เฟิงชิงชิงกระเด็นไปกระแทกพื้นจนหมดสติไปทันที
หลงอวี้สงบลง ก้าวเท้าไปอยู่ข้างๆ เฟิงชิงชิง ปลดยุทธภัณฑ์ ถุงมือวิญญาณล่องลอยบนมือนางออก
หลังจากสวมถุงมือวิญญาณล่องลอยแล้ว หลงอวี้ก็ลองซัดออกไปสองฝ่ามือ พบว่าถุงมือวิญญาณล่องลอยสามารถเพิ่มพลังที่มือขวาได้ถึงสามส่วน นี่เป็นแค่ผลลัพธ์จากยุทธภัณฑ์ระดับล่างเท่านั้น!
ยากจะจินตนาการได้จริงๆ ว่าหากยอดฝีมือที่มียุทธภัณฑ์ระดับกลางหรือระดับสูงในครอบครองจะแข็งแกร่งมากเพียงใด
‘เฟิงชิงชิง วันนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าหนึ่งครั้ง หากมีครั้งหน้า ข้าจะไม่เมตตาอีกต่อไป’
หลงอวี้คิดในใจ ก่อนจะหันหลังเดินไปริมธาร เก็บโสมโบราณระดับล่างต้นนั้นขึ้นมาอย่างทะนุถนอม
จากนั้นเขาก็เงยหน้า มองไปทั่วบริเวณ
“จุดที่สามารถดูดกลืนพลังจากโสมโบราณได้อย่างปลอดภัย ดูเหมือนจะมีแค่บนต้นไม้เท่านั้น…”
หลงอวี้พิจารณาดังนั้น ก็วิ่งไปใต้ต้นไม้โบราณที่มีใบไม้ค่อนข้างหนาแน่นต้นหนึ่งที่ห่างไปไม่ไกล เขาปีนขึ้นไปบนต้นไม้ต้นนั้น
ไม่นาน เขาก็ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางใบไม้บนต้นไม้ที่สูงสิบจ้าง เขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์กว้างไกลจากบนนั้นได้ ต่อให้มีอันตรายย่างกรายเข้ามาเขาก็จะรู้รู้ตัวได้ทันที
หลงอวี้นั่งนิ่งๆ บนนั้น เชื่อว่าไม่มีใครสามารถพบตัวเขาได้ง่ายๆ แน่!
จากนั้นเขาก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า กินโสมโบราณระดับล่างและเริ่มดูดกลืนพลังฟ้าดินที่อยู่ในนั้นทันที
สัญลักษณ์มังกรปรภพก็ถูกปลุกขึ้นมาด้วย หลังจากกินโอสถมาแล้วหลายครั้ง หลงอวี้ก็คุ้นชินกับการใช้สัญลักษณ์มังกร สามารถกักเก็บพลังฟ้าดินจากโสมโบราณเจ็ดส่วนไว้ในสัญลักษณ์มังกรได้อย่างง่ายดาย
ส่วนสามส่วนที่เหลือนั้น หลงอวี้ดูดกลืนเข้าไปตรงๆ
เส้นลมปราณในกายขยายขึ้นอีกครั้ง ไม่นานพลังพื้นฐานของตัวเขาก็เพิ่มขึ้นจากสามหมื่นสองพันชั่งเป็นสามหมื่นสามพันชั่ง
“ผลลัพธ์ไม่เลว”
หลงอวี้ค่อนข้างพอใจ จากนั้นก็เริ่มดูดกลืนพลังฟ้าดินที่เก็บไว้ในสัญลักษณ์มังกรปรภพเจ็ดส่วนต่อทันที
สามหมื่นสี่พันชั่ง
สามหมื่นห้าพันชั่ง!
