าของกู้หลานอันปรากฏออกมาก็สร้างความฮือฮาให้กับฝูงชนได้เป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วพวกกินแตงทั้งหลายก็ยังคงให้ความสำคัญกับงาน นอกจากจะส่งเสียงประหลาดใจออกมาบ้างบางครั้งบางคราว พูดคุยวิจารณ์กันประปรายนอกนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเป็นพิเศษอีก

        นับถอยหลังสู่การแข่งขัน กู้หลานอันมองบ๊ะจ่างปีศาจที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยความรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึง เงยหน้าขึ้นมองเจาเยี่ย เห็นเขาทำทำไม้ทำมือว่าสู้ๆ ให้ เขาสูดลมหายใจ หลังจากผู้ตัดสินตะโกนให้เริ่มการแข่งขัน เขาก็หน้ามุ่ยแกะใบบ๊ะจ่างออกแล้วเริ่มต้นกิน (ยัด)

        เจาเยี่ยมองกู้หลานอันที่ยัดบ๊ะจ่างเข้าปากไม่หยุดด้วยใบหน้าขมขื่น จนแก้มทั้งสองข้างบวมปูดขึ้นท่ามกลางฝูงชน เขากัดริมฝีปากล่าง สิ่งที่ผู้เข้าแข่งขันคนเมื่อครู่พูดออกมาเขาได้ยินมันหมดและเข้าใจสาเหตุที่กู้หลานอันมีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันแบบนี้ด้วย แต่เขากลับไม่ได้หยุดยั้งไว้ กู้หลานอันเป็นเด็กที่เขาเก็บมา เขาดีกับกู้หลานอันมากและกู้หลานอันก็ดีกับเขาอย่างจริงใจ แต่จนถึงตอนนี้เขากลับไม่เชื่อว่ากู้หลานอันจะคู่ควรกับสิ่งดีๆ ที่ตัวเองทุ่มเทให้กับเขา เขาอยากใช้โอกาสนี้เพื่อดูว่ากู้หลานอันจะสามารถทุ่มเทเพื่อตัวเองได้แค่ไหน แต่เพราะเขารู้แล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่งในขณะนี้

        เจาเยี่ยดึงหน้ากากขึ้นเดินเข้าไปกลางฝูงชน ภายใต้สายตาประหลาดใจของกู้หลานอัน เจาเยี่ยดึงเขาไว้แล้วแหวกฝูงชนวิ่งออกไป กู้หลานอันก็สนองตอบเงื่อนไขด้วยการวิ่งตามออกไปด้วย วิ่งจนถึงสถานที่ที่ไม่มีแฟนคลับตามมาแล้ว เจาเยี่ยค่อยหยุดวิ่ง หอบหายใจแล้วยืดตัวขึ้นพลางลูบหลังให้กู้หลานอัน

        “ฉันไม่เป็นไร” กู้หลานอันหันมาโบกมือไปมา จู่ๆ เสียงขาดห้วงไปอย่างฉับพลัน เงยหน้าขึ้นมองเจาเยี่ยแล้วพูดว่า “เจาเยี่ยทำไมจู่ๆ นายดึงฉันแล้ววิ่งออกมาเลยล่ะฉันกำลังเข้าร่วมการแข่งขันอยู่นะ จบกันๆ กลับไปตอนนี้ไม่ได้ที่หนึ่งแล้วแน่ๆ ” ในขณะที่พูดก็หันหลังจะกลับไป เจาเยี่ยฉีกยิ้มแล้วดึงเขาเข้าสู่อ้อมอกทันใด ถามเสียงแผ่วเบาว่า “ทำไมนายถึงดึงดันจะเอาที่หนึ่งให้ได้ล่ะเห็นอยู่แท้ๆ ว่าไม่ชอบกินบ๊ะจ่างขนาดนั้น แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่มีความสุขขนาดนั้น แต่กลับยืนกรานจะเอาที่หนึ่งให้ได้ เพราะอะไร?

        “เพราะว่าสนุกไง” กู้หลานอันตอบ

        “จริงเหรอทำไมฉันถึงรู้สึกว่านายอยากได้ที่หนึ่งเพราะของรางวัลนะ? ” เจาเยี่ยยิ้มอย่างชั่วร้ายในขณะที่แฉเขา

        “จะเป็นยังงั้นไปได้ยังไงของรางวัลของที่หนึ่งคืออะไรฉันยังไม่รู้เลย” กู้หลานอันไม่ยอมรับแต่ใบหน้ากลับแดงซ่าน ทำอย่างไรดี…เขารู้แล้ว น่าอายจริงๆ เจาเยี่ยจะคิดว่าเขาอยากให้เจาเยี่ยขอแต่งงานไหมนะ

        “ของรางวัลของที่หนึ่งคือแหวน” เจาเยี่ยไม่ได้แฉเขา เห็นสภาพที่อยู่นิ่งๆ ก็น่ารักแบบนี้ของกู้หลานอันทำให้เขาเปลี่ยนคำพูดเล็กน้อย แล้วก็พูดความจริงออกมาว่า “เจ้าเด็กน้อย นายอยากได้แหวนวงนั้น เพราะว่าอยากให้ฉันสวมมันให้นายใช่ไหม?

