มิติใหม่ของพื้นที่อ่านนิยาย จัดเต็มแบบล้นคลัง ทั้งนิยายแปลจีน ญี่ปุ่นและไทย เฟ้นหาทุกหมวดคุณภาพให้ทุกคนได้อ่านกันฟินๆ พร้อมอ่านฟรีจำนวนมาก!! อย่ารอช้า! รีบสมัครสมาชิกมาเปิดประสบการณ์ความสนุก พร้อมระเบิดความมันส์ ผ่านการอ่านไปพร้อมกันได้ที่ อ่านนิยายด็อทเน็ต  

อ่านนิยาย เล่มที่ 3 บทที่ 66 อกตัญญู

        เรื่องส่งอวี๋จิ่นซูเข้าไปเรียนในสำนักศึกษาระดับอำเภอ สตรีแซ่อวี๋โจวเป็นคนลอบหารือกับอวี๋หรูไห่ตามลำพัง หากเป็นเมื่อก่อน อวี๋หรูไห่จะต้องไม่ตกปากรับคำแน่นอน แต่ยามนี้อวี๋เจียวตรวจไข้จนหาเงินได้ถึงเพียงนี้ ภายในจวนมีกินมีใช้ไม่น้อย เขาถึงได้ตกปากรับคำ

        ตอนที่อวี๋หรูไห่ตกปากรับคำ เขาไม่ได้คำนึงว่าครอบครัวใหญ่จะไม่พอใจหรือไม่แม้แต่นิด เมื่อเห็นสีหน้าขุ่นเคืองของสตรีแซ่จาง อวี๋หรูไห่หันไปมองทางอวี๋เฉียวซานด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “เจ้าใหญ่ เจ้าก็คิดเช่นนี้เหมือนกันรึ?”

        สตรีแซ่จางกลัวว่าอวี๋เฉียวซานผู้มีนิสัยยอมรับความลำบากโดยไม่ขัดขืนจะยอมถอยอีกครั้ง นางจึงลอบเอื้อมมือไปหยิกเขาครู่หนึ่ง

        ยากจะได้เห็นอวี๋เฉียวซานไม่ยอมอ่อนข้อ “ลูกคิดเช่นนี้ขอรับ”

        อวี๋หรูไห่ถลึงตาใส่อวี๋เฉียวซาน หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน เมื่อก่อนบุตรชายคนโตไม่เคยอกตัญญูกับเขา ขอเพียงทำหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย ไม่ว่าเขาเอ่ยสิ่งใด บุตรชายคนโตล้วนฟังทั้งสิ้น นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะโวยวายไปพร้อมสตรีแซ่จาง

        “นี่เจ้าไปฟังวาจาไร้เหตุผลของผู้ใดมา?” อวี๋หรูไห่เอ่ยเสียงนิ่ง “จือโจวอายุยังน้อย เสียเวลาไปอีกสักหน่อยก็ไม่เป็นอะไร พวกเจ้าสองคนตั้งท่าโต้แย้งกันเช่นนี้ ไม่เท่ากับทำให้พี่น้องไม่กี่คนแตกหัก สกุลอวี๋ของข้าไม่สงบสุขอย่างนั้นหรือ?”

        สตรีแซ่จางอดทนมาตลอดหลายปี ยามนี้ทนกล้ำกลืนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว จดจ้องสายตาเคร่งขรึมของสตรีแซ่อวี๋โจวกลับไปแล้วกัดฟันเอ่ยว่า “ท่านพ่อบอกว่าพวกเราโต้แย้ง แต่หากท่านกับท่านแม่ตักน้ำชามเดียวเสมอกัน ครอบครัวใหญ่ของพวกเราจำต้องโต้แย้งหรือเจ้าคะข้ารู้ว่าท่านกับท่านแม่ลำเอียงรักพี่รองกับพี่สี่ แต่จือโจวก็เป็นหลานชายของท่านเช่นกัน เขาก็ใกล้จะถึงวัยหารือเรื่องแต่งงานแล้ว เหตุใดท่านถึงไม่เตรียมการเผื่อเขาบ้างเจ้าคะ?”

        สตรีแซ่จ้าวฟังแล้วโมโหจนกระทืบเท้า ระยะหลังมานี้จางชิวหลันกินหัวใจหมีเข้าไปเสียแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อนออกหน้าแทนสตรีแซ่ซ่ง นึกไม่ถึงว่าวันนี้ยังกล้าขวางเรื่องส่งจิ่นซูไปเรียนในสำนักศึกษาระดับอำเภอ!

        นางกระโดดโลดเต้นด้วยความโมโหราวกับลูกระเบิด ร้องบริภาษว่า “จางชิวหลัน ท่านพ่อท่านแม่จะทำอันใด เจ้ามีสิทธิ์สอดปากอย่างนั้นหรือเจ้ามันคนใจจืดใจดำ คุณธรรมถูกสุนัขกินไปแล้วหรือท่านพ่อท่านแม่จะลำเอียงรักพี่น้องครอบครัวสามของพวกเราได้อย่างไรตั้งแต่เด็ก จือโจวกับจือหางของพวกเจ้าไม่เคยทนหนาวทนหิว! เจ้าริษยาที่จิ่นซูจะได้ไปเรียนในสำนักศึกษาระดับอำเภอ แต่ก็ควรดูด้วยว่าจือโจวของเจ้าใช่คนที่เหมาะกับการร่ำเรียนหรือไม่! ใช้เงินในจวนส่งเขาไปเรียนในสำนักศึกษาระดับตำบล เจ้าก็ควรจะรู้จักพอได้แล้ว ยังกล้าคิดจะไปเรียนในสำนักศึกษาระดับอำเภอ!”