หลงอวี้ดูดกลืนพลังฟ้าดินจากโสมโบราณจนเสร็จสิ้น ลมปราณพลุ่งพล่านทั่วร่าง เกิดการพัฒนาขึ้น แต่ก็แค่เพิ่มพลังให้เท่านั้น สำหรับเขาที่ตอนนี้วรยุทธ์ขั้นหก หากต้องการจะยกระดับขึ้น เขายังขาดพลังฟ้าดินอีกมากโข
โสมโบราณระดับล่างหนึ่งต้นถูกหลงอวี้ดูดกลืนพลังจนเกลี้ยง ไม่มีถูกทิ้งเสียเปล่าแม้แต่เศษเสี้ยว หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ต้องสร้างความตื่นตะลึงไม่น้อยแน่
เขาซ่อนตัวอยู่ในยอดพุ่มไม้ของต้นไม้โบราณ เริ่มปรับลมหายใจฟื้นฟู การต่อสู้กับเฟิงชิงชิงเมื่อครู่ ทำให้ลมปราณในร่างกายถูกใช้ไปบางส่วน หากยังไม่ฟื้นฟูจนกลับไปอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน หลงอวี้ก็จะไม่เดินทางต่อ
วันเวลาล่วงเลย พระอาทิตย์ตกอย่างไม่รู้ตัว ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดลง
ตอนนั้นเอง หลงอวี้พลันสัมผัสได้ถึงพลังฟ้าดินอันเข้มข้นสายหนึ่งที่แผ่มาจากที่ไกลๆ ปกคลุมเขาไว้ทั้งตัว และเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ด้วย!
‘มีคนถือโสมโบราณกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้!’
หลงอวี้ตื่นตะลึงในใจ ดูจากความเข้มข้นของพลังฟ้าดินนั่นแล้ว ต้องไม่ใช่โสมโบราณระดับล่างแน่ น่าจะเป็นระดับกลาง!
แต่ไม่มีทางเป็นระดับสูง เพราะโอสถระดับสูงจะมีพลังฟ้าดินเข้มข้นกว่านี้หลายเท่า ใช่ว่าหลงอวี้จะไม่เคยเห็น
“โสมโบราณระดับกลาง ถ้ามีโอกาสก็ชิงมันมาเลยก็แล้วกัน”
หลงอวี้ไม่ใช่พ่อพระอยู่แล้ว หากพบโอกาสที่จะทำให้เขายกระดับพลังได้ เขาจะคว้าไว้อย่างไม่ลังเล
ไม่นาน ผู้ที่ปรากฏตรงหน้าเขากลับเป็นคนรู้จักดี
เขาที่ดูจากด้านบน เห็นเงาร่างสายหนึ่งวิ่งพุ่งมาลิบๆ คนผู้นั้นสวมชุดสีขาว คือหลิงหานแห่งลัทธิสยบฟ้า!
หลิงหานถือโสมโบราณระดับกลางต้นหนึ่ง กำลังวิ่งมาทางนี้ ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บด้วย ความเร็วในการวิ่งจึงไม่ได้สูงนัก
ด้านหลังของเขามีเงาร่างสายหนึ่งไล่ตามมาติดๆ คือลูกศิษย์ของสำนักน้ำแข็งเยือกในชุดเสื้อคลุมไหมสีน้ำเงิน หลิ่วหมิงเซวียน!
“หลิ่วหมิงเซวียนทำร้ายศิษย์พี่หลิงหานอย่างนั้นหรือ?”
ดวงตาของหลงอวี้เผยประกายเย็นยะเยือก ดูท่าจะต้องลงมืออีกรอบ
หลิงหานที่กำลังพุ่งมาทางนี้สีหน้าเคร่งเครียด เห็นได้ชัดว่าเขาบาดเจ็บที่ขา เกรงว่าอีกไม่นานหลิ่วหมิงเซวียนคงตามทัน
หลิ่วหมิงเซวียนที่ไล่ตามหลังมาหัวเราะดังสนั่นไปด้วย
“หลิงหาน เจ้าคิดจะหนีไปที่ไหนอีก? รีบส่งโสมระดับกลางมาซะดีๆ ไม่อย่างนั้น ถ้าข้าไล่ทันเจ้าละก็ ข้าจะทำลายวรยุทธ์เจ้าทิ้ง ทำให้กลายเป็นสวะไร้ค่า!”