        “ไม่ใช่สักหน่อย” กู้หลานอันหน้าแดงระเรื่อพูดอึกๆ อักๆ “ฉัน ฉัน ฉัน ฉันแค่รู้สึกว่านิ้วมือดูว่างเกินไป ดังนั้นก็เลยอยากสวมอะไรสักอย่าง

        “จริงเหรอ? ” เจาเยี่ยเอื้อมมือไปลูบผมของเขา ดวงตากวาดมองไปรอบๆ แวบหนึ่ง คลายมือจากกู้หลานอัน เดินไปเก็บกระป๋องขึ้นมาแล้วใช้มือบิดกระป๋อง แล้วเดินกลับมาข้างๆ กู้หลานอันที่ยังคงตะลึงงันอยู่ สวมห่วงอันนั้นบนนิ้วมือเขาแล้วพูดว่า “เจ้าเด็กน้อย ฉันไม่อยากให้นายต้องอึดอัดใจที่จะทำอะไรแบบนั้น แหวนวงนั้นไม่ต้องเอาแล้ว ถ้าหากนายอยากสวมอะไรสักอย่าง งั้นสวมนี่นะ แม้ว่าจะเทียบกับวงนั้นไม่ได้ แต่รูปร่างมันก็เหมือนกัน

        กู้หลานอันมองหน้าเจาเยี่ยแล้วก็มองแหวนที่อยู่บนนิ้วมือ ใบหน้าแดงก่ำ ภรรยาเพิ่งสวมแหวนแต่งงานให้ฉัน!!!

        “เป็นอะไรดีใจจนอึ้งไปเลยเหรอ? ” เจาเยี่ยมองกู้หลานอันที่ตกตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออกอยู่นานแล้วถามเขาอย่างขบขัน

        “ไม่นี่ ไม่ใช่สักหน่อย ฉันไม่ดีใจเลยสักนิด สวมห่วงสีเงินบนนิ้วฉันนี่มันหมายความว่ายังไง” กู้หลานอันได้สติคืนมาเพราะคำพูดของเจาเยี่ย หันหลังให้เจาเยี่ยแล้วโต้แย้งเขา ลูบแหวนบนนิ้วมือไปมาด้วยความตื่นเต้นสุดขีด

        เจาเยี่ยส่ายหัวมองดูเขาด้วยรอยยิ้ม จนเขาดีใจเสร็จ [1] แล้วค่อยถามเขาว่า “เจ้าเด็กน้อย เมื่อกี้คนที่ถนนบอกว่าการแข่งขันพายเรือมังกรกำลังจะเริ่มแล้ว นายอยากไปเข้าร่วมการแข่งขันไหม?

        “ไป” กู้หลานอันหันกลับมา ซ่อนใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มแห่งความสุขทันที แล้วแสดงสีหน้าเหมือนปกติแล้วกอดแขนเจาเยี่ยแน่น แล้วออกคำสั่งว่า “ออกเดินทางได้

        การแข่งขันการแข่งพายเรือมังกรของที่นี่กำหนดให้พายลำละสองคน ใครพายถึงเส้นชัยก่อนก็ชนะ ของรางวัลคือโทรทัศน์หนึ่งเครื่อง กู้หลานอันที่กำลังตื่นเต้นสุดๆ ลงสมัครเสร็จแล้วก็เอาแต่มอง “แหวน” ด้วยรอยยิ้มอยู่อย่างนั้น ดูเขาไม่มีท่าทีอยากแข่งขันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว สงสัยเขาคงไม่อยากได้ของรางวัลรายการนี้ เจาเยี่ยก็ไม่ได้อยากปลุกเขาให้ตื่นจากภวังค์ พายเรือแข่งคนเดียวอย่างช้าๆ [2]

        “เจาเยี่ยฉันอยากร้องเพลง” ไม่ง่ายเลยที่กู้หลานอันจะมีสติขึ้นมาได้ เจาเยี่ยกลับได้ยินเขาพูดอะไรแบบนี้ขึ้นมากะทันหัน ยังไม่ทันได้ตอบ ก็ได้ยินเขาร้องขึ้นมาจากด้านหลัง “พี่ชายพี่นั่งหัวเตียงนะ เดี๋ยวน้องสาวนั่งปลายเตียงเอง…” ร้องไปด้วยพลางลุกขึ้นยืน เจาเยี่ยนิ่วหน้าเตือนเขา “นายระวังอย่า…”

        ยังพูดไม่ทันจบ กู้หลานอันก็ลื่นล้มแล้วตกลงไป

        “ฮัดชิ้ว~ ฮัดชิ้ว~” พันผ้าห่มหดตัวอยู่บนโซฟา กู้หลานอันจามและกำลังตัวสั่น มองเจาเยี่ยที่กำลังเคี่ยวน้ำขิงให้เขาแล้วบ่นว่า “เจาเยี่ย น้ำในแม่น้ำเย็นมากเลย ฉันตกลงไปปุ๊บนายก็ดึงฉันขึ้นมาปั๊บยังเป็นหวัดได้อีก