        สตรีแซ่จางไม่หวาดกลัว เอ่ยพลางยกยิ้มเย็นว่า “ในห้องนี้ผู้ใดไม่มีตาบ้างเจ้าช่างหน้าไม่อายที่บอกว่าข้าไร้คุณธรรม ยามปกติท่านแม่คอยถือหางครอบครัวสามของเจ้านั้นไม่ชัดเจนมากพออีกหรือขอเพียงในจวนมีของกินดีๆ มีหรือจะตกมาถึงครอบครัวใหญ่กับครอบครัวรอง ไม่ได้ตกไปอยู่ในปากครอบครัวสามของพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ!”

        วันนี้สตรีแซ่จางคิดจะก่อเรื่องให้เป็นเรื่องใหญ่ ความไม่พอใจในยามปกติทะลักออกมาจนสิ้น สิ่งที่ควรและไม่ควรล้วนเอ่ยออกมาทั้งหมด

        “ไม่ว่าจะมีอะไรดี ท่านแม่ล้วนแต่นึกถึงครอบครัวสามของพวกเจ้า ครอบครัวใหญ่ของพวกเราและครอบครัวรองไม่มีเงินสำรองแม้แต่อีแปะเดียว แต่ในมือครอบครัวสามของเจ้ากลับร่ำรวย จิ่นเหยียน จิ่นซูมีกระดาษเซวียนให้ใช้ไม่หมด เจ้าสามก็ออกไปดื่มเหล้ากับผู้อื่นไม่น้อยครั้ง ครั้นถึงสิ้นปีเด็กๆ ของพวกเราไม่เคยได้อาภรณ์ชุดใหม่ แต่จิ่นซู จิ่นเหยียนกลับสวมใส่เสื้อผ้าไม่ต่างจากตระกูลมั่งคั่ง! เช่นนี้ยังไม่เรียกลำเอียงอีกหรือเงินในจวนล้วนเป็นเงินที่ทุกคนหามา เหตุใดต้องเอาให้ครอบครัวสามของพวกเจ้าใช้ส่งจิ่นเหยียนไปเรียนในสำนักศึกษาระดับอำเภอแล้ว ยามนี้มีสิทธิ์อะไรถึงส่งจิ่นซูเข้าไปอีกเจ้าบอกว่าจือโจวไม่ใช่คนที่เหมาะกับการร่ำเรียน จิ่นเหยียน จิ่นซูก็สอบไม่ผ่านขุนนางระดับต้นเช่นกันไม่ใช่หรือหากพวกเขาเป็นคนที่เหมาะกับการร่ำเรียน จะยังต้องจ่ายเงินเข้าสำนักศึกษาระดับอำเภอและซื้อรายชื่อยื่นสอบขุนนางในฤดูใบไม้ร่วงไปทำไมเจ้ากลับวิจารณ์จือโจวของข้าอย่างหน้าไม่อาย!”

        หวังเมิ่งเยียนกับอวี๋จือหางได้ยินเสียงทะเลาะภายในห้องโถงและเพิ่งรีบร้อนตามมา ขณะยืนอยู่นอกประตูแล้วได้ยินคำกล่าวเหล่านั้นของแม่สามีตนเอง นางรู้สึกเพียงได้ระบายความโกรธออกมา นางเพิ่งแต่งเข้าสกุลอวี๋ไม่กี่ปีแต่เข้าใจนิสัยอดทนและยอมถอยของพ่อสามีและแม่สามีเป็นอย่างดี ในยามปกติ นางก็หลบเลี่ยงคมดาบและเมินเฉยต่อการกระทำของครอบครัวสามมาโดยตลอด

        อวี๋จือหางค่อนข้างเป็นกังวล “แย่แล้ว ท่านแม่เอ่ยวาจาเหล่านี้ ภายหน้าท่านย่าจะต้องไม่แสดงสีหน้าดีๆ ให้ครอบครัวใหญ่ของพวกเราดูแน่นอน!”

        หวังเมิ่งเยียนเอ่ยปลอบ “ทะเลาะกันครั้งนี้อาจไม่ใช่เรื่องร้ายอะไร ยามปกติท่านย่าก็ไม่เคยใส่ใจครอบครัวใหญ่ของพวกเรา เจ้ายังหวังว่านางจะแสดงสีหน้าดีๆ ให้เจ้าดูหากอีกประเดี๋ยวทะเลาะกันไม่จบ เจ้าแค่บอกว่าจะแยกบ้านเป็นพอ ไม่ต้องสอดปากเรื่องอื่น”

Author Jinovel