ดูจากท่าทางเหิมเกริมของมัน ก็ชัดเจนแล้วว่าหลิงหานเป็นเพียงลูกไก่ในกำมือสำหรับมัน ไม่ว่าอย่างไรก็หนีไม่รอด
อันที่จริง หากหลงอวี้ไม่บังเอิญอยู่ใกล้พอดี หลิงหานก็ไม่มีวิธีหนีเอาชีวิตรอดไปได้อีกแล้ว
แต่ตอนนี้เรียกได้ว่าไอ้หลิ่วหมิงเซวียนกำลังรนหาที่ตายโดยไม่รู้ตัว
‘จะทำลายวรยุทธ์ของศิษย์พี่หลิงหานหรือ จิตใจอำมหิตจริงๆ’
หลงอวี้คิดในใจพลางหรี่ตาลง รู้สึกรังเกียจไอ้หลิ่วหมิงเซวียนมากกว่าเดิม
“หืม? ศิษย์น้องเฟิง?”
ในตอนนั้นเอง หลิงหานที่วิ่งนำหน้าก็พบเฟิงชิงชิงที่นอนหมดสติ จึงหน้าถอดสีไปทันที เขาหยุดเท้าลงเตรียมจะเข้าไปดูอาการของเฟิงชิงชิง
หลงอวี้เห็นเช่นนั้นพลันรู้สึกอึ้งเล็กน้อย
เจ้าหลิงหานนี่ช่างจิตใจดีเสียเหลือเกิน ตัวเองกำลังถูกศัตรูที่แกร่งกว่าไล่ฆ่าอยู่แท้ๆ ยังคิดจะหยุดดูอาการของเฟิงชิงชิงอีก!
“หลิงหาน เจ้านี่ช่างเป็นคนดีจริงๆ นะ ฮ่าฮ่า!”
หลิ่วหมิงเซวียนที่ไล่ตามหลังมา หัวเราะเสียงดัง
“แต่น่าเสียดายที่ในโลกใบนี้ คนดีแบบเจ้าไม่มีใครอายุยืนเลยสักคน!”
เขาหัวเราะพร้อมกับทะยานออกไป เกิดสายลมกระโชก!
ในที่สุดหลงอวี้ที่มองจากบนต้นไม้สูงก็เห็นโอกาส ดีดตัวลงมายังจุดที่หลิ่วหมิงเซวียนอยู่พร้อมกับออกหมัดข้างหนึ่งชกออกไปอย่างรุนแรง!
หมัดที่สวมถุงมือวิญญาณล่องลอยไว้ปล่อยหมอกสีดำบางๆ ออกมาชั้นหนึ่ง ทำให้พลังหมัดของเขาเพิ่มขึ้น มีพละกำลังถึงห้าหมื่นกว่าชั่ง!
หลงอวี้ไม่โง่ เขาย่อมไม่ส่งเสียงตอนที่กำลังลอบโจมตี
กว่าหลิ่วหมิงเซวียนจะพบความผิดปกติเหนือหัวตัวเองนั้น หมัดของหลงอวี้ก็เข้าใกล้มากแล้ว!
“เป็นแค่สวะยังกล้าลอบกัดอีก!”
หลิ่วหมิงเซวียนตอบสนองอย่างรวดเร็ว หยุดเท้าลงในพริบตา แววตาฉายประกายดุร้าย
หลังจากนั้นเขาก็สะบัดแขนทั้งสองข้างออก ลมปราณถูกอัดแน่นกลายเป็นรูปร่างของมังกรเยือกแข็งสองตัว ก่อนจะพุ่งใส่หลงอวี้ตรงๆ!
พริบตานั้นการโจมตีของทั้งสองฝ่ายได้ปะทะกันจนเกิดระเบิดกลางอากาศ
เพราะใช้งานอย่างฉุกละหุก พลังของคลื่นมังกรเยือกแข็งครั้งนี้จึงไม่สูงมาก ถูกหลงอวี้ชกแหลกในหมัดเดียว! จากนั้นเงาร่างของหลงอวี้ก็ได้เคลื่อนไปข้างหน้าต่อโดยไม่หยุดยั้ง หมัดที่ชกออกไปพุ่งเข้าใส่หลิ่วหมิงเซวียนทันที
“ท่าร่าง!”
หลิ่วหมิงเซวียนขยับเท้าไปมา ร่างกายเบาบางดุจสายลม พริบตาเดียวก็ถอยไปได้หลายก้าว
หลงอวี้เพิ่งกระโดดลงมาจากบนต้นไม้ จึงไม่สามารถไล่ตามต่อ ได้แต่ยืนตั้งหลักอีกครั้ง ในจุดที่หลิ่วหมิงเซวียนเคยอยู่
“ศิษย์น้องหลงอวี้?”