        “จะโทษใครได้ล่ะ? ” เจาเยี่ยกล่าวพลางเหล่ตามองเขาแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

        กู้หลานอัน: เจาเยี่ยไม่รักฉันแล้วจริงๆ ด้วย ฉันป่วยแล้วยังไม่ห่วงฉันอีก

        เคี่ยวน้ำขิงเสร็จแล้ว เจาเยี่ยก็ยกมา เห็นกู้หลานอันกำลังมองตัวเองด้วยความเสียใจ เจาเยี่ยเกาหลังหัวเขาแกรกๆ ถามเขาอย่างงุนงงว่า “เป็นอะไร?

        “ไม่เป็นอะไร” กู้หลานอันงอนไม่สนใจเขา ดึงผ้าห่มมาพันตัว จู่ๆ มือก็ชะงัก เงยหน้ามองเจาเยี่ยด้วยใบหน้าน่าสงสารพูดกับเขาว่า “เจาเจา ฉันหนาวจังเลย

        “หนาว? ” เจาเยี่ยเอื้อมมือมาแตะหน้าผากเขา คิ้วขมวดเล็กน้อย “มีไข้นิดๆ แล้ว” มองเขาแวบหนึ่งแล้วดึงรังผ้าห่มของกู้หลานอันให้เปิดออกและจับมือของเขากางออก เจาเยี่ยยื่นน้ำขิงในมือให้เขาตรงหน้าแล้วกล่าวกับเขาว่า “ดื่มเข้าไปก็ไม่หนาวแล้ว เด็กดี

        “หืม เจาเยี่ยนายเป็นท่อนไม้เหรอเนี่ย? ” กู้หลานอันทนไม่ไหวถึงกับบ่นออกมา รับน้ำขิงมาดื่มรวดเดียวหมดอย่างโกรธเคือง

        “เป็นอะไร? ” เจาเยี่ยไม่เข้าใจพลางรับถ้วยคืนมา

        “ไม่มีอะไร” ใบหน้าของกู้หลานอันเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

        “ไม่มีอะไรงั้นก็รีบนอนเถอะ นอนหลับก็ไม่หนาวแล้ว ตื่นมาก็หายจากหวัดแล้ว” เจาเยี่ยพูดพลางให้เขานอนลง กู้หลานอันถอนหายใจ พันผ้าห่มแน่น เดิมทีเขาวางแผนว่าจะงอนเจาเยี่ยต่ออีกสักหน่อย ให้เขาเวลาเขาได้คิดใคร่ครวญทบทวนดู แต่คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะหลับไปอย่างรวดเร็ว

        หลังจากล้างจานเสร็จ ออกมาก็เห็นกู้หลานอันนอนหลับไปเรียบร้อย เจาเยี่ยจับหน้าผากเขา เห็นว่าไม่ได้ร้อนมากแล้วก็หยิบกระเป๋าตังก์แล้วออกประตูไป กลับมาถลกผ้าห่มออกก็เห็นกู้หลานอันใช้มือข้างหนึ่งกุมแหวนบนนิ้วมือไว้ มือที่เพิ่งวางบนตัวกู้หลานอันกำลังจะยกออก ก็ได้ยินกู้หลานอันพึมพำว่า “ฉันบอกว่าหนาวนายก็ต้องกอดฉันไว้สิตาบื้อ

        ที่แท้เมื่อครู่ที่ทำตัวผิดปกติขนาดนั้นเพราะอยากให้ฉันกอดหรอกหรือ เจาเยี่ยยิ้มแล้วเข้าไปกอดและจูบหน้าผากเขา จับมือเขาแยกออกจากกันแล้วถอดห่วงกระป๋องออก หยิบแหวนคู่ผู้ชายที่เขาเพิ่งออกไปซื้อมาเมื่อสักครู่ สวมให้เขาวงหนึ่งบนนิ้วมือของเขา แนบลงไปข้างหูเขาแล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “สวมแหวนของฉันแล้วนายก็เป็นคนของฉันแล้ว นายต้องตามใจตาทื่อคนนี้ตลอดไป นายเต็มใจไหม กู้หลานอัน?

         

        คำอธิบายเพิ่มเติม

        [1] นักเขียน: ครึ่งชั่วโมงเต็มๆ …

        [2] ไม่ใช่ว่าเจาเยี่ยไม่เคารพการแข่งขันและไม่พยายามอย่างเต็มที่ แต่การแข่งขันแบบนี้เป็นการสร้างมาเพื่อคนเป็นร้อยอยู่แล้ว คนเข้าแข่งขันจำนวนมากล้วนได้รับอนุญาตแล้วว่าสามารถพายเล่นได้

 

Author Jinovel