หลิงหานที่อยู่ข้างๆ ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองนัก แต่พอสังเกตดีๆ ก็พบว่าเป็นหลงอวี้ที่โผล่มากะทันหันและบีบให้หลิ่วหมิงเซวียนต้องถอยไป
“ศิษย์พี่หลิงหาน ท่านพาศิษย์พี่เฟิงไปก่อนเถิด”
หลงอวี้พูดโดยไม่หันกลับไปมอง
“เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ศิษย์พี่จะยอมทิ้งเจ้าไว้คนเดียวได้อย่างไร เจ้าวางใจเถิด ศิษย์พี่จะต่อสู้เคียงบ่าเจ้าเอง!”
คำพูดของหลิงหานแฝงความแข็งกร้าวน่าเกรงขาม!
“เช่นนั้นศิษย์พี่ท่านช่วยดูแลศิษย์พี่เฟิงไว้ก่อน ถ้านางถูกจับเป็นตัวประกันละก็แย่แน่”
หลงอวี้ได้แต่เกลี้ยกล่อม
หลิงหานได้ยินเช่นนั้นก็เห็นด้วย ถ้าจู่ๆ มีใครไม่รู้โผล่มาจับตัวเฟิงชิงชิง พวกเขาคงลำบากยิ่งกว่าเดิมน่ะสิ?
พอคิดถึงตรงนี้ หลิงหานก็อุ้มเฟิงชิงชิงขึ้นมาแล้วถอยไปอยู่ใต้ต้นไม้โบราณต้นหนึ่ง
“ศิษย์น้องหลงอวี้ เจ้ารั้งมันไว้ก่อนครู่หนึ่ง ศิษย์พี่จะรีบไปช่วยเจ้าเอง!”
หลิงหานตะโกนทิ้งท้าย จากนั้นก็เริ่มตรวจสภาพบาดแผลของเฟิงชิงชิง
หลิ่วหมิงเซวียนที่ยืนนิ่งอยู่นั้น หัวเราะเย้นหยันหลงอวี้
“ไอ้สวะ เจ้ายังกล้าเสนอหน้ามาเจอข้าเองอีกหรือ เช่นนั้นข้าคงต้องขยี้เจ้าให้กลายเป็นเศษสวะจริงๆ เสียแล้ว!”
“ถ้าเจ้าทำได้ก็ลองดู”
หลงอวี้ตอบอย่างเยือกเย็น
“หึ ข้าจะเตือนอะไรเจ้าอย่างหนึ่ง คุณชายหวังเทียนจัวของตระกูลหวังแห่งเขตพระราชฐานได้หมายตาน้องเฟิงเหยาไว้”
หลิ่วหมิงเซวียนพูดด้วยท่าทางโอหัง
“ไอ้สวะอย่างเจ้า ทางที่ดีอยู่ให้ห่างจากน้องเฟิงเหยาหน่อยจะดีกว่านะ!”
“เจ้าใช้ตาข้างไหนมองถึงเห็นว่าข้าเข้าใกล้เฟิงเหยา?”
หลงอวี้พูดอย่างเฉยชา
“เจ้าจะขยี้ข้าทิ้งไม่ใช่หรือ จะพูดพล่ามทำไม!”
“ในเมื่อรีบร้อนอยากตายขนาดนี้ เช่นนั้นข้าจะสงเคราะห์ให้”
หลิ่วหมิงเซวียนกระแทกเสียงเย็นชา ลมปราณทั่วร่างพลุ่งพล่าน ชุดคลุมสีน้ำเงินขยับตามสายลม เห็นได้ชัดว่าระดับพลังของเขาไม่ธรรมดา!
จากนั้นหลิ่วหมิ่งเซวียนก็ก้าวออกมาอย่างแผ่วเบา ให้วิชาท่าร่าง เคลื่อนตัวเข้าหาหลงอวี้อย่างรวดเร็ว
แขนทั้งสองข้างของเขามีลมปราณปกคลุมไว้ ราวกับมังกรเยือกแข็งสองตัวกำลังแผดเสียงเกรี้ยวกราด ครั้งนี้เขาจะปล่อยพลังคลื่นมังกรเยือกแข็งในระยะประชิด เพราะถ้าทำแบบนี้จะมีอานุภาพทรงพลังยิ่งขึ้น!
ความเร็วของหลิ่วหมิงเซวียนสูงมาก แต่หลงอวี้ก็ได้ใช้วิชาวายุก้าวพริบตา เร่งพลังของรองเท้าเหมันต์คลั่ง ความเร็วจึงไม่ได้ด้อยไปกว่าอีกฝ่าย
ร่างกายของหลงอวี้เบาดุจสายลม พริบตาเดียวก็ฉีกตัวไปอยู่ข้างๆ ได้ วิชาคลื่นมังกรเยือกแข็งของหลิ่วหลิงเซวียนจึงซัดโดนอากาศว่างเปล่า!
“มีรองเท้าแบบนี้ด้วยหรือ!”
หลิ่วหมิงเซวียนตาเป็นประกายทันที รู้สึกตะลึงระคนยินดีเหมือนเฟิงชิงชิงไม่มีผิด
นี่มันของดี!
“วันนี้เจ้าต้องตายเท่านั้น!”
หลิ่วหมิงเซวียนพูดอย่างอำมหิต จากนั้นโซ่เหล็กสีดำเส้นหนึ่งพลันพุ่งออกมาจากแขนเสื้ออย่างเงียบงัน ราวกับอสรพิษชั่วร้าย พริบตาเดียวก็พันรัดร่างกายของหลงอวี้ไว้
ยุทธภัณฑ์ของหลิ่วหมิงเซวียน กลับเป็นโซ่เหล็กสีดำบางๆ เส้นหนึ่ง!
จากนั้นหลิ่วหมิงเซวียนก็ได้ปล่อยวิชาคลื่นมังกรเยือกแข็งในระยะประชิดอีกครั้ง วิชานี้เป็นวิทยายุทธ์ขั้นสูง ทั้งยังบรรลุถึงขั้นกลางแล้ว อานุภาพจึงยิ่งทรงพลังสุด!
“ไอ้สวะ ไปตายเสีย!”
หลิ่วหมิงเซวียนตาเป็นประกายโหดเหี้ยม แขนสองข้างซัดไปหาหลงอวี้!
หลิงหานที่อยู่ห่างไปไม่ไกลเงยหน้าขึ้นเห็นหลงอวี้ที่ถูกตรึงไว้อย่างแน่นหนากำลังจะถูกคลื่นมังกรเยือกซัดใส่ เขาพลันเกิดความตระหนก
“ศิษย์น้อง!”
หลิงหานตะโกนอย่างตะลึง!
แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ไกลเกินไป!
วินาทีนั้นหลงอวี้ก็ราวกับเห็นภาพตัวเองถูกหมัดนั่นซัดใส่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อเผชิญหน้ากับหลิ่วหมิงเซวียนที่มีวรยุทธ์ขั้นเจ็ด ไม่ว่าหลงอวี้จะเก่งสักแค่ไหนก็ไม่มีทางต้านรับการโจมตีเต็มกำลังของอีกฝ่ายได้แน่!
เพียงแต่ชะตาชีวิตหลงอวี้ถูกกำหนดให้สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้อื่น!
สองแขนของหลิ่วหมิงเซวียนซัดโดนไหล่ของหลงวี้ ในพริบตานั้น หลงอวี้ กลับสลายหายไปราวกับเป็นภาพลวงตา
ทั้งเขาและหลิงหานต่างก็อึ้งไปตามๆ กัน
วิธีการเดียวกัน แม้จะใช้ซ้ำอีกครั้ง แต่ก็ยังได้ผลลัพธ์แบบเดิม
“เจ้าจะขยี้ข้าทิ้งไม่ใช่หรือ ดูตอนนี้สิ ใครกันแน่ที่จะเป็นฝ่ายถูกขยี้!”
เสียงของหลงอวี้ดังขึ้นจากด้านหลังของหลิ่วหมิงเซวียน กำหมัดที่สวมถุงมือวิญญาณล่องลอยไว้นั้นมีลมปราณสีดำบางๆ ห่อหุ้มไว้ชั้นหนึ่ง จากนั้นก็มีแรงกดทับทรงพลังจากจินตภาพสยบฟ้าก็ได้ปกคลุมหลิ่วหมิงเซวียนไว